วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:29 น.

เศรษฐกิจ

เกษตรกรไทยเตรียมเฮ! “นภินทร” แจ้งข่าวดี Hema เพิ่มคำสั่งซื้อผลไม้ไทยพรีเมียมทุกชนิด มั่นใจ 1.1 ล้านตันปีนี้เข้าสู่ตลาดจีนแน่นอน 

วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 14.40 น.

 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างการนำคณะเยือนนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยแสดงความมั่นใจว่าการส่งออกผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ พร้อมประกาศแผนจัดกิจกรรม “Thai Fruit Golden Month” กลางปี 2568 เพื่อขยายตลาดและส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยในจีน
 
รมช.นภินทร เปิดเผยว่า ได้เยี่ยมชมห้าง Hema Premium ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกระดับพรีเมียมในเครือ Alibaba Group ที่มีทั้งระบบขายหน้าร้านและออนไลน์ โดยมีเครือข่ายกว่า 454 สาขาทั่วประเทศจีน รวมถึง 87 สาขาในนครเซี่ยงไฮ้ พบว่าผลไม้ไทยหลายชนิด เช่น ทุเรียนหมอนทอง มะพร้าว มังคุด และส้มโอ เป็นที่นิยมของผู้บริโภคจีน และได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ โดยผู้บริหาร Hema ยืนยันว่าผลไม้ไทยขายดีมาก และคาดว่ายอดขายในปี 2568 จะเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ไทยส่งออกทุเรียนสดและแช่แข็งไปจีนในปี 2567 ราว 920,000 ตัน และในปี 2568 ผลผลิตทุเรียนของไทยเพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านตัน เป็น 1.5 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นอีก 300,000 ตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เชื่อว่าตลาดจีนสามารถรองรับ ปริมาณผลผลิตผลไม้ไทย 1.1 ล้านตันในปี 2568 นี้ได้แน่นอน จากการลงพื้นที่สำรวจตลาดในหลายภูมิภาคของจีน ทั้งภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก พบว่าผู้บริโภคจีนยังคงมีความต้องการผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทุเรียน

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำมาตรการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยผลไม้ไทยจะต้องมีความสุกพอดี ผ่านการตรวจสอบวันเก็บเกี่ยว ปริมาณความหวาน น้ำตาล และเปอร์เซ็นต์แป้ง ต้องปลอดจากศัตรูพืช ไม่มีการสวมสิทธิ์นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และต้องปลอดจากสารตกค้างทุกชนิด ทั้งสาร BY2 และโลหะหนัก เช่น แคดเมียม
 
นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันทางการจีนมีความเชื่อมั่นในระบบควบคุมคุณภาพของประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลให้กระบวนการตรวจสอบที่ด่านนำเข้าได้รับการผ่อนปรน ใช้ระยะเวลาเพียง 3–4 วัน ทำให้ทุเรียนไทยสามารถส่งออกได้รวดเร็วขึ้น โดยปัจจุบันมีการส่งออกเฉลี่ยวันละกว่า 800 ตู้ และสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้โดยไม่เกิดปัญหาติดค้างที่ด่านเหมือนในอดีต
.
นอกจากทุเรียนแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังเดินหน้าส่งเสริมผลไม้ไทยชนิดอื่น ๆ อาทิ มังคุด ส้มโอ เงาะ และมะพร้าว ซึ่งล้วนเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคจีน โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลางที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงมากกว่า 500 ล้านคน จากประชากรจีนรวมเกือบ 1,400 ล้านคน

เพื่อผลักดันการบริโภคผลไม้ไทยให้เข้าถึงผู้บริโภคจีนในวงกว้าง กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดกิจกรรม “Thai Fruit Golden Month” ร่วมกับ Hema ในช่วงเดือนมิถุนายน–กรกฎาคม 2568 โดยจะมีการจัดแสดงผลไม้ไทยในสาขาของ Hema ทั่วประเทศจีน จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย การทำอาหารไทยจากผลไม้ และรณรงค์กระแส “ก่อนตายต้องกินทุเรียนให้ครบ 19 สายพันธุ์” ซึ่งได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ของจีนเป็นอย่างมาก
 
รมช.นภินทร กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ผลไม้ไทยถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ไม่ขึ้นกับราคาตลาดโลกเหมือนพืชไร่หลายชนิด เกษตรกรไทยควรให้ความสำคัญกับการปลูกพืชที่สามารถส่งออกได้ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ มะพร้าว และส้มโอ ซึ่งจะช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน