วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:49 น.

เศรษฐกิจ

พาณิชย์เผยส่งออกไทยเดือน พ.ค. 68 โต 18.4% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทะลุ 1 ล้านล้าน

วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 10.07 น.

“พิชัย” ปลื้มส่งออกไทยเดือน พ.ค. 68 โต 18.4% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทะลุ 1 ล้านล้าน บาท ชี้! รัฐบาลแพทองธาร 8 เดือน ส่งออกไทยขยายตัวแล้ว 13.3% กวาดรายได้เข้าประเทศ 215,798.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7.23 ล้านล้านบาท) 

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568   นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวสถานการณ์การส่งออกของไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2568 ณ ห้องมโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 กระทรวงพาณิชย์ โดยมีผู้บริหารระดับสูงร่วมงาน อาทิ นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า

นายพิชัย เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 31,044.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,025,477 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ในอัตราร้อยละ 18.4 ซึ่งนับเป็น อัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่มีนาคม 2565 และถือเป็นมูลค่าการส่งออกรายเดือน สูงสุดในประวัติศาสตร์

หากไม่รวมกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย การส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 20.3 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการชะลอการใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ และความต้องการสินค้าเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งผลให้สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และแผงวงจรไฟฟ้า เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่สินค้าเกษตร โดยเฉพาะ มันสำปะหลัง ทุเรียน มังคุด และเงาะ ก็กลับมาฟื้นตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

สำหรับภาพรวม 5 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกไทยขยายตัวร้อยละ 14.9 (หากไม่รวมสินค้าน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย จะขยายตัวที่ร้อยละ 13.9)

สินค้าเด่นและตลาดสำคัญที่ขยายตัว
สินค้าอุตสาหกรรม: ขยายตัวถึงร้อยละ 22.9 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 นำโดย คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์ และอัญมณี (ไม่รวมทองคำ)
สินค้าเกษตร: กลับมาขยายตัวร้อยละ 6.8 หลังชะลอตัวหลายเดือน โดยเฉพาะผลไม้สด มันสำปะหลัง และมะม่วง

ตลาดส่งออกสำคัญที่เติบโตดี ได้แก่
-สหรัฐฯ +35.1% (โตต่อเนื่อง 20 เดือน)
-จีน +28.0%
-ตะวันออกกลาง +22.8%
-เอเชียใต้ +22.3%
-แอฟริกา +21.4%
-สหภาพยุโรป +16.6%
-อาเซียน +8.8%

นายพิชัย กล่าวว่า ผลงานของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกไทยขยายตัวแล้วถึง ร้อยละ 13.3 สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศรวมกว่า 215,798.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 7.23 ล้านล้านบาท และคาดว่าหากแนวโน้มยังคงอยู่ในทิศทางบวก จะเป็นปีทองของการส่งออกไทยอย่างแท้จริง

“อย่างที่ผมย้ำมาตลอดว่า ปีนี้จะเป็น ‘ปีทอง’ ของการส่งออก เราไม่ได้เติบโตเพียงเพราะนโยบายต่างประเทศของบางประเทศ แต่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของสินค้าไทยและการทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันของทุกกรมในกระทรวงพาณิชย์ ผมมั่นใจว่าในสิ้นปีนี้ เราจะเห็นการขยายตัวแตะตัวเลข สองหลัก ได้แน่นอน” นายพิชัยกล่าว

นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ยังระบุว่ากระทรวงฯ ได้เริ่มเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ส่งออกไทยในระยะยาว

นายพิชัย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งตัว อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตร โดยเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย ที่ค่าเงินอ่อนลงจนสามารถตั้งราคาสินค้าได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาทิศทางค่าเงินอย่างรอบคอบ เพื่อสนับสนุนภาคการส่งออก

“กระทรวงพาณิชย์วิ่งขายของอย่างเดียวไม่พอ ถ้าค่าเงินยังแข็งแบบนี้ผู้ส่งออกโดยเฉพาะเกษตรกรจะได้รับผลกระทบหนัก เราอยากเห็นค่าเงินอ่อนลงบ้าง เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้รอบด้าน ทั้งการส่งออก การลงทุน และรายได้ของประชาชน” นายพิชัยกล่าว

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวเพิ่มเติม รายละเอียดดังนี้

มูลค่าการค้ารวม

มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนพฤษภาคม 2568 การส่งออก มีมูลค่า 31,044.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 18.4 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 29,928.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 18.0 ดุลการค้า เกินดุล 1,116.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพรวมการส่งออก 5 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 138,202.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 14.9 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 139,325.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11.3 ดุลการค้า ขาดดุล 1,123.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนพฤษภาคม 2568 การส่งออก มีมูลค่า 1,025,477 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.8 
เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 1,001,162 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.5 ดุลการค้า เกินดุล 24,315 ล้านบาท ภาพรวมการส่งออก 5 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 4,640,426 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.2 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 4,736,361 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.9 ดุลการค้า ขาดดุล 95,936 ล้านบาท

การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 8.1 (YoY) กลับมาขยายตัวในรอบ 
3 เดือน โดยสินค้าเกษตร ขยายตัวร้อยละ 6.8 กลับมาขยายตัวในรอบ 5 เดือน และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว
ร้อยละ 10.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ขยายตัว
ร้อยละ 10.2 กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดจีน มาเลเซีย เวียดนาม สหรัฐฯ และกัมพูชา) ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 9.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหราชอาณาจักร จีน มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้)  ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 75.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน(ขยายตัวในตลาดอินเดีย มาเลเซีย เมียนมา จีน และเวียดนาม) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 10.5 กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ลิเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ขยายตัวร้อยละ 25.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 17 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐ กัมพูชา ลาว และมาเลเซีย) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัวร้อยละ 15.5 กลับมาขยายตัวในรอบ 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินเดีย) และผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 24.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 20 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และแคนาดา) 

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว หดตัวร้อยละ 9.9 หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (หดตัวในตลาดฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น อิรัก ฮ่องกง และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ แอฟริกาใต้ จีน ไนจีเรีย และแคนาดา) ยางพารา หดตัวร้อยละ 7.8 กลับมาหดตัวในรอบ 19 เดือน (หดตัวในตลาดจีน มาเลเซีย สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และอินเดีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น เวียดนาม บราซิล เยอรมนี และอิตาลี) และเนื้อสัตว์และของปรุงแต่งที่ทำจากเนื้อสัตว์ หดตัวร้อยละ 0.1 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน 
(หดตัวในตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ลาว ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่ขยายตัวในตลาดกัมพูชา เมียนมา ฮ่องกง เยอรมนี และสิงคโปร์) ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 0.2

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 22.9 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 104.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 15.0 กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เวียดนาม และสหรัฐฯ) 
ผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัวร้อยละ 34.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ขยายตัวร้อยละ 34.8 กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์และเยอรมนี) แผงวงจรไฟฟ้า ขยายตัวร้อยละ 41.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดฮ่องกง ไต้หวัน จีน มาเลเซีย และสิงคโปร์) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 2.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิตาลี) 

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ เม็ดพลาสติก หดตัวร้อยละ 4.4 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดจีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และเวียดนาม แต่ขยายตัวในตลาดมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ตุรกี เบลเยียม และกัมพูชา) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 20.8 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดเนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น จีน ลาว และฮ่องกง แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เม็กซิโก สิงคโปร์ ไอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ หดตัวร้อยละ 9.5 กลับมาหดตัวหลังจากขยายตัวในเดือนก่อนหน้า (หดตัวในตลาดจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย เนเธอร์แลนด์ อียิปต์ และไต้หวัน) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด หดตัวร้อยละ 32.1 หดตัวต่อเนื่อง 15 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง อินเดีย สาธารณรัฐเช็ก และเวียดนาม แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไต้หวัน) ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 19.6

ตลาดส่งออกสำคัญ
การส่งออกขยายตัวเกือบทุกตลาดสำคัญ ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากประเทศผู้นำเข้าเร่งสั่งซื้อสินค้า ในช่วงที่สหรัฐฯชะลอการบังคับใช้ภาษีต่างตอบแทนเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยการส่งออกขยายตัวเร่งขึ้นในตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป และตลาดรอง อาทิ ทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ (1) ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 19.0 โดยขยายตัวต่อเนื่องในตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 35.1 
จีน ร้อยละ 28.0 สหภาพยุโรป (27) ร้อยละ 16.6 และ CLMV ร้อยละ 20.8 แต่หดตัวเล็กน้อยในตลาดอาเซียน (5) ร้อยละ 0.3 และญี่ปุ่น ร้อยละ 0.9 (2) ตลาดรอง ขยายตัวร้อยละ 18.6 โดยขยายตัวในตลาดเอเชียใต้ ร้อยละ 22.3 ทวีปออสเตรเลีย 
ร้อยละ 8.4 ตะวันออกกลาง ร้อยละ 22.8 แอฟริกา ร้อยละ 21.4 ลาตินอเมริกา ร้อยละ 15.9 รัสเซียและกลุ่ม CIS ร้อยละ 18.0 และสหราชอาณาจักร ร้อยละ 20.0 (3) ตลาดอื่น ๆ หดตัวร้อยละ 15.0

ตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 35.1 (ขยายตัวต่อเนื่อง 20 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และอัญมณีและเครื่องประดับ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 27.2 
 
ตลาดจีน ขยายตัวร้อยละ 28.0 (ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 17.9 

ตลาดญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 0.9 (กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ไก่แปรรูป แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 0.8
 
ตลาดสหภาพยุโรป (27) ขยายตัวร้อยละ 16.6 (ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น 
เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 8.9 
 
ตลาดอาเซียน (5) หดตัวร้อยละ 0.3 (กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ข้าว น้ำมันสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์ สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และน้ำตาลทราย ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 4.8

ตลาด CLMV ขยายตัวร้อยละ 20.8 (ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 11.7 

ตลาดเอเชียใต้ ขยายตัวร้อยละ 22.3 (ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อัญมณีและเครื่องประดับ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 51.9 

ตลาดทวีปออสเตรเลีย ขยายตัวร้อยละ 8.4 (กลับมาขยายตัวในรอบ 6 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ทั้งนี้ 
5 เดือนแรกของปี 2568 หดตัวร้อยละ 8.8 

ตลาดตะวันออกกลาง ขยายตัวร้อยละ 22.8 (กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ข้าว เคมีภัณฑ์ และยางพารา ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 8.1 

ตลาดทวีปแอฟริกา ขยายตัวร้อยละ 21.4 (กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว และเครื่องยนต์สันดาปภายใน สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 6.4 

ตลาดลาตินอเมริกา ขยายตัวร้อยละ 15.9 (กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น 
หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 12.2 

ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ขยายตัวร้อยละ 18.0 (ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ทั้งนี้ 
5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 22.2 
   
ตลาดสหราชอาณาจักร ขยายตัวร้อยละ 20.0 (ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และไก่แปรรูป สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 11.4

แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป

แนวโน้มการส่งออกในปี 2568 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ต้องติดตามผลการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีความคืบหน้า หลังจากที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ที่กรุงปารีส 
โดยไทยได้จัดส่งข้อเสนอเชิงนโยบายที่มุ่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ภายใต้กรอบความร่วมมือที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยมีผลตอบรับในเชิงบวกจากฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะปูทางไปสู่
การเจรจาเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ทางการค้า และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกรอบเจรจาที่เน้นสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงเฝ้าติดตามปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าไทย ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ความวุ่นวายในภูมิภาคตะวันออกกลาง และปัญหาการเบี่ยงเบนการค้า ซึ่งทางกระทรวงฯ ให้ความสำคัญสูงสุดและติดตามอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้าแก่ทุกฝ่าย