วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 10:45 น.

เศรษฐกิจ

OR ผนึก บางกอกแอร์เวย์ส นำร่องใช้น้ำมัน SAF ที่ผลิตในไทยครั้งแรก

วันจันทร์ ที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.20 น.

OR ผนึก บางกอกแอร์เวย์ส นำร่องใช้น้ำมัน SAF ที่ผลิตในไทยครั้งแรก

 

OR ร่วมกับ บางกอกแอร์เวย์ส นำร่องใช้น้ำมัน SAF ที่ผลิตในไทยเป็นครั้งแรก ยกระดับการบินสู่ความยั่งยืน 

 

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จับมือ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บางกอกแอร์เวย์ส (PG) เดินหน้านำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นครั้งแรก สำหรับเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ ระหว่างประเทศ จาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินไทยสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

 

โครงการนำร่องดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) เรื่อง การซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ซึ่งผลิตโดยผู้ผลิตภายในประเทศเป็นครั้งแรกในประเทศไทย สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศของสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง OR ในฐานะผู้นำตลาดน้ำมันอากาศยาน และบางกอกแอร์เวย์สในฐานะสายการบินชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแพซิฟิก เพื่อร่วมกันสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศและอุตสาหกรรมการบินโลก

 

 

น้ำมัน SAF ที่ใช้ในโครงการฯ นี้ ผลิตโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ซึ่งใช้กระบวนการ Co-Processing สำหรับอุตสาหกรรมการบินเป็นครั้งแรก โดยนำน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) มาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงสะอาด ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ บางกอกแอร์เวย์สจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วน SAF 1% โดยมีปริมาณรวม 5,000,000 สำหรับใช้ในเที่ยวบิน เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศ นอกจากนี้ การเติมน้ำมันนำร่องครั้งนี้ ยังถือเป็นการใช้งาน SAF สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งมีการออกใบรับรอง Proof of Sustainability (POS) ครบถ้วน เพื่อให้สายการบินสามารถนับรวมในการลดคาร์บอนตามกรอบของ ICAO หรือ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศได้

 

การใช้ SAF ที่พัฒนาขึ้นจากวัตถุดิบเหลือใช้ นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์แล้ว ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเสีย และเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทยในการพัฒนาเชื้อเพลิงสะอาดที่ผลิตได้ในประเทศ พร้อมรองรับการขยายสัดส่วนการใช้ SAF อย่างต่อเนื่องในอนาคต ความร่วมมือของ OR และ บางกอกแอร์เวยส์ ครั้งนี้ จึงไม่เพียงยกระดับอุตสาหกรรมการบินไทย แต่ยังสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวสู่ผู้นำด้านพลังงานสะอาดในภูมิภาคอย่างแท้จริง