วันอังคาร ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.18 น.
ทช.เร่งขยาย ถ. สาย ชบ.3023 เชื่อม พานทอง – บ้านบึง เป็น4เลน เปิดใช้ต้นปี69
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนสาย ชบ.3023 แยก ทล.315 – บ้านหนองปลาไหล อำเภอพานทอง, บ้านบึง จังหวัดชลบุรีว่า ปัจจุบันผลงานมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 69 คาดว่าในช่วงต้นปี 2569 จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถเปิดให้ประชาชนใช้ในการสัญจรได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์ การคมนาคมขนส่งสินค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ยกระดับมาตรฐานความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยในการเดินทาง รวมทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณคอขวดเดิมให้มีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากถนนสายดังกล่าวเป็นถนนสายหลักที่ประชาชนใช้สัญจรจากอำเภอบ้านบึงไปยังอำเภอพานทอง หรือเชื่อมไปยังทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ผ่าน ทล.315 และเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างแหล่งอุตสาหกรรม ในพื้นที่ จึงทำให้มีปริมาณการจราจรต่อวันเป็นจำนวนมาก

สำหรับงานก่อสร้างว่า สำหรับโครงการดังกล่าว ก่อสร้างระยะทาง 12.242 กิโลเมตร ตั้งแต่ กม.ที่ 0+000 (บริเวณแยก ทล.315 กม.ที่ 14+600) ถึง กม.ที่ 12+242 (บริเวณถนนวิฑูรย์ดำริ บ้านหนองปลาไหล) แบ่งเป็น ถนนผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก ระยะทาง 9.200 กิโลเมตร ตั้งแต่ กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 9+200 ความกว้างผิวทาง 14 เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2 - 3 เมตร ทางเท้ากว้างข้างละ 3.40 - 3.70 เมตร และถนนผิวจราจรแอสฟัลต์คอนกรีต ระยะทาง 3.042 กิโลเมตร ตั้งแต่ กม.ที่ 9+200 ถึง กม.ที่ 12+242 ความกว้างผิวทาง 13 - 14 เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร ไหล่ทางกว้างข้างละ 1 - 2.50 เมตร และทางเท้ากว้างข้างละ 2.90 - 3.70 เมตร รวมทั้งก่อสร้างสะพานใหม่ทดแทนสะพานเดิม จำนวน 3 แห่ง ปรับปรุงขยายสะพานเดิม จำนวน 1 แห่ง พร้อมติดตั้งระบบระบายน้ำ ไฟฟ้าแสงสว่าง และสิ่งอำนวยความปลอดภัย โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 879.800 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมในเรื่องการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทช. ให้ความสำคัญ ทั้งการติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟกระพริบ สัญญาณไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตลอดแนวโครงการ เพื่อเป็นการแจ้งเตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง รวมทั้งการรดน้ำบริเวณโครงการก่อสร้าง เพื่อลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ช่วยบรรเทาปัญหาที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนผู้อาศัยใกล้เคียงพื้นที่ก่อสร้าง