วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 13.55 น.
รัฐ–เอกชน–สังคม รวมพลังบนเวทีเสวนา ‘ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทย’
เดินหน้าหาทางออกปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมาย
คณะอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย จัดเวทีเสวนา “ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทย” โดยมี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยผู้แทนจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย การยาสูบแห่งประเทศไทย กรมสรรพสามิต ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ สมาคมการค้ายาสูบไทย และสื่อมวลชนเข้าร่วมเวทีเสวนา ดำเนินรายการโดยนายวราวิทย์ ฉิมมณี ผู้ประกาศข่าวจากเนชั่นทีวี ช่อง 22

นายจิรายุ กล่าวว่า นโยบายที่เอาจริงเอาจังและเข้มข้นของรัฐบาลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ปัญหาหาบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าหายไปจากระบบเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่พบเห็นการวางจำหน่ายบริเวณหน้าร้านค้าทั่วไป ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีร้านจำหน่ายบุุหรี่ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลราว 500 ร้านค้า และหากนับรวมทั่วประเทศจะมีมากกว่า 2,000 ร้านค้า แต่ในวันนี้ ไม่มีแล้ว ถือว่าสำเร็จ 100% แต่กลับพบว่าร้านค้าเหล่านี้ แอบนำไปจำหน่ายบริเวณหลังร้าน และขายผ่านช่องทางออนไลน์ราว 40-50% ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องดำเนินการเชิงรุกในการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง เวทีเสวนาในวันนี้เป็นเวทีที่เปิดให้ทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน เรามีทั้งหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เกษตรกร ผู้ค้า และสื่อมวลชน เพื่อหาทางออกให้กับปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายที่สอดคล้องกับความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม
พล.ต.ท.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ พยายามสร้างกลไกกลาง ที่ไม่ใช่แค่จับแล้วจบ แต่ต้องบูรณาการทั้งการข่าว การปราบปราม การป้องกัน และการสร้างความเข้าใจในสังคม ปัญหานี้ต้องแก้พร้อมกันในทุกด้าน
นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า บุหรี่เถื่อนไม่ได้กระทบแค่ ยสท. แต่กระทบเกษตรกรกว่า 22,000 ครอบครัว ร้านค้าปลีก 400,000 ราย และประชาชนผู้บริโภคที่ต้องเสี่ยงภัยจากสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ถ้าไม่ร่วมกันแก้ วันนี้ความเสียหายจะยิ่งทวีคูณ
นายปรียวิศว์ พริ้งศุลกะ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและกำกับดูแลการจัดเก็บภาษี กรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิตเข้าใจถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน ซึ่งการแก้ปัญหานี้จะต้องทำควบคู่ไปกับนโยบายการคลังและภาษีที่เหมาะสม หากโครงสร้างภาษีไม่สมดุล บุหรี่เถื่อนก็จะยังมีช่องโหว่ให้เติบโตต่อไปได้
นายกิตติทัศน์ ผาทอง ผู้แทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เสียงของเกษตรกรคือเสียงที่มักถูกมองข้าม แต่ความจริงเราคือคนที่อยู่แนวหน้า เป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมยาสูบ ได้รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุด หากตลาดยาสูบถูกบุหรี่เถื่อนทำลายเช่นนี้ต่อไป อาชีพเกษตรกรก็อาจจะหายไป จึงอยากให้มาตรการที่ชัดเจน เข้มข้น และเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า สถานการณ์บุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากภาครัฐยังไม่เร่งยกระดับการปราบปรามให้เข้าถึงต้นตอและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ปัญหานี้อาจทวีความรุนแรงจนยากเกินควบคุม
นายธานินทร์ หิรัญโชติ นายกสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ กล่าวว่า เราคือคนขายปลีกที่อยู่กับผู้บริโภคทุกวัน ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่คือชีวิตจริงของเรา ถ้าไม่มีมาตรการจริงจัง ร้านค้าจำนวนมากจะต้องปิดตัวลง จึงอยากให้ภาครัฐและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหานี้ และมีบทลงโทษที่เข้มข้นสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมาย
นายกมล ชวาลวิทย์ บรรณาธิการข่าวข้อมูล สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า กล่าวว่า หน้าที่ของสื่อมวลชนคือเป็นสะพานเชื่อมให้ประชาชนเข้าใจภาพรวม และทำให้เกิดแรงกดดันเชิงบวก เพื่อผลักดันนโยบาย เราเชื่อว่าพลังจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน