วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568 02:09 น.

เศรษฐกิจ

BDI ผนึก สปสช. รุกขยายเครือข่าย Health Link สู่ภาคเหนือ

วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.42 น.

BDI ผนึก สปสช. รุกขยายเครือข่าย Health Link สู่ภาคเหนือ

 

BDI ผนึก สปสช. รุกขยายเครือข่าย Health Link สู่ภาคเหนือ หนุนระบบสาธารณสุขไร้รอยต่อ พร้อมชูกลยุทธ์ 3 Healths ขับเคลื่อนสุขภาพดิจิทัล ตั้งเป้าเชื่อมโยงหน่วยบริการกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2569

สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ผนึกกำลัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เดินหน้าขยายเครือข่ายโครงการ Health Link ต่อเนื่อง เพื่อยกระดับศักยภาพการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ สามารถเชื่อมโยงหน่วยบริการสุขภาพได้แล้วกว่า 2,237 แห่ง ล่าสุดได้ขยายพื้นที่การดำเนินงานสู่ภาคเหนือ โดยนำร่องพื้นที่ สปสช. เขต 3  ครอบคลุมหน่วยนวัตกรรมกว่า 550 แห่ง พร้อมเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มตามยุทธศาสตร์ 

“3 Healths” ได้แก่ บริการด้านสุขภาพ (Health Service), การเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Financing) และการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและปัญญาประดิษฐ์ (Health Analytics & AI) เพื่อมุ่งสู่การวางรากฐานระบบสุขภาพดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Health System) ตั้งเป้าขยายเครือข่ายครอบคลุมหน่วยบริการในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ อีกกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2569

 

นพ.ธนกฤต จินตวร รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) ด้านบริหารกิจการพิเศษ กล่าวว่า BDI ให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายบริการด้านสุขภาพสู่ระดับภูมิภาค โดยการลงพื้นที่ ที่ชาตรีคลินิก การพยาบาลและการผดุงครรภ์ จังหวัดนครสวรรค์ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของโครงการ Health Link ในการกระจายเครือข่ายการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้เป็นการต่อยอดจากการดำเนินงานในพื้นที่นำร่องก่อนหน้านี้ เริ่มจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากการใช้งานแพลตฟอร์ม Health Link ในการยกระดับคุณภาพการดูแลรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เนื่องจากระบบสามารถลดความซ้ำซ้อนในการตรวจวินิจฉัย เพิ่มความแม่นยำในการรักษา และสนับสนุนการประสานงานระหว่างหน่วยบริการสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่มีการย้ายถิ่นฐานหรือเปลี่ยนสถานพยาบาลบ่อยครั้ง ทำให้สามารถได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

 

ปัจจุบัน มีสถานพยาบาลและหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ Health Link แล้วรวมกว่า 2,237 แห่ง แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 1,592 แห่ง และในต่างจังหวัดจำนวน 645 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างไร้รอยต่อ ครอบคลุมตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ จนถึงตติยภูมิ เพื่อให้การรักษามีความปลอดภัย ครบถ้วน และลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการจากหน่วยบริการที่เชื่อมโยงข้อมูลได้ทุกแห่ง โดยไม่จำกัดเฉพาะโรงพยาบาลตามสิทธิ

 

ทั้งนี้ BDI ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการ Health Link อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการและครอบคลุมทุกมิติของระบบสุขภาพ ภายใต้กลยุทธ์หลัก 3 Healths ได้แก่

• บริการด้านสุขภาพ (Health Service) มุ่งเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าบูรณาการข้อมูลสำคัญ อาทิ ข้อมูลสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (Prevention and Promotion-PP), ระบบที่ใช้ในการจัดเก็บรูปภาพทางการแพทย์ (PACS), ข้อมูลการระบาดของโรค (Epidemic) และข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับการพัฒนาแพลตฟอร์มเสริม เช่น PHR (Personal Health Record), บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกหน่วยบริการ (Lab Anywhere) และบริการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวก ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพในทุกพื้นที่ โดยตั้งเป้าขยายการเชื่อมต่อครอบคลุมกว่า 15,000 หน่วยบริการทั่วประเทศภายในปี 2569

• การเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Financing) ดำเนินการบูรณาการข้อมูลจาก 3 กองทุนสุขภาพหลักของภาครัฐ เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนของสิทธิการรักษา และสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการ พร้อมนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายที่ตรงจุด สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และช่วยให้ผู้มีสิทธิสามารถเข้าถึงและใช้บริการสาธารณสุขได้อย่างเต็มที่ ครอบคลุม และทั่วถึง

• การวิเคราะห์สุขภาพด้วยข้อมูลและ AI (Health Analytics & AI) มุ่งสนับสนุนการวางแผนบริการและกำหนดนโยบายด้านสาธารณสุขบนฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ครอบคลุม และเชื่อถือได้ จากทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนำมาประมวลผลเชิงลึกและสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Health Link ยังพัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพที่สามารถเชื่อมโยงและประมวลผลจากหลากหลายแหล่งข้อมูล (Data Source) เพื่อสร้างภาพรวมด้านสุขภาพของประชาชนที่แม่นยำ ครอบคลุม และสามารถใช้วางแผนเชิงรุกได้ในระยะยาว

 

“การเดินหน้าขยายการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้ครอบคลุมหน่วยบริการทั่วประเทศ สะท้อนบทบาทเชิงรุกของ BDI ในการวางรากฐานสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Nation) โดยบูรณาการข้อมูลจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อรองรับการวางแผน จัดสรรทรัพยากร และกำหนดนโยบายได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง” นพ.ธนกฤต กล่าวสรุป 

 

ด้าน นพ.ปฏิภาคย์ นมะหุต ผู้แทนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 3 จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ BDI ในครั้งนี้ ถือเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขต 3 ซึ่งครอบคลุมหน่วยบริการสุขภาพใน 5 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ ชัยนาท พิจิตร และอุทัยธานี โดยปัจจุบันมีหน่วยบริการกว่า 550 แห่ง คาดว่าในอนาคตจะเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่านระบบ Health Link ให้มากที่สุด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือหลักในการส่งต่อข้อมูลระหว่างสถานพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ 

 

“การดำเนินงานดังกล่าว ไม่เพียงช่วยยกระดับการให้บริการเชิงปฏิบัติในระดับพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบสุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Health System) ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐสามารถวิเคราะห์แนวโน้มด้านสุขภาพของประชาชนในแต่ละพื้นที่ วางแผนการจัดสรรทรัพยากรได้อย่างตรงจุด และยกระดับคุณภาพบริการให้ครอบคลุมทั้งการป้องกันและการรักษาได้อย่างยั่งยืน” นพ.ปฏิภาคย์ กล่าว