วันศุกร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568 02:02 น.

เศรษฐกิจ

‘ปลัดพาณิชย์’ หารือซาอุดีฯเร่งขยายการค้าสองฝ่าย  ดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและสินค้าไทยสู่ตลาด GCC

วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.05 น.

‘ปลัดพาณิชย์’ หารือซาอุดีฯ เร่งขยายการค้าสองฝ่าย  ดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและสินค้าไทยสู่ตลาด GCC

 

‘ปลัดพาณิชย์’ หารือซาอุดีอาระเบีย ดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและงานแสดงสินค้า แนวทางการวางแผนพัฒนาประเทศ และอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ยา สมุนไพร การจัดทำนโยบายดูแลผู้สูงอายุ พร้อมเคาะจัดทำความตกลงการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศุลกากร ช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนสองฝ่าย

 

 

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการค้า ภายใต้สภาความร่วมมือซาอุดี-ไทย (Saudi-Thai Coordination Council) ร่วมกับนายอับดุลอะซีซ อัลซะคราน (H.E. Mr. Abdulaziz Alsakran) รองผู้ว่าการสำนักงานการค้าต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย

 

นายวุฒิไกร กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้ายุทธศาสตร์ของไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ภาคเอกชนมีกำลังซื้อ และมีความต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลจำนวนมาก รวมทั้งยังมีบทบาทนำในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปค รวมทั้งมีบทบาทนำในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ประกอบด้วย บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดังนั้น การกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้ากับซาอุดีอาระเบียจึงตอบโจทย์นโยบายขยายการส่งออกของไทยไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ

 

 

“ผมได้ประชุมวางแผนการทำงานสำหรับปี 2568-2569 ร่วมกับฝ่ายซาอุดีฯ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะยกระดับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าในด้านต่างๆ อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและงานแสดงสินค้าระหว่างกัน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการวางแผนพัฒนาประเทศ การร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เช่น หุ่นยนต์ ยานยนต์สมัยใหม่ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น รวมทั้งความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ยา และสมุนไพร ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดทำนโยบายดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้สอดรับกับทิศทางสังคมไทยในอนาคต นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นพ้องที่จะจัดทำความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศุลกากร ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุนระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ” นายวุฒิไกรกล่าว

 

ทั้งนี้ ในปี 2567 ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง การค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่า 7,757.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 2,856.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 4,900.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2568) การค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่า 3,846.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 1,250.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 2,595.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ และเคมีภัณฑ์