เมื่อวันที่ 9  ตุลาคม 2568 นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 5,793 ราย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ระดับ 49.4 เพิ่มขึ้นจากระดับ 47.9 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น จากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้สินและค่าครองชีพที่สูงยังคงเป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อความกังวลของผู้บริโภค โดยเฉพาะในภาคครัวเรือนและธุรกิจบริการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการท่องเที่ยวและการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 39.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 39.2 ในเดือนก่อน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) อยู่ที่ 56.0 ปรับตัวสูงขึ้นจาก 53.7 ซึ่งอยู่ในระดับ “เชื่อมั่น” โดยประชาชนมีมุมมองเชิงบวกต่อรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ “คนละครึ่ง” ที่จะเปิดลงทะเบียนในเดือนตุลาคมนี้ ขณะเดียวกัน ภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยในช่วงปลายปียังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการใช้จ่ายและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม

นายนันทพงษ์ระบุว่า แม้ดัชนีจะยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งสะท้อนภาวะ “ยังไม่เชื่อมั่น” แต่ทิศทางการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องถือเป็นสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุดคือ เศรษฐกิจไทย (47.90%) รองลงมาคือ มาตรการของภาครัฐ (12.84%) การเมือง (9.93%) สังคมและความมั่นคง (9.15%) เศรษฐกิจโลก (8.16%) ราคาสินค้าเกษตร (6.51%) ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (2.16%) ปัจจัยอื่น ๆ (1.97%) และภัยพิบัติหรือโรคระบาด (1.38%)

ในส่วนของ ดัชนีความเชื่อมั่นรายภูมิภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในระดับ “เชื่อมั่น” ที่ 51.9 ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอยู่ที่ 49.9 ภาคกลาง 48.8 ภาคเหนือ 46.9 และภาคใต้ 48.7 โดยดัชนีเกือบทุกภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น ยกเว้นภาคใต้ที่ลดลงเล็กน้อย

สำหรับ รายอาชีพ พบว่า 3 กลุ่มที่อยู่ในระดับ “เชื่อมั่น” ได้แก่ พนักงานของรัฐ (53.3) นักศึกษา (52.3) และผู้ประกอบการ (50.5) ส่วนกลุ่มที่ยังอยู่ในระดับไม่เชื่อมั่น ได้แก่ พนักงานเอกชน (49.1) อาชีพอิสระ (47.5) เกษตรกร (48.1) ผู้เกษียณหรือไม่ได้ทำงาน (48.5) และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (43.0) แต่ทุกกลุ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

นายนันทพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะยังไม่ฟื้นเต็มที่ แต่การขยับขึ้นของดัชนีในเดือนกันยายนสะท้อนถึงความหวังของประชาชนต่อทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวและเทศกาลสำคัญปลายปี”

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้ามาตรการดูแลค่าครองชีพ สนับสนุนภาคธุรกิจให้สามารถปรับตัว รักษาความสามารถในการแข่งขัน และขยายตลาดส่งออก รวมถึงการเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อเปิดตลาดใหม่และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว