วันอาทิตย์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568 03:32 น.

เศรษฐกิจ

“พิพัฒน์” เดินหน้า Landbridge – ระบบตั๋วร่วม หวังประชาชนได้ประโยชน์

วันพฤหัสบดี ที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.57 น.

“พิพัฒน์” เดินหน้า Landbridge – ระบบตั๋วร่วม หวังประชาชนได้ประโยชน์

 

นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนาสํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ครบรอบ 23 ปี ว่าในระยะเวลา 4 เดือนช่วงเวลาสั้นๆ นี้อะไรรัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วนได้ก็จะทำทันที โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมก็ต้องพยายามทำให้เห็นผลใน 4 เดือน ซึ่งบางอย่างอาจไม่สามารถเสร็จทัน โดยแฉพาะการวางโครงสร้างพื้นฐาน คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเสร็จ แต่จะมีการริเริ่ม และสรุปให้ได้ว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยในส่วนของ สนข . ได้ มอบนโยบายเร่งด่วนใน 5 ด้าน ที่ต้องดำเนินการให้เห็นผลใน 4 เดือนเช่น 1. เร่งดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 69 และจัดซื้อจัดจ้างให้ได้มากที่สุดใน 4 เดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล

2. การผลักดันร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้(พ.ร.บ.SEC) ให้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยเร็ว เพื่อสร้างศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในภูมิภาค

 

3.การเดินหน้าโครงการ Landbridge เชื่อมโยงอ่าวไทย–อันดามัน เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์แห่งอนาคต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SEC  ถือว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยที่จะเป็นการสร้างอาชีพบริเวณ 2 ฝั่งท่าเรือ ถือเป็นส่วนสำคัญของแลนด์บริจด์ ทั้งนี้ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินโครงการที่อาจจะเป็นการเจาะอุโมงค์ เพื่อลดการทำลายป่า และรักษาระบบนิเวศน์มากสุด ส่วน ร่าง พ.ร.บ. SEC นั้นอยู่ระหว่างการสรุปเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.โดยเร็ว เพื่อให้ทันพิจารณาในการประชุมสภาฯที่จะเปิดในวันที่ 12 ธ.ค.นี้

  4.การพัฒนาระบบตั๋วร่วมและค่าโดยสารร่วม (Common Ticketing System) เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ตั๋วเดียวเดินทางได้ทุกระบบขนส่ง ซึ่งเป็นการรวมโครงข่ายการเดินทางทั้งระบบรางและรถเมล์ เป็นโครงการเดียวกันที่สามารถใช้บัตรใบเดียวในการเดินทาง โดยไม่มีค่าแรกเข้าในการเชื่อมต่อเข้าระบบ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ไปในตัว 

 

ทั้งนี้  ปัจจุบันมีผู้ใช้ระบบรถเมล์ประมาณ 6 แสนคนต่อวัน และระบบรางเกือบ 2 ล้านคนต่อวัน  อย่างไรก็ตาม ใน 4 เดือนนี้ อาจจะยังไม่สามารถใช้ระบบตั๋วร่วมได้ แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาและหารือกับผู้เกี่ยวข้องทั้ง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และBTS และเอกชนผู้เดินรถเมล์ เพื่อให้ได้ข้อสรุป ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนอย่างแน่นอน

 

 ด้าน นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ รองผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร รักษาราชการแทน ผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า สนข. จะดําเนินการ ตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายอย่างเร่งรัด โดยมุ่งวางรากฐานระบบคมนาคมขนส่งของประเทศในอนาคต ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของรัฐบาล โดยเฉพาะการผลักดันโครงการ Landbridge ให้เกิดผลอย่าง เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ควบคู่กับการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายท่าอากาศยานชุมพรและระนอง เพื่อรองรับ การเดินทางและการขนส่งสินค้าที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาแผนเชื่อมต่อระบบขนส่งทุกโหมด ทั้งล้อ ราง และเรือ ให้เป็นระบบไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) เพื่ออํานวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน อย่างแท้จริง ทั้งนี้ สนข. ยังให้ความสําคัญกับการศึกษาระบบโลจิสติกส์ทางรางและทางน้ํา เพื่อช่วยลดต้นทุนขนส่ง ในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการนําเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลด้านคมนาคม เพื่อวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบ โจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ