วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568 03:31 น.

เศรษฐกิจ

ดัชนีราคาส่งออก–นำเข้าของไทยเดือนกันยายน 2568 ขยายตัวต่อเนื่อง หนุนโดยเทคโนโลยีและต้นทุนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 10.42 น.

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568  นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกและดัชนีราคานำเข้าของไทยในเดือนกันยายน 2568 ยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบและแรงงานในภาคอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังอยู่ในระดับสูง

นายนันทพงษ์กล่าวว่า การขยายตัวดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกและตอบสนองต่อการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการค้าโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นโยบายกีดกันทางการค้า การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง และการแข็งค่าของเงินบาท

ดัชนีราคาส่งออก เดือนกันยายน 2568
ดัชนีราคาส่งออกอยู่ที่ 111.4 เพิ่มขึ้น 0.5% (YoY) โดยได้รับแรงหนุนจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทองคำ และอาหารแปรรูป
หมวดสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 1.6%
ทองคำ ราคาปรับขึ้นจากความกังวลเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัวตามการลงทุนด้านดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศูนย์ข้อมูล (Data Center)
เครื่องปรับอากาศ ราคาขยับขึ้นตามความนิยมสินค้าแบบประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หมวดอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้น 0.9%
อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม, และ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยังคงมีความต้องการสูงในตลาดต่างประเทศ

ขณะที่ หมวดเกษตรกรรม ลดลง 6.4% จากราคาข้าว ผลไม้ ยางพารา และมันสำปะหลัง ที่ปรับลดตามอุปทานส่วนเกินและการแข่งขันจากประเทศคู่แข่ง
ส่วน หมวดแร่และเชื้อเพลิง ลดลง 5.3% ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง

ดัชนีราคานำเข้า เดือนกันยายน 2568
ดัชนีราคานำเข้าอยู่ที่ 116.4 เพิ่มขึ้น 3.7% (YoY) สะท้อนความต้องการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรม และการบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น
หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มขึ้น 7.2% จากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรม เครื่องประดับ และของใช้ทั่วไป
หมวดวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 6.0% โดยเฉพาะทองคำ ปุ๋ย และโลหะอุตสาหกรรม เช่น ทองแดงและอะลูมิเนียม
หมวดสินค้าทุน เพิ่มขึ้น 4.9% จากการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องจักรไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เพื่อรองรับการเติบโตของภาคการผลิตและเทคโนโลยีดิจิทัล
หมวดเชื้อเพลิง ลดลง 5.3% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดจากความกังวลภาวะอุปทานล้นตลาดและเศรษฐกิจโลกชะลอ
หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ราคาโดยรวมทรงตัว โดยส่วนประกอบยานยนต์มีราคาสูงขึ้น แต่รถยนต์โดยสารและรถบรรทุกปรับลดลงตามการแข่งขันราคา

แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2568
สนค. คาดว่าใน ไตรมาส 4 ปี 2568
ดัชนีราคาส่งออก มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย
ดัชนีราคานำเข้า ขยายตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน แต่มีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่
ความต้องการสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารในตลาดโลกเพิ่มขึ้น
ความต้องการสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี AI, Data Center และยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
ต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปลายปี

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ควรติดตาม ได้แก่
การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า
ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค
ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ
ปัญหาอุปทานส่วนเกินในสินค้าเกษตรบางกลุ่ม
แนวโน้มเงินบาทแข็งค่า ซึ่งอาจกระทบความสามารถแข่งขันด้านราคา