วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568 00:51 น.

เศรษฐกิจ

ฟื้นคืนผืนป่ากว่า 4,000 ไร่ ให้พื้นที่สีเขียวเติบโตเคียงข้างชาวแม่เมาะ

วันพฤหัสบดี ที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 09.05 น.

ฟื้นคืนผืนป่ากว่า 4,000 ไร่ ให้พื้นที่สีเขียวเติบโตเคียงข้างชาวแม่เมาะ

 

ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความหลากหลายทางชีวภาพยังคงเป็นเสมือนลมหายใจของธรรมชาติ ที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตให้ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ตั้งแต่ต้นไม้เล็ก ๆ ที่กำลังผลิใบ ไปจนถึงสรรพสัตว์ที่อาศัยพึ่งพาในผืนป่า ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันอย่างลงตัวและเกื้อกูลกันตามวิถีธรรมชาติ

 

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินภารกิจด้านพลังงานควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เหมืองลิกไนต์แม่เมาะ จังหวัดลำปาง ที่เริ่มฟื้นฟูตั้งแต่ปี 2525 จนผืนดินที่เคยแห้งแล้งค่อย ๆ กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

 

วันนี้ พื้นที่กว่า 4,000 ไร่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแม่เมาะ ได้รับการฟื้นฟูจนเขียวชอุ่มและกำลังอยู่ระหว่างการขอรับรองเป็นพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตป่าอนุรักษ์ (OECMs) สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของพื้นที่รอบเหมืองที่สามารถงอกงามเป็นผืนป่าได้ หากได้รับการดูแลอย่างตั้งใจ

 

ผืนป่าสีเขียวขนาดใหญ่แห่งนี้ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งการอนุรักษ์ธรรมชาติ การพักผ่อนของผู้คน และการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณค่าต่อสังคม

 

 

1) ป่าทดแทนที่เติบโตด้วยตัวเอง — เมื่อธรรมชาติได้โอบอุ้มผืนดินอีกครั้ง

 

จากผืนดินโล่งในวันวาน วันนี้ต้นไม้สูงใหญ่กว่า 20 เมตรตั้งตระหง่าน กิ่งก้านที่แผ่ออกช่วยสร้างร่มเงาและความชุ่มชื้น ต้นไม้เล็กใหญ่เติบโตเป็นสังคมพืชผสมผลัดใบ ใกล้เคียงกับระบบนิเวศดั้งเดิมอย่างน่าชื่นใจ

 

 

 

ความเขียวชอุ่มที่กลับมา ทำให้สัตว์ป่าหลายชนิดค่อย ๆ กลับคืนสู่ถิ่นเดิมของพวกเขา เป็นสัญญาณของระบบนิเวศที่เริ่มสมดุลขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ผืนป่ายังช่วยกักเก็บคาร์บอน ทำหน้าที่เสมือน “ปอดสีเขียว” ที่มอบอากาศบริสุทธิ์ให้ชุมชนโดยรอบได้หายใจอย่างสดชื่น

 

 

2) พื้นที่พักใจใกล้ธรรมชาติ — มุมพักผ่อนของผู้มาเยือน

 

 

 

นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ พื้นที่ฟื้นฟูในแม่เมาะยังมีมุมสวยงามที่ทำให้ผู้มาเยือนได้ท่องเที่ยวพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการชมทะเลหมอกอ่อน ๆ ในยามเช้า แสงแรกของพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ทาบทอไปทั่วผืนป่า หรือท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ

 

 

 

กฟผ. ยังจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้คนได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เช่น

 

• ชวนดูดาวในคืนที่ท้องฟ้าเงียบสงบ

• เดินสำรวจนกยามเช้า

• วิ่งและปั่นจักรยานท่ามกลางต้นไม้ที่เรียงรายสองฝั่งทาง

 

กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงเติมเต็มหัวใจของผู้มาเยือน แต่ยังสร้างรายได้เล็ก ๆ ให้กับชุมชนโดยรอบได้เป็นอย่างดี

 

 

 

3) แหล่งเรียนรู้จากศาสตร์พระราชา — ป่าที่สอนให้เรา “พอดี” กับโลก

 

 

อีกส่วนหนึ่งของพื้นที่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชา ถ่ายทอดแนวคิดกสิกรรมธรรมชาติและเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านการ “ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับธรรมชาติและผู้คน

 

 

 

กฟผ. ยังร่วมกับชุมชนรอบแม่เมาะสร้างป่าชุมชนกว่า 20 แห่ง เพื่อให้คนในพื้นที่ได้มีบทบาทในการดูแลป่าของตนเอง เกิดความภูมิใจ และมีรายได้จากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม

 

 

 

ผืนป่าแห่งนี้ไม่เพียงช่วยเติมเต็มระบบนิเวศ แต่ยังเป็นพื้นที่พักใจ พื้นที่เรียนรู้ และพื้นที่ที่ชุมชนเติบโตไปพร้อม ๆ กัน แม่เมาะจึงไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ผลิตพลังงานของประเทศ แต่กลายเป็นพื้นที่แห่งความหวังที่พลังงานและธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน