การศึกษา
เปิดอีกมุม! "ณพลเดช" เข้ากราบพระพรหมโมลี หารือ "ปมวัดไร่ขิง" รับฟังมุมมองที่ควรปกป้องพระพุทธศาสนา
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ดร.ณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ากราบพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ แม่กองบาลีสนามหลวง และกรรมการมหาเถรสมาคม ในโอกาสนี้ ดร.ณพลเดช ได้ศึกษาการทำบุญของประชาชนที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ พบว่าประชาชนยังคงเข้ามาปฏิบัติธรรม สวดมนต์ และกราบสรีระของหลวงพ่อสดอย่างต่อเนื่อง แม้จำนวนจะลดลงจากในอดีต
อย่างไรก็ตาม ดร.ณพลเดช ได้มีโอกาสกราบสักการะพระพรหมโมลี และหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอดีตเจ้าคุณแย้มแห่งวัดไร่ขิง โดยได้รับข้อมูลอีกมุมหนึ่งเกี่ยวกับบทบาทของวงการคณะสงฆ์ ซึ่งวัดไร่ขิงถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีบทบาทสำคัญ และอดีตเจ้าคุณแย้มเป็นพระสงฆ์ที่ทำงานด้วยจิตใจดี แต่ก็อาจมีข้อผิดพลาดบางประการ อย่างไรก็ตาม วัดไร่ขิงยังคงเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนงานด้านพระพุทธศาสนาในประเทศไทย
ในขณะนี้ พระพุทธศาสนากำลังเผชิญกับการถูกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ ซึ่งแทบไม่มีใครออกมาปกป้องหรือให้ข้อมูลในเชิงบวก แตกต่างจากศาสนาอื่นๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศ ที่มีกฎหมายคุ้มครองไม่ให้มีการนำเสนอข่าวในลักษณะที่สร้างความเสียหายต่อศาสนา อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังไม่มีข้อกฎหมายลักษณะนี้ ส่งผลให้เมื่อเกิดความเสียหายแล้ว การฟื้นฟูและเยียวยาเป็นไปได้ยาก
ดร.ณพลเดช ได้ยกตัวอย่างกรณีของคณะกรรมการศาลยุติธรรมที่เพิ่งลงโทษผู้พิพากษา 3 รายให้ออกจากราชการฐานผิดวินัยร้ายแรง โดยชื่นชมถึงความรอบคอบและความรวดเร็วในการจัดการกับปัญหา ซึ่งในวงการสงฆ์ยังไม่มีระบบตรวจสอบที่ชัดเจนเช่นนี้ ดร.ณพลเดช จึงเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบกรณีต่างๆ ในวงการสงฆ์ โดยให้มีการตัดสินอย่างรวดเร็ว ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เช่น ตำรวจ อัยการ หรือศาล
ทั้งนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า พระพุทธศาสนาเปรียบเสมือนมหาสมุทรที่มีคลื่นคอยพัดพาสิ่งไม่ดีออกไปจากมหาสมุทรให้ขึ้นฝั่ง ในอดีตมีเหตุการณ์จับสึกพระสงฆ์จำนวนมาก เช่น ในยุคพระเจ้าอโศกมหาราช ยุคแผ่นดินล้านนา เช่น สมัยพระเจ้าติโลกราช และพระเจ้ายอดเชียงรายแห่งเชียงใหม่ รวมถึงในสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงพระพุทธเจ้าหลวง ซึ่งมีการสังคายนาวงการสงฆ์ครั้งใหญ่ ทั้งในด้านการศึกษาและพระธรรมวินัย โดยวัดบวรนิเวศเป็นต้นแบบ และมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสเป็นเจ้าอาวาส และเป็นตำแหน่งพระสังฆราช
ดร.ณพลเดช ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการพิจารณากฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีการควบคุมการนำเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของประชาชนจำนวนมาก เช่น ข่าวอาชญากรรม หรือข่าวที่กระทบต่อศาสนา ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีข้อกฎหมายลักษณะนี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเปิดกว้างในเรื่องเสรีภาพของสื่อ ซึ่งประเด็นนี้ควรได้รับการพิจารณาแก้ไข
สำหรับกรณีของอดีตเจ้าคุณแย้มแห่งวัดไร่ขิง ในทางธรรมวินัย การพนันถูกบัญญัติแยกไว้ในอบายมุข 6 ซึ่งไม่อยู่ในหมวดศีล หากอดีตเจ้าคุณแย้มใช้เงินส่วนตัว ก็จะไม่ถือว่าผิดตามหลักพระธรรมวินัย ส่วนในทางโลก หากภายหลังศาลพิพากษาว่าไม่ผิด ก็จะคล้ายกับกรณีของวัดสามพระยา วัดสระเกศ และกรณีพระพิมลธรรมแห่งวัดมหาธาตุในอดีต ซึ่งภายหลังมีการคืนสมณศักดิ์และศาลพิพากษาว่าไม่ผิด แต่ผลกระทบต่อความศรัทธาในพระพุทธศาสนาไม่สามารถประเมินค่าได้ ความเสียหายดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้ว และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของวงการสงฆ์
นอกจากนี้ งบประมาณที่ใช้ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งสูงถึงหลายแสนล้านบาทในหลายหน่วยงาน สะท้อนถึงความจำเป็นในการเพิ่มศักยภาพขององค์กรด้านศีลธรรมให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศไทยในปัจจุบันมีจำนวนผู้ต้องคดีอาชญากรรมสูงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ของโลก
ดร.ณพลเดช เสนอข้อแนะเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา ดังนี้
1. ปรับปรุงพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 โดยให้อำนาจมหาเถรสมาคมในการออกประกาศเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และกำหนดให้คณะสงฆ์ไม่ควรให้ข่าวในกรณีที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการสงฆ์
2. จัดตั้งสภาองค์กรพุทธฝ่ายฆราวาส เพื่อสนับสนุนคณะสงฆ์ในการสอดส่องดูแล และช่วยประสานงานด้านสื่อในมิติที่ถูกต้อง
3. จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพระสงฆ์ที่มีบทบาทคล้ายกับคณะกรรมการยุติธรรม เพื่อตัดสินและชี้ขาดกรณีต่างๆ ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
4. เสนอต่อรัฐบาลให้บัญญัติกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ เพื่อกำหนดกรอบการนำเสนอข่าวสาร ไม่ให้สร้างความเสียหายต่อสถาบันหลักของชาติ
5. กำหนดความรับผิดชอบในการนำเสนอข่าว หากพบว่าข่าวที่วิพากษ์วิจารณ์พระสงฆ์นั้นไม่เป็นความจริง ควรมีมาตรการเยียวยา
6. จัดให้มีการสังคายนาพระไตรปิฎกและวงการสงฆ์ ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ควรมีการสังคายนาอีกครั้งในรัชกาลปัจจุบัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงความจำเป็นในการปกป้องพระพุทธศาสนาในบริบทของสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของกฎหมายและองค์กรสนับสนุนศาสนาในการสร้างความมั่นคงให้กับพระพุทธศาสนาและศรัทธาของประชาชนไทย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- เปิดอีกมุม! "ณพลเดช" เข้ากราบพระพรหมโมลี หารือ "ปมวัดไร่ขิง" รับฟังมุมมองที่ควรปกป้องพระพุทธศาสนา 21 พ.ค. 2568
- ระดมความคิดเห็นแก้หนี้ครู 21 พ.ค. 2568
- นักศึกษาวิศวฯ มจธ. โชว์ศักยภาพผลงานนวัตกรรมกว่า 300 ชิ้น ในงาน Project Day 2025 21 พ.ค. 2568
- “มจร-ลาว” ลงนาม MOU ตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาพระสงฆ์ 21 พ.ค. 2568
- สพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ติดตามโครงการ “สุขาดี มีความสุข” 21 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย จับมือ ม.กรุงเทพ ร่วมพัฒนาศักยภาพนิสิต เสริมทักษะพร้อมก้าวสู่ตลาดแรงงานคุณภาพ 22:47 น.
- วัดพระบาทห้วยต้มลำพูน จัดงานบุญใหญ่ประจำปี พิธีเปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขารครูบาวงศ์ 17:07 น.
- พระสงฆ์นานาชาติถวายเพลิงฌาปนกิจศพ พระอาจารย์ใหญ่มหาบุญ สิมมาพรหม อดีตประธานศูนย์กลางพุทธศาสนิกสัมพันธ์ สปป. ลาว 15:03 น.
- 3 วัดไทยออสเตรเลียร่วมกับองค์กรพุทธ จัดงานฉลอง 25 ปี วันวิสาขบูชา สะท้อนพลังศรัทธาอันงดงามของชาวพุทธในดินแดนแห่งพหุวัฒนธรรม 14:31 น.
- ม.กรุงเทพ จัดเวทีถกกลยุทธ์รับมือสื่อไทยจะอยู่รอดอย่างไรในยุค AI Disruption 10:21 น.