บันเทิง
"ฟ้าใส" เปิดใจหลังคว้ามงกุฎ MUT พร้อมเปิดปมในวัยเด็ก
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดี กับ “ฟ้าใส ปวีณสุดา” ที่เพิ่งคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 แต่กว่าจะมาถึงวันนี้เจ้าตัวเดินสายประกวดมากว่า 6 เวที แถมตอนเด็กๆ เจ้าตัวยังมีปมต่างๆ อีกต่างหาก ล่าสุด ฟ้าใส ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง ONE31
ความรู้สึก ณ ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง? .ฃ”จริงๆ ณ ตอนนั้นหนูกรี๊ด เฮ้ย ฉันทำได้แล้ว แต่ตอนที่กำลังเดินแล้วโบกมืออยู่ก็คิดว่าเรากำลังฝันไปหรือเปล่า กลับไปถามเพื่อนข้างหลังเวที อันนี้เรื่องจริงหรือเปล่า แล้วเพื่อนก็มาหยิกเลยแล้วถามว่าเจ็บไหม ถ้าเจ็บก็คือเรื่องจริง มันเหลือเชื่อมากๆ เพราะเราฝันถึงจุดๆ นี้มานาน” พอมงลงปุ๊บก็มีเพื่อน นางงามจากทั่วโลกมาแสดงความยินดีด้วย ไปเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่? “มันเหมือนเราผ่านมาหลายเวที ก็เลยมีคนรู้จักหลายๆ เวที” ความรู้สึกจากที่เราประกวดหลายเวที แล้วเวทีนี้เราประสบความสำเร็จ มันภูมิใจขนาดไหน? “เราย้อนกลับไปมอง ทุกความลำบากแล้วก็ทุกก้าวมันมีความหมาย และคุ้มค่ามากๆ” กลายเป็นปรากฎการณ์ทั่วโลกว่าคุณเป็นตัวเต็ง มิสยูนิเวิร์ส? “พี่พูดแบบนี้หนูก็ดีใจ ดีใจมากๆ ที่หลายคนเห็นถึงศักยภาพของเราแล้วเห็นว่าเราเป็นตัวเต็ง”
ชีวิตเธอคล้ายแคทริโอนา อยู่เหมือนกันที่ประกวดในประเทศชนะไปแพ้บนเวทีโลก แล้วต้องกลับไปประกวดเวทีในประเทศอีกครั้ง? “จริงๆ เหมือนกับเรามีเป้าหมายของมิสยูนิเวิร์สที่จะเป็นตัวแทนประเทศที่เราภูมิใจ แล้วเขาก็เคยไปประกวดมิสเวิลด์ในตอนนั้นแล้วก็ได้ TOP 5 หนูก็ไปประกวดตอนนั้นที่มิสเอิร์ธแล้วก็ได้ TOP เหมือนเข้าใจกันว่าเรามีเป้าหมายที่มิสยูนิเวิร์สขนาดไหน” แล้วมีคำแนะนำอะไรให้เราไหม? “ไม่ว่าจะเป็นนางงาม การเรียน การทำงานอะไรก็ตามถ้าเรามีเป้าหมายอะไรแล้ว แล้วมันอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในครั้งแรกที่เราลงมือทำ มันไม่ใช่เราไม่ดีพอ หรือว่าเราทำไม่ได้ แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ อย่าหนูก็ท้อมากๆ แต่ถ้าคุณมีความฝันจริงๆ คุณต้องกล้าที่จะลงมือทำ มุ่งมั่นต่อเป้าหมายและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค หนูเชื่อว่าสักวันคุณจะประสบความสำเร็จ อย่างที่หนูประสบในวันนี้”
6 เวทีที่ผ่านมา ณ จุดไหนที่เหนื่อยที่สุดที่แทบจะถอดใจ? “มันมีความท้อไม่เหมือนกัน เพราะว่าในแต่ละเวที เวทีที่หนูหวังมากที่สุด คือเวที มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ เมื่อปี2017 เพราะหนูตั้งใจมากๆ หลังจากที่จบนางสาวไทยกลับไปแคนาดา หนูจะต้องเรียนจบให้ได้เกียรตินิยม เพราะว่าเวทีนางงามไม่ได้ดูที่ความสวยอีกต่อไป เขาดูที่ความฉลาดด้วย แล้วสิ่งแรกที่เขาดูก็คือผลการเรียน ตอนนั้นเรารู้สึกเฟลที่เราไม่ได้ที่1 เราไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ แล้วเหมือนแบบ แล้วไปไหนต่อ แล้วทางกองยื่นมาว่าไปมิสเอิร์ธไหม เป็นตัวแทนประเทศไทยไหม ตอนแรกก้ไม่อยากไป แต่ในเมื่อเขาให้โอกาสมาหนูก็ทำการบ้านทุกอย่าง แล้วตอนนั้นคือเราทำเต็มที่มากๆ ในทุกวัน ถึงแม้ผลจะออกมา TOP8 แต่หนูมองย้อนกลับไป มันไม่สามารถทำได้ดีกว่านั้นแล้ว มันก็เลยไม่มีความเสียใจหรือเสียดายอะไร”
ยังมีความมุ่งมั่นที่จะไปเวทีมิสยูนิเวิร์สให้ได้? “จะบอกว่า TPN เขาประกาศชัดเจนมากๆ ว่าเขาให้โอกาสรองกลับมาประกวดใหม่ แล้วถ้าเราไม่ได้คว้าโอกาสนั่นไว้ หนูเชื่อว่าในเวลาข้างหน้าถ้าหนูย้อนกลับมาหนูจะเสียดาย แต่มันก็มีความกลัวว่าเราจะได้ไหม หนูก็ถามตัวเองว่าจริงๆ หนูจำเป็นต้องเป็นนางงามไหม มีสิ่งอื่นที่เราทำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกลับมา” คอมเมนต์อะไรที่ทำให้เราถอยนิดนึง? “มันมีหลายคอมเมนต์นะคะ อย่างเช่นคอมเมนต์เรื่องรูปร่าง ตาห่าง ตาตี่ หนูโครงใหญ่เหมือนฝรั่งด้วย เขาก็จะบอกว่าหนูอ้วนบ้าง คือมันจะมีหลายอย่าง แต่หลังจากที่หนูประกวดมิสเอิร์ธหนูโดนบ่อยมาก คือคำศัพท์ตอนนั้นหนูไม่รู้จักแล้วหนูก็จะโดนล้อเลยสวยอย่างเดียว ไม่ได้ฉลาดนิ แล้วมาประกวดทำไม แต่มันก็เป็นบทเรียนของเราเหมือนกันว่าในครั้งต่อๆ ไป เวลาเราไปประกวดในเวทีนอกไม่ควรมั่นใจในภาษาจนเกินไป”
แล้วคิดว่าจุดอ่อนของเราคืออะไร? “จุดอ่อนของหนูคือเวลาที่หนูตั้งใจอะไรมากเกินไป หนูจะเครียด เพราะเราอยากได้มันมาก” ถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้ มิสยูนิเวิร์ส คิดว่าจะเลิกประกวดเลยไหม? “จริงๆ ก็ดูว่าอายุยังไม่เกินนะคะ” เห็นว่าตอนเด็กผ่านปมมาเยอะมาก โดนอะไรมาบ้าง? “หนูเกิดและจบ ป.2 ที่เมืองไทยหลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่แคนาดา คือทุกอย่างมันแตกต่างไปหมด แล้วสิ่งแรกที่เจอคือ เขาพูดภาษาอังกฤษเราพูดภาษาไทย แต่ที่เราเป็นเด็กเราก็อยากมีเพื่อน เราก็พยายามที่จะเข้าหาเพื่อน เราก็พยามพูด แต่เราก็ไม่รู้ศัพท์ครบทุกอย่างก็พูดไทยปนอังกฤษบ้าง แต่เพื่อนๆ มองว่านี่พูดภาษาอะไร แล้วกลายเป็นว่าเราก็จะห่างจากเขา แล้วเขาก็ไม่อยากมาเล่นกับเราด้วย แล้วมันก็เรื่องภาษา หน้าตาด้วย คือตอนนั้นหนูหน้าตาไม่เหมือนใคร ไม่สามารถจับได้ว่าหนูมาจากตรงไหน” กลายเป็นโดน บูลลี่? “มันก็ไม่เชิงบูลลี่ หนูไม่เคยโดนทำร้ายร่างกาย แต่มันเป็นความกดดันทางความรู้สึก อยู่ตัวคนเดียว”
ช่วงนั้นร้องไห้แค่ไหน? “ตอนเด็กๆ หนูไม่รู้ว่าร้องไห้แค่ไหน แต่สิ่งที่จำได้คือหนูยืนมองเพื่อนตาละห้อย” มันก็กลายเป็นคนเก็บตัว? “มันมีหลายๆ อย่าง หนูเป็นเด็กเนิร์สธรรมดา ไม่กล้าแสดงออกเท่าไหร่ เหมือนโดนแบ่งกลุ่มด้วย แต่สิ่งที่เจ็บที่สุดคือ หนูนึกว่าหนูเป็นเพื่อนกับใครคนนึง เขาก็ยิ้มแย้ม คุยกับเรา หนูก็แฮปปี้ ไอมีเพื่อนแล้ว” ในฐานะ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ วันนี้สังคมไทยโดนปัญหาบูลลี่มากมาย คุณจะมีส่วนช่วยได้ยังไง? “หลายๆ คนเขาคิดว่าคุณค่าของเรามันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนอื่นพูด จริงๆ มันไม่ใช่ มันขึ้นอยู่กับเราเองว่าเรารู้สึกโอเคไหม คือมันมีอยู่ประโยคหนึ่งที่ทำให้หนูเปลี่ยน คือ ไม่มีใครทำให้เราด้อยได้ ถ้าเราไม่ปล่อยให้เขาทำ”
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » บันเทิง
ข่าวในหมวดบันเทิง ![]()
มูเตเลดี้ จับมือ หมอปลาย พรายกระซิบ ชวนมูให้ปัง ที่ฮ่องกง ร่วมลุ้นเดินทางฟรี 2 ที่นั่ง 21:12 น.
- มหกรรม Dr.JiLL เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ “แอฟ-นนกุล” ควงคู่หวาน พร้อมบุ๋ม ปนัดดา, แพนเค้ก, ชาย-วิกกี้, บีม-ออย, แดน-แพทตี้ มาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน 15:16 น.
- เป็นกำลังใจให้ "น้องโอเชี่ยน-ธนนนท์” ขึ้นประกวดร้องเพลงเวทีระดับโลก และซิงเกิลเพลงแรก "เกิดหลังพี่เป็นแฟนได้ป่ะ" 15:08 น.
- ”แจ๊คกี้ จักริน“ ปล่อยเพลง ”MEDIUM RARE“ คนอารมณ์ดีมีความรักรอแกะท่าเต้น 12:20 น.
- พาราไดซ์ พาร์ค เตรียมเสิร์ฟความฟินในงาน BNK48 RUMOR SPECIAL ROADSHOW & FANSIGN 17-18 พ.ค.นี้ 12:18 น.