อยู่ในแวดวงของการสร้างเสียงฮามาตั้งแต่อายุ 18 ปี เป็นหัวเรือใหญ่ที่สานต่อคณะชวนชื่น จาก “คุณพ่ออุดม” มาตลอด สำหรับ “จิ้ม ชวนชื่น” ที่มาเปิดในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANHE2561 ว่าช่วงนี้มี โควิด-19 ทำให้คณะชวนชื่นไม่สามารถออกไปสร้างเสียงหัวเราะได้เหมือนเคย เจ้าตัว เลยตั้ง เพจ และ ช่องยูทูป “ชวนชื่นทีวี” ขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟเสียงฮาให้กับแฟนๆผ่านหน้าจอถึงที่บ้าน โดย  เจ้าตัวบอกว่าเปิดช่องทิ้งไว้นานแล้วแต่ไม่ค่อยได้ทำคลิปลงสักเท่าไหร่ จนมีวิกฤตนี้ก็เลยเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำอะไรอีกแบบหนึ่งให้วงการตลกออกไปสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน

"เรื่องที่มีออนไลน์ก็เพราะลูกสาวยุให้ทำครับ ช่องชวนชื่นทีวี คือ จริงๆเราทำทิ้งเอาไว้ก่อนโควิด เพราะตอนนั้นเราใช้ชีวิตปกติมีการต้องออกไปข้างนอกมีงานโน้นงานนี้ตลอดเวลา ไม่มีเวลามาร่วมตัวกัน แต่ลูกสาวก็มากระตุ้นตลอด คือ บริษัทชวนชื่นก็มีงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆมากมาย เพราะเรารับงานโปรดักชั่น รับงานโอบี คอนเสิร์ตอะไรต่างๆ ลูกสาวมาดูแลมาคุมในส่วนชวนชื่นโปรดักชั่นนี้ และ เค้าคือเด็กรุ่นใหม่ที่มากระตุ้นให้เราทำออนไลน์ แต่ตอนแรกคือ เราไม่ได้สนใจในออนไลน์เลยแต่พอมาในช่วงโควิดนี้เลยทำให้เรามองเห็นช่องทางการทำออนไลน์ว่ามันมีประโยชน์ ให้ทุกคนมีแนวทางไม่นั่งเหงาอยู่ที่บ้าน หาทางที่จะติดต่อสื่อสารกันได้ แต่มันก็ยากอยู่เหมือนกันเพราะการที่เราทำอยู่คนละที่สัญญาณเน็ตของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่เราก็ตั้งใจเพื่อให้ทุกคนที่เห็นพวกเราได้มีความสุข ได้มีเสียงหัวเราะ ผลตอบรับที่ดีเลยครับ แต่สุดท้ายพอสถานการณ์ดีขึ้นพวกเราก็อยากออกมาเจอทุกคนเพราะ ชวนชื่น หนักโชว์ ไม่สามารถเป็นทอล์กเดี่ยวๆได้ เราอาจจะกลับมาทำโชว์เป็นการแสดง เป็นลิเก หรืออะไรสักอย่างเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนอีกครั้งครับ"

ส่วนที่ช่วงหลังอาจจะห่างหายจากหน้าจอทีวีไปบ้าง “จิ้ม ชวนชื่น”ยอมรับว่าค่อนข้างเลือกรับเพราะกลัวรับบทที่ไม่ตรงกับคาแรคเตอร์ของตัวเองแล้วผู้ชมจะไม่อิน จึงมุ่งหน้านำพาคณะชวนชื่นไปทางตลกเสียมากกว่า "โดยจริงๆแล้วไม่รู้พูดไปจะเป็นลบให้กับตัวเองหรือเปล่า จริงๆดูแล้วบางบทที่ไม่ใช่บทที่เรารับไป หรือ บทที่เราควรจะเป็น แล้วมันไม่ใช่คาแรคเตอร์แล้วเราเป็นตลกอ่ะ ถ้ามันห่างจากตัวเรามากเกินไปแล้วถ้าไปรับบทอะไรที่ไม่ตลกแล้วเราไปเสิร์ฟถ้าไม่ถูกปากของแฟนๆ ของเรามันก็จะไม่ดี แล้วเราก็ไม่อาจจะไม่มีความเก่ง ความชำนาญในบทที่มันยากๆขนาดนั้น เราดูแล้วไม่ได้เราก็ไม่รับ แต่ถ้ามันเป็นบทที่หลุดกับคาแรคเตอร์ที่มันดีแล้วเราเล่นได้เราก็จะรับ แต่แล้วก็มีหลายงานที่เราเล่นไม่ได้เราก็ไม่รับเลือกเพราะอยากทำให้คนที่เห็นเราเล่น เราแสดงเชื่อในตัวเรามากที่สุด และบทนั้นที่เราแสดงออกไปทำได้ดีที่สุดเพื่อทุกคนครับ"