นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาครวม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ค่อนข้างได้ผลกระทบเป็นวงกว้าง และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ล่าสุดได้ออก“สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน” ซึ่งก่อนหน้านี้ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนเพราะผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง โดยออกสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ที่เน้นช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย

 

“ที่ผ่านมาธนาคารได้ออกมาตรการต่างๆเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในธุรกิจเอสเอ็มอีกว่า 16 โครงการ ช่วยเหลือคนได้กว่า 5 ล้านคน และอัดงบวงเงินสินเชื่อแล้วกว่า 2-3 แสนล้านบาท แต่อย่างไรก็ดี ยังมีผู้ประกอบการจำนวนมาก ที่ประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจ จึงจำเป็นต้องหันไปพึ่งการกู้นอกระบบรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะวิธีการ “ขายฝากที่ดิน” ที่ทำให้ผู้ประกอบการถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงมาก วงเงินกู้ต่ำกว่าราคาประเมิน และมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องสูญเสียที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม”นายวิทัย กล่าว

 

สำหรับ สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน มีวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 หรือจนกว่าวงเงินจะหมด โดยมีแนวคิดในการเป็นตัวเลือกที่ยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการ สามารถใช้โฉนดที่ดินมาเป็นหลักประกันการกู้เงิน วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท โดยจะพิจารณาให้กู้ได้สูงถึง 70% ของราคาประเมินที่ดิน ไม่พิจารณาภาระผู้กู้และไม่วิเคราะห์รายได้ อัตราดอกเบี้ย 5.99% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และผู้กู้สามารถนำเงินต้นมาไถ่ถอนที่ดินคืนได้เมื่อพร้อม ภายในระยะเวลา 3 ปี

 

อย่างไรก็ตามในปีนี้ธนาคารจะยังคงเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น Social Bank หรือ ธนาคารเพื่อสังคม อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างผลเชิงบวกแก่สังคม “Making POSITIVE Impact on Society” ด้วยการดูแลลูกค้าและประชาชน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการรายย่อย และองค์กรชุมชน เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยกระดับรายได้ ต่อยอดเป็นผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกด้วย