วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 00:05 น.

การเงิน หุ้น

EXIM BANK เปิดโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก”

วันศุกร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 14.16 น.

EXIM BANK เปิดโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก”  

 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 29 ปี ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 30 ของการเปิดดำเนินงาน EXIM BANK ได้เปิดโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยเหลือและเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการ SMEs ที่ทำธุรกิจเชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออก โดย SMEs ถือเป็นรากแก้วของประเทศไทยที่มีจำนวนมากถึง 99.6% ของผู้ประกอบการไทยทั้งหมด สร้างการจ้างงานได้มากถึง 12.6 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 72% ของทั้งระบบ และมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 35% ของ GDP ดังนั้น EXIM BANK จึงให้ความสำคัญในการดูแลให้รากแก้วของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยใช้เครื่องมือ “3 เติม” ได้แก่ “เติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงิน” และชูบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดูแลให้คำปรึกษา บ่มเพาะ สร้างโอกาส และเติมเงินทุนอย่างใกล้ชิดและครบวงจร

 

 

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า EXIM BANK เริ่มต้นจากการให้คำปรึกษาแนะนำ ทั้งทางออนไลน์และการสัญจรลงพื้นที่ แก้ไขปัญหาให้ธุรกิจระดับครัวเรือนและชุมชน หมายรวมถึงการแก้ปัญหาหนี้ภาคธุรกิจ ซึ่งข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 พบว่า หนี้ภาคธุรกิจอยู่ในระดับกว่า 13.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ 11.4 ล้านล้านบาท โดยวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาได้ซ้ำเติมภาคธุรกิจยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ NPLs ของ SMEs ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ในระดับสูงถึง 6.8% สวนทางกับ NPLs ของธุรกิจขนาดใหญ่ที่เริ่มลดลงมาอยู่ที่ 1.9% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก SMEs ไทยขายแต่ในประเทศเป็นหลัก ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีขนาดเล็ก โตเฉลี่ย 10 ปีเพียง 2.3% หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ระดับสูงถึง 88.2% ต่อ GDP ยิ่งบั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศขึ้นไปอีก นอกจากนี้ EXIM BANK มีโครงการอบรมบ่มเพาะความรู้และทักษะของผู้ประกอบการ ประกอบกับการพัฒนาช่องทางใหม่ ๆ อาทิ แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางลัดให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสามารถเข้าสู่การค้าไร้พรมแดนได้โดยเร็ว ตลอดจนเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายและครบวงจร ทั้งสินเชื่อและบริการประกันการส่งออก เพื่อเสริมสภาพคล่องและคุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศให้ธุรกิจ SMEs ไทยเดินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทั้งทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ

 

 

“ปัจจุบันกลุ่มเอสเอ็มอีรายเล็กของไทยมีอยู่ประมาณท3.17 ล้านราย และจำนวนนี้เพียง 1% หรือ 300 รายที่เป็นเอสเอ็มทีที่มีความเข้มแข็ง และที่เหลืออยู่จำนวนไม่น้อยที่มีหนีเสียอยู่มากพอสมควร ดังนั้น จะทำอย่างไรให้กลุ่มนี้กลับมาเข้มแข็งและยืนอยู่ต่อไปได้ จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีตัวเล็กของไทยกลับมาดำเนินธุรกิจของตนเองได้อีกครั้งหนึ่ง และทาง EXIM BANK และพันธมิตรจึงร่วมกันจัดทำโครงการนี้ขึ้นมา โดยได้เตรียมวงเงินปล่อยกู้แบบไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ต้องมาอยู่ในโครงการนี้ก่อน ซึ่งเตรียมจัดวงเงินกู้ไว้ 5,000 ล้านบาท แต่ละรายสามารถขอสินเชื่อตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 2 ล้านบาทคิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 6 และหากประกอบธุรกิจดีสามารถขยายวงเงินกู้ได้ โดยEXIM BANK มีเป้าหมายกลุ่มเอสเอ็มอีตัวเล็กจะเข้มแข็งขึ้นในปี 67 มากกว่า 40,000 ราย และจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดย EXIM BANK ยังจะเป็นพี่เลี้ยงที่จะนำพาเอสเอ็มอีกลุ่มนี้ไปเจาะตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียนและตลาดอื่นๆได้เพิ่มเติมอีกด้วย” ดร.รักษ์ กล่าว