วันพุธ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 05:03 น.

การเงิน หุ้น

TSE ลั่น! พร้อมลุยเข้าประมูลโรงไฟฟ้ากกพ. เฟส 2

วันพุธ ที่ 06 กันยายน พ.ศ. 2566, 11.55 น.
TSE ลั่น! พร้อมลุยเข้าประมูลโรงไฟฟ้ากกพ. เฟส 2



TSE เดินหน้ารับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โอนิโกเบในญี่ปุ่นเต็มพิกัด และประกาศความพร้อม 100% เข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้ากกพ. เฟส 2 ฟากซีอีโอ “ดร.แคทลีน มาลีนนท์” ปักหมุดคว้างานใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์จ่อรุกคืบธุรกิจ Private PPA มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้ สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (TSE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมเป็นอย่างมาก ที่จะเข้าร่วมการประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รอบ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จำนวนประมาณ 3,663 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้รอประกาศกฎเกณฑ์จากภาครัฐ หากมีการประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าเฟส 2 แล้ว บริษัทฯ พร้อมเข้าร่วมประมูลทันที

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าจะชนะการประมูลเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์  ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้ลงนามในหนังสือบันทึกข้อตกลงรับทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed - in Tarif (FT) โดย กกพ.  ปี 2565-2573 จำนวน 7 โครงการ มีขนาดกำลังผลิตขายไฟรวมกว่า 88.66 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการขนาด SPP จำนวน 2 โครงการ, โครงการ VSPP จำนวน 4 โครงการ และโครงการโซลาร์และแบตเตอรี่ จำนวน 1 โครงการ

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวม 286.20 เมกะวัตต์ ขณะที่แผนการเติบโต 5-7 ปีตั้งเป้าจะมีการผลิตกำลังไฟฟ้ารวม 500 เมกะวัตต์ โดยยังคงมองโอกาสการเติบโตทั้งการจัดหาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ภายใต้แผนพีดีพี, การขยายการลงทุนหรือร่วมลงทุนโซลาร์ฟาร์ม, การเข้าซื้อกิจการโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน รวมถึงโครงการพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ ทั้งพลังงานลมและโซลาร์ฟาร์ม เพื่อสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังมีแผนที่จะรุกธุรกิจ Private PPA เพื่อตกลงการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนอาคารของผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา รวมถึงอาจจะมีการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าใหม่ ก็อาจจะส่งผลให้มีจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

ดร.แคทลีน กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯ คาดการณ์รายได้รวมในปีนี้ (รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า) จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยขยับขึ้นไปแตะระดับ 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,974 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โอนิโกเบ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จังหวัด มิยางิ ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้งเสนอขาย 133 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา