ยืนยัน “ณุศา” ซื้อหุ้น “วินด์” ธุรกรรมสมบูรณ์ไม่มีหุ้นในคดีพิพาทมาขายแม้แต่หุ้นเดียว

“ณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ” ยืนยันหุ้น WEH ที่ NUSA เข้าซื้อจาก “ธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง” ปราศจากข้อพิพาท และไม่เกี่ยวข้องบุคคลที่สามใดๆ การซื้อขายสมบูรณ์ด้วยกฎหมาย และเป็นคนละส่วน ไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นที่มีข้อพิพาท เชื่อ NUSA ทราบข้อมูลชัดเจนแล้วก่อนซื้อ เพราะตรวจสอบรอบด้าน จนออกหนังสือยืนยันกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าหุ้นที่เข้าซื้อปราศจากข้อพิพาท ชี้ “วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” ยินดีร่วมมือให้ข้อมูลกับตลท. และก.ล.ต.เต็มที่ เพื่อตรวจสอบการปล่อยข้อมูลคลาดเคลื่อนสู่นักลงทุน

นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เปิดเผยว่า กรณี บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) วันที่ 19 ม.ค. 2567 โดยระบุว่า หุ้น WEH ที่ NUSA ซื้อมาจาก บริษัท ธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทลูกของ WEH) เป็นหุ้นที่มีข้อพิพาททางคดี และธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง ไม่มีกรรมสิทธิ์ในหุ้น WEH ตั้งแต่ต้นนั้น บริษัทฯ ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวของ NUSA ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยหุ้น WEH ที่ NUSA เข้าซื้อ และถือครองอยู่ในปัจจุบัน เป็นหุ้นที่ไม่มีข้อพิพาทใดๆ ทั้งสิ้น ธุรกรรมการซื้อหุ้น WEH สมบูรณ์ด้วยกฎหมาย

“เชื่อว่า NUSA ทราบชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า หุ้น WEH ที่ซื้อไปจากธนาพาวเวอร์ โฮลดิ้ง มีสถานะปกติ ปราศจากข้อพิพาท เพราะตรวจสอบหลายด้านก่อนเข้าซื้อ ได้แก่ การสอบทานธุรกิจ (due diligence), ตั้งทนายตรวจสอบกรรมสิทธิ์ ในหุ้น WEH ที่นำมาเสนอขายทุกรายการ, ประกาศหาผู้คัดค้านก่อนเข้าซื้อ โดยเผยแพร่รายชื่อผู้ขายหุ้นและหมายเลขหุ้น แต่ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน และยังทำหนังสือมาให้บริษัทฯ ให้ข้อมูลหุ้นที่มีข้อพิพาท ซึ่งบริษัทฯ ทำหนังสือตอบกลับไปอย่างเป็นทางการ ระบุหมายเลขหุ้นที่มีคดีพิพาท ซึ่งไม่มีแม้แต่หุ้นเดียวที่เข้าสู่การซื้อขายกับ NUSA จน NUSA ทำหนังสือยืนยันไปยัง ตลท. ว่า หุ้น WEH ที่จะซื้อขายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่ภายใต้ข้อพิพาทที่มีการฟ้องร้องกันทั้งในชั้นศาล และอนุญาโตตุลาการ อันจะส่งผลถึงกรรมสิทธิ์ถึงหุ้น WEH ที่จะซื้อขาย”

นายณัฐพศิน กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลที่ NUSA เผยแพร่ออกไปยังตลท. คลาดเคลื่อน เพราะไปนำหุ้น WEH จาก 2 ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน มานำเสนอเป็นเรื่องเดียวกัน จนเกิดความสับสน โดยส่วนแรกหุ้น WEH ที่ NUSA ถือครองอยู่ไม่มีประเด็นใดๆ ทั้งสิ้น สมบูรณ์โดยกฎหมายทุกประการ สำหรับส่วนที่สอง คือ หุ้นที่มีข้อพิพาท อันเป็นปัญหาส่วนบุคคลของอดีตผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เลยกับธุรกรรมของ NUSA แต่เมื่อข้อมูลคลาดเคลื่อนที่ถูกเผยแพร่ไปแล้ว คง

เป็นหน้าที่ของตลท. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ต้องเข้ามาตรวจสอบ เพราะเป็นข้อมูลที่ไปถึงผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ทั้งนี้ หากตลท. และก.ล.ต. สอบถามมายังบริษัทฯ ก็พร้อมร่วมมือให้ข้อมูลไปตามความเป็นจริง

สำหรับ บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอร์ยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KPNET ตามที่ NUSA อ้างถึง ปัจจุบันไม่มีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1708/2564 (หมายเลขแดงที่ อ.1753/2566) นั้น ศาลไม่มีคำสั่งเพิกถอนการโอนหุ้นและตราสารการโอนหุ้นที่ KPNET ได้จำหน่ายออก ไม่มีคำสั่งให้บริษัทฯ แก้ไขทางทะเบียนผู้ถือหุ้นให้ KPNET กลับมามีสถานะเป็นผู้ถือหุ้น หรือให้ KPNET ใช้สิทธิในการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้แต่อย่างใด