บอร์ด TSE ร่วมกับ GPSC อนุมัติขายหุ้นในบริษัทร่วม "TSR" มูลค่ารวม 3 พันกว่าลบ.คาดธุรกรรมแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/68

บอร์ด TSE เห็นชอบอนุมัติขายหุ้นบริษัทร่วมค้า (JV) คือบริษัท ไทย โซล่าร์ รีนิวเอเบิล จำกัด หรือ TSR ซึ่ง TSE ถือหุ้นในสัดส่วน 60% หรือจำนวน 35 ล้านหุ้น รวมมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาทให้กับ บริษัท เลวันตา รีนิวเอเบิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Levanta ตามแผนกลยุทธ์ปรับโครงสร้างบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้เกิดความเหมาะสม รองรับการเติบโตด้านพลังงานทดแทนในประเทศเต็มกำลังเพื่อหนุนอนาคตเติบโตอย่างมั่งคงและต่อเนื่อง คาดธุรกรรมการซื้อขายเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 2/68 นี้ ฟากแม่ทัพหญิง “ดร.แคทลีน มาลีนนท์” ระบุการทำรายการครั้งนี้จะสนับสนุนฐานะการเงินของกลุ่มบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นพร้อมนำเงินทุนไปบริหารจัดการให้เกิดความเหมาะสมสอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัทในการลงทุนในโครงการใหม่ ตอกย้ำจุดยืนการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในระยะยาว ทั้งเสริมสร้างการขยายธุรกิจพลังงานสะอาด และธุรกิจใหม่ด้าน Healthcare, เสริมความงาม, Wellness และธุรกิจด้านเภสัชกรรม ผลักดันอนาคตเติบโตยั่งยืน

ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (TSE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติขายหุ้น บริษัท ไทย โซล่าร์ รีนิวเอเบิล จำกัด หรือ TSR ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า (JV) TSE ถือหุ้นในสัดส่วน 60% หรือ จำนวน 35 ล้านหุ้น รวมมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งหากรวมหนี้สินสุทธิของกิจการ จำนวน 264.4 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จะคิดเป็นมูลค่ากิจการ (Enterprise Value) ประมาณ 2,056 ล้านบาท ให้กับ บริษัท เลวันตา รีนิวเอเบิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Levanta โดยคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 2/2568

การเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์การปรับโครงสร้างบริหารจัดการโครงการลงทุนให้เกิดความเหมาะสม สร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในระยะยาว นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ TSE ในการพัฒนาและขยายธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจด้าน Healthcare ในอนาคต

โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ไปลงทุนต่อยอดธุรกิจตามแผนในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ จากก่อนหน้านี้มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 41 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายรวม 241.86 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 34 โครงการ และโครงการที่ยังไม่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) อีก 7 โครงการ รวมถึงการนำไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ

ปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในรูปแบบของกิจการร่วมค้า (Joint Venture) และการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้ารูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) และการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ เช่น Direct PPA และ ESCO Model (PPA) ซึ่งเป็นการขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจทั้งกับภาครัฐและเอกชนแบบครบวงจร