วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:23 น.

การเงิน หุ้น

PCE เปิดงบ Q1 รายได้รวม 5,473.7 ลบ. กำไรแตะ 28 ลบ.

วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 18.49 น.

PCE เปิดงบ Q1 รายได้รวม 5,473.7 ลบ. กำไรแตะ 28 ลบ.

 

PCE เปิดผลงาน Q1/68 รายได้รวม 5,473.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร “พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล” ระบุแนวโน้มไตรมาส 2/68 สดใส หลังการส่งออกจีน-อินเดีย สัญญาณดีโตสวย เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตรองรับออเดอร์ทะลัก พร้อมตอกย้ำแผนการดำเนินธุรกิจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2568) บริษัทฯ มีรายได้ จำนวน 5,473.7 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ จำนวน 28 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 5,436.8 ล้านบาท

 

โดยรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม, ผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากปาล์ม (By Product), การส่งออกผลิตภัณฑ์ RBDPKO, ธุรกิจไฟฟ้า, ธุรกิจขนส่งและบริการ รวมถึงการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ดี

 

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2568 มีทิศทางที่ดี ผลผลิตปาล์มสดจากสวนเริ่มออกมา โดยเฉพาะการส่งออกน้ำมันปาล์มไปจีน และอินเดีย ขณะเดียวกันบริษัทฯ เตรียมแผนขยายกำลังการผลิต เน้นเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้  

 

“ภาพรวมธุรกิจ PCE ในไตรมาส 2 ยังคงมีทิศทางที่สดใส คาดว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันในไตรมาส 2 เริ่มออกมาเป็นจำนวนมากหนุนรายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 30,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย และเราได้ให้ความสำคัญต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงให้ความสำคัญด้านการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดน้ำมันปาล์มและอื่นๆ ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ปาล์ม เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) โดยเพิ่มยอดการจัดจำหน่ายมากกว่า 40,000 ตันจากเดิม 15,000 ตัน และวางแผนการส่งออกกะลาปาล์มคุณภาพสูงไม่น้อยกว่า 120,000 ตันต่อปี อันเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร หนุนรายได้เกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน ทั้งยังเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างผลตอบแทนระยะยาวผ่านการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ และพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน” นายพรพิพัฒน์ กล่าวในที่สุด