วันอาทิตย์ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568 11:03 น.

การเงิน หุ้น

‘พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช’ ลงนามความร่วมมือ Sojitz พัฒนาโครงการ ‘แป้งมันสำปะหลังคาร์บอนต่ำ’ 

วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 09.37 น.

บมจ. พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บริษัท โซจิทสึ เกษตร ดี เอ็กซ์ จำกัด หรือ KDX  พร้อมด้วยบริษัทแม่, โซจิทสึ คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าโครงการ “Low Carbon Starch” อย่างเต็มรูปแบบ

มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย ด้วยการผลิตแป้งมันสำปะหลังคาร์บอนต่ำที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาได้ (Traceable Sourcing) ตลอดห่วงโซ่การผลิต ตอบโจทย์ตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและ ESG
               
นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช หรือ PQS เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท Sojitz ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการยกระดับกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลัง แต่คือการวางรากฐานให้อุตสาหกรรมเกษตรของไทยก้าวไปสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่าโครงการ ‘Low Carbon Starch’ จะสร้างแต้มต่อให้ PQS สามารถแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับประเด็น ESG ได้อย่างเต็มภาคภูมิ 
              
พร้อมทั้งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่เกษตรกร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของห่วงโซ่คุณค่าของเรา การนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ระดับสากลมาปรับใช้ จะทำให้มันสำปะหลังของไทยไม่ได้เป็นแค่พืชเศรษฐกิจ แต่จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์เกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นที่ต้องการของตลาดพรีเมียมอย่างแท้จริง 
                
ด้านนายเรียวสุเกะ โฮริ ประธานของ KDX กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของ PQS ในการขับเคลื่อนเกษตรสมัยใหม่ จึงได้ตัดสินใจร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการนี้ ซึ่งบริษัทจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตร (AgTech) ของ KDX และเครือข่ายตลาดทั่วโลกของ Sojitz ไปช่วยสนับสนุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาได้อย่างโปร่งใส (Traceable Sourcing) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก   
              
อย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของโครงการคือ การพัฒนาระบบเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหารและจังหวัดสกลนคร โดยใช้ “KDX Connect” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันด้านการเกษตรบนโทรศัพท์มือถือ ที่พัฒนาโดย KDX มาเป็นเครื่องมือหลักในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแปลงเพาะปลูกอย่างละเอียด ข้อมูลที่ได้มาจะถูกประมวลผลร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียมและทำการวิเคราะห์โดย AI ทำให้สามารถคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (CFP) ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังทุกล็อต สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังแปลงเพาะปลูกและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยเฟสแรกจะเริ่มต้นกับเกษตรกรนำร่อง 20 ราย และตั้งเป้าขยายผลสู่เกษตรกร 200 รายภายในไตรมาสถัดไป  
               
ขณะเดียวกัน ยังมีการดำเนินการทดลองแนวทางต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่แปลงเกษตรกรรม ได้แก่ วางแผนการใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเฉพาะของดินแต่ละพื้นที่ โดยอ้างอิงจากผลการวิเคราะห์ดินในพื้นที่นั้นๆ; การส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์; การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไบโอชาร์ (Biochar); และ การพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรผ่านการฝึกอบรมด้านการเกษตรแบบเฉพาะทาง 

นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังจะเป็นการตอกย้ำจุดยืนของ PQS ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเกษตรที่ยึดมั่นในแนวทาง ESG แล้ว ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของประเทศให้มีมาตรฐานสากล โดยสร้างความเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของไทยมีแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส (Sourcing Transparency) และมีกระบวนการผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ถือเป็นกุญแจสำคัญของ PQS ในการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกระดับพรีเมียมอย่างยั่งยืน