อุทยานแห่งชาติ “ภูเวียง” หุบเขาแห่งไดโนเสาร์ !!

มีหลักฐานทางธรณีวิทยาบ่งชี้ชัดเจนว่า เป็นระยะเวลากว่าร้อยล้านปีที่ไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธ์ได้ครอบครองโลกก่อนที่สูญพันธุ์ไป และถูกแทนที่โดยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีวิวัฒนาการก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน

หลายจังหวัดทางภาคอีสาน ของไทย ได้ขุดค้นพบซากโครงกระดูก ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของไดโนเสาร์ มากมายถึง 12 สายพันธุ์  โดยตัวล่าสุด ค้นพบ ฟอสซิลไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ ชื่อว่า สยามแรปเตอร์ - Siamraptor ซึ่งเป็นไดโนเสาร์นักล่าตัวฉกาจ สัตว์กินเนื้อ ในยุค 115 ล้านปีก่อน และคาดว่ามีความยาวอย่างน้อย 8 เมตร ที่โคราช เมื่อ 22 พย.2562

เรื่องราวของไดโนเสาร์ ยังคงอยู่ในความสนใจของคนไทยไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหน โดยเฉพาะแรงบันดาลใจจากหนัง เรื่อง jurassic park ทำให้คนทั่วโลกตื่นตะลึง และอยากรู้ อยากเห็นพฤติกรรมของเจ้าไดโนเสาร์ ขนาดยักษ์ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน หน้าตาเป็นอย่างไร และให้ความสนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของทรัพยากรธรณี กันมากมาย

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์ฯ นำคณะสื่อสัญจรลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดขอนแก่น เพื่อศึกษาแหล่งธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์เส้นทาง"อุทยานธรณีเพชรบูรณ์และอุทยานขอนแก่น  แคนยอนน้ำหนาว ผารอยตีนอาร์โคซอร์ ต้นตระกูลของไดโนเสาร์ อุทยานแห่งชาติภูเวียง พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งแรกของประเทศไทย สถานที่ค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นแรกของไทย  และกลุ่มทอผ้าฝ้าภูเวียงและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนอินทผาลม บ้านสวนสัมฤทธิ์”โดยมีดร.ประดิษฐ์ นูเล นักธรณีวิทยาชำนาญการกรมทรัพยากรธรณี ทำหน้าที่เป็นวิทยากร และให้ข้อมูลทางวิชาการตลอดการเดินทาง

การเดินทางไปทัศนศึกษา ครั้งนี้ บอกได้เลยว่า ทุกแห่งที่ไปเยือนล้วนน่าตื่นตา ตื่นใจทั้งนั้น  มีอะไรให้ศึกษาเรียนรู้มากมาย แบบว่า ต้องใช้เวลาเก็บข้อมูลกัน ไม่ต่ำกว่า 3-7 วัน ถึงจะครบถ้วนกระบวนความ! แต่ก่อนอื่นเมื่อมาถึงที่นีขอแนะนำให้นักท่องเที่ยว แวะมาศึกษาข้อมูลของสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่านจะไปได้ที่ คุณแก้วตา แสนเวียง ผอ.ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอุทยานธรณีขอนแก่น อุทยานไดโนเสาร์ศรีเวียงฯ ตั้งอยู่ในตัวเมืองขอนแก่น จะได้ไม่หลง

ไฮไลท์ที่อยากจะบอกว่า น่าไปสัมผัสอันดับแรก คือ แคนยอนน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ มหัศจรรย์แห่งเปลือกโลกอายุกว่า 200 ล้านปี มีลักษณะเป็นหน้าผาตั้งชันของหิน รูปร่างโค้งรูปครั้งวงกลม ขนาดใหญ่ สูงกว่า 200 เมตร ถูกกัดกร่อนโดยกระแสน้ำจนกลายเป็นหลุมขนาดยักษ์ลึกลงไปสู่เบื้องล่าง ดูน่ากลัวมาก ใครตกลงไปตายทุกราย มีน้ำตกเล็กๆไหลเอื่อย ลงไปสู่ก้นเหว ใครอยากเห็นของจริงเที่ยวชมกันได้   ห่างออกไปไม่กี่กิโลเป็นที่ตั้งของผาหินทราย ที่ปรากฏร่องรอยตีนของสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ เป็นต้นตระกูลของไดโนเสาร์ที่มีชื่อว่า “อาร์โคซอร์”จำนวนหลายจุด มีอายุประมาณ 229-204 ล้านปี เป็นวิวัฒนาการของสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ ที่ไทยเราค้นพบ !!

แต่จุดที่จะเข้าไปชมหน้าผาแห่งนี้ อยู่ในป่าลึกต้องบุกขึ้นเขากัน ประมาณ 3 กิโล เหมาะสำหรับผู้ที่แข็งแรง มีกำลังวังชา ไม่มีโรคประจำตัว ต้องเตรียมพร้อมทั้งหมวก รองเท้าผ้าใบ กางเกงที่ใส่สบาย น้ำดื่ม ยากันยูง ยาดม ผ้าเช็ดเหงื่อ  ถ้าไม่แน่ใจอย่าเสี่ยง ท่านอาจจะเป็นลม ล้มพับกลางทางได้ 

สถานที่อีกแห่งก็คือ หุบเขาแห่งไดโนเสาร์ พื้นที่ประวัติศาสตร์โลกเมื่อ อายุ 130 ล้านปี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานธรณีขอนแก่น หรือ KHONKAEN GEOPARK ประกอบด้วยพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า และอำเภอภูเวียง เป็นแหล่งทรัพยากรอันทรงคุณค่าระดับโลก พื้นที่รวม 2 แสนไร่ หุบเขาไดโนเสาร์ภูเวียง แห่งนี้ได้รับการประกาศเป็นอุทยานธรณีระดับจังหวัดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 และกำลังเข้าสู่การเป็นอุทยานธรณีโลกของ UNESCO ในเร็ว ๆ นี้ 

หุบเขาแห่งนี้ มีการค้นพบตัวอย่างฟอสซิลไดโนเสาร์ ชนิดใหม่ ของโลกถึง 5 สายพันธุ์ ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ กินพืชและกินสัตว์พบทั้งตัวเต็มวัยและตัวเล็ก อยู่รวมกันเป็นอาณาจักรของไดโนเสาร์ ได้แก่ 1.ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน 2.สยามโมซอรัส สุธีธรนิ 3.สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซีส 4.กินรีมินัส ขอนแก่นเอนซีส 5. ภูเวียงเวเนเตอร์ แย้มนิยมมิ  นอกจากนี้บริเวณหุบเขาภูเวียงยังเป็นสถานที่แห่งแรก ที่มีการค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นแรกของไทย บริเวณห้วยประตูตีหมา เมื่อปี 2519 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ขุดพบฟันของไดโนเสาร์กินเนื้อปากจรเข้ กลุ่มสไปโนซอรัส ความยาว 2 ซม.ฝังอยู่ในก้อนหิน ได้อีก1ชิ้น

หุบเขาแห่งไดโนเสาร์ เป็นหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาหินทราย 2 ชั้น โดยชั้นนอกสุดเป็นเทือกเขาสูง ส่วนชั้นถัดมาเป็นเทือกเขาเตี้ยๆ มีรูปร่างเอียงลาดชันเป็นแอ่ง จึงเป็นเสมือนกำแพงยักษ์โอบล้อมพื้นที่หุบเขาภูเวียงที่มีลักษณะกลมที่มีทางเช้า-ออกเพียงทางเดียว  ภูมิประเทศในรูปแบบนี้ ยังไม่เคยปรากฏที่ไหนในโลก

ปิดท้ายทริปที่แสนตื่นตา พวกเราได้แวะลิ้มลองอาหารรสเด็ด ที่ ครัวเวียงเก่า ด้วยเมนูขอนแก่นจีโอปาร์ค เครือข่ายอุทยานธรณีขอนแก่น กิจกรรมเชื่อมโยงด้านวัฒนธรรมอาหาร เป็นอาหารพื้นเมืองในท้องถิ่น แต่ตั้งชื่อตามภาษาธรณีวิทยาและแวะเยี่ยม”โคกภูตากา”โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติจากหินทรายสีแดงยุคไดโนเสาร์ อายุ 130 ล้านปี มีชื่อว่า “ผ้าฝ้ายธรณิน”และสวนอินทผาลัม ที่บ้านสวนสัมฤทธิ์  กิจกรรมเหล่านี้กำลังถูกต่อยอดไปสู่ชาวบ้านในท้องถิ่นให้มีความรู้และมีรายได้ อย่างยั่งยืนต่อไป