วันอังคาร ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2567 16:58 น.

ข่าวสังคม

“พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา” ในวันอำลา ผบช.น. : เกียรติศักดิ์จารึกไว้

วันพุธ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2564, 00.59 น.

“พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา”

ในวันอำลา ผบช.น. : เกียรติศักดิ์จารึกไว้

 

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

เปรียบได้กับ “เกษียณอายุราชการ” อันหมายถึง การสิ้นกำหนดเวลารับราชการหรือการทำงานซึ่งปกติกำหนดไว้ที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

สำหรับนายตำรวจที่ชื่อ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตราดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มา 2 ปี ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 มีอายุครบ 60 ปีในวันที่ 30 กันยายน 2564

เมื่อพล.ต.ท.ภัคพงศ์เกษียณอายุราชการ ผู้ที่จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผบช.น.คนต่อไป คือพล.ต.ท.สำราญ นวลมา รองผบช.น.

การสิ้นสุดการทำงานโดยไม่ได้มีเรื่องมัวหมองหรือมลทินใดๆติดตัวให้เป็นทุกข์ ถือเป็นความโชคดีที่สุดของชีวิตราชการตำรวจ

การก้าวมาถึงจุดสูงสุดในวันนี้  พร้อมกับฝากผลงานไว้ให้จดจำเป็นแบบอย่าง มิใช่นายตำรวจระดับสูงทุกนายจะทำได้

อันว่า ชื่อเสียงเรียงนามที่บิดามารดาตั้งให้มาตั้งแต่เกิดก็ถูกโฉลกเป็นมงคลกับชีวิต

“ภัคพงศ์”มีความหมายว่า“เชื้อสายผู้มีโชค”ส่วนนามสกุล“พงษ์เภตรา”หมายถึง“เชื้อสายหรือเทือกเถาของเรือ หรือเรือสำเภา”ซึ่งในสมัยโบราณนั้นเป็นพาหนะในการเดินทางและการขนส่งที่สำคัญ

ด้วยความเพียรพยายามและความดีงามของการประพฤติตนที่มุ่งไปข้างหน้าประดุจเรือสำเภาฝ่าคลื่นลมฝนฟ้าและพายุ

พาหนะ “พงษ์เภตรา” ลำนี้ได้นำผู้คนข้ามน้ำ ข้ามมหาสมุทรไปสู่เป้าหมายด้วยความปลอดภัย

“ภัคพงศ์” มีโอกาสได้รับใช้ชาติด้วยการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน  ดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองได้อย่างสมเกียรติ

บนเส้นทางแห่งความพากเพียรนั้น หลังเรียนจบจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ได้สอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 22 และเข้าศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 38

ปี 2528หลังจบการศึกษา ได้เริ่มต้นรับราชการที่บ้านเกิดในตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานีก่อนย้ายเป็นผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.ชุมพล อรรถศาสตร์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร 3 คุมพื้นที่ภาคเหนือ

ระหว่างดำรงตำแหน่งได้มีโอกาสเรียนรู้งานกิจการพิเศษใน “แผนกรกฏ”ทำให้มีความเชี่ยวชาญและความรู้เรื่องยุทธวิธีการคุมผู้ชุมนุมประท้วงและแนวทางการปฏิบัติกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ ตั้งแต่ไฟไหม้ น้ำท่วม ไปจนถึงการจี้ตัวประกัน หรือเหตุวินาศกรรม

ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายมาตามลำดับได้ทำคดีอาชญากรรมสำคัญหลายคดี

วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ได้รับการแต่งตั้ง เลื่อนจากรองผบช.น. ขึ้นเป็นผบช.น. เรียกกันสั้นๆว่าน.1 สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย    และความสงบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ มีกองบังคับการ 14 กองบังคับการ และ 2 หน่วยงานขึ้นตรงต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนที่ 50 นับแต่มีตำแหน่งนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2465 จนถึงวันนี้จะครบ 99 ปีของการก่อเกิดตำรวจนครบาล ซึ่งตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม

2 ปี กับตำแหน่งที่มีทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบของ ผบช.น. พล.ต.ท.ภัคพงษ์ได้บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้คำขวัญ “จงรักภักดี มั่นคง ปลอดภัย รับใช้ประชาชน”มอบนโยบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาถือปฏิบัติโดยมุ่งเน้นในเรื่องความมั่นคงของสถาบันเป็นอันดับแรก ตามด้วยการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในสังคม ป้องกันและปราบปราม ลดระดับอาชญากรรม บรรเทาความเดือดร้อนต่างๆของประชาชน

เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองเพื่อประท้วงขับไล่ผู้นำประเทศในหลากหลายรูปแบบ ตลอดทั้งปี 2563 – 2564ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่เกิดวิกฤติโรคระบาดร้ายแรงโควิด-19 ทำให้การรับมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความยุ่งยากมากขึ้นเพราะพฤติกรรมของกลุ่มคนและความขัดแย้งมีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับหลายมิติ ทั้งการเมือง สังคม เศรษฐกิจ สาธารณสุข สิทธิมนุษยชน ฯลฯ แต่กระนั้น ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยการสั่งการและกำกับติดตามการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกระดับ

หลายๆเหตุการณ์  พล.ต.ท.ภัคพงษ์ลงมาปฏิบัติงานในภาคสนามเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับลูกน้องเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ

ความภูมิใจสูงสุดของพล.ต.ท.ภัคพงษ์ในวันที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็คือ

การได้พิสูจน์ให้เห็นถึงเกียรติศักดิ์ของความเป็น“ตำรวจอาชีพ”ที่รักษากฏหมาย ได้สร้างผลงานไว้ด้วยความทุ่มเทและความมุ่งมั่น