วันอาทิตย์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 02:30 น.

ข่าวสังคม

ไทเปร่วมเป็นสักขีพยานเหตุการณ์ประวัติศาสตร์กฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568, 18.30 น.

กฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทยมีผลใช้บังคับแล้ว! สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยานเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2025 วันนี้ กฎหมายสมรสเท่าเทียมแห่งประเทศไทยมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการแล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม “บางกอกไพรด์” (Bangkok Pride) ภาคประชาสังคมท้องถิ่น ร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจัดงานเฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่ ณ สยามพารากอน กรุงเทพฯ มีทั้งการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม เดินขบวนพาเหรด และสุนทรพจน์จากนักการเมืองคนสำคัญ ดึงดูดความสนใจของประชาคมโลก

เดือนไพรด์บางกอกมักจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี และถือเป็นกิจกรรมสำคัญในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ เนื่องด้วยกฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทยมีผลใช้บังคับในปีนี้ จึงได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองพิเศษขึ้นในเดือนมกราคม โดยเน้นที่ประเด็นด้านสมรสเท่าเทียม แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญของประเทศไทยในด้านค่านิยมความเสมอภาคและความหลากหลาย และเป็นหมุดหมายสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศของชาว LGBTQ+ กิจกรรมครั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (Paetongtarn Shinawatra) นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า นายเศรษฐา ทวีสิน (Srettha Thavisin) อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (Chadchart Sittipunt) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนักการเมืองท่านอื่น ได้เข้าร่วมงานดังกล่าว เพื่อแสดงถึงความสนับสนุนและความคาดหวังต่อสมรสเท่าเทียม

นายจาง จวิ้น ฝู ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (สำนักงานฯ) ได้นำ นายต่ง ซือ ฉี รองผู้อำนวยการใหญ่ และคณะเข้าร่วมงานดังกล่าว นายจางฯ ได้จับมือกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมแสดงคำอวยพรจากไต้หวัน นอกจากนี้ ยังได้พบปะหารือกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทย รวมถึงเอกอัครราชทูตประเทศอื่นประจำประเทศไทย เช่น สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ฟินแลนด์ สวีเดน เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้ร่วมกัน

นายจางฯ ได้กล่าวว่า เมื่อปี 2017 ไต้หวันในฐานะที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับเป็นประเทศแรกในเอเชีย มีความเข้าใจถึงความสำคัญของสมรสเท่าเทียมอย่างลึกซึ้ง พร้อมกล่าวว่า “ในฐานะพันธมิตรที่มีแนวคิดเหมือนกัน ไต้หวันและไทยมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามค่านิยมสากล เช่น เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไต้หวันขอชื่นชมความก้าวหน้าและความเป็นผู้นำของไทยในการส่งเสริมสมรสเท่าเทียม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบนพื้นฐานค่านิยมร่วมกันจะกระชับความร่วมมือทวิภาคีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้านเศรษฐกิจ การค้า และสิทธิมนุษยชน ร่วมกันนำมาซึ่งความหวังและความก้าวหน้าสู่ภูมิภาค”

ในขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แสดงความยินดีกับประเทศไทยสำหรับความสำเร็จครั้งสำคัญในการส่งเสริมสมรสเท่าเทียม พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันในฐานะประเทศแรกในเอเชียที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับ มีความเข้าใจถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชนและคุณค่าที่หลากหลายอย่างลึกซึ้ง และหวังว่าจะร่วมสร้างอนาคตที่โอบอ้อมอารีและให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนมากขึ้นกับประเทศไทย

เช้าวันนี้ นายต่ง ซือ ฉี รองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานฯ ได้เดินทางไปยัง สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสักขีพยานเรื่องหน่วยงานทะเบียนราษฎรไทยรับจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม อันเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังได้หารือกับ นายธัญญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. พรรคประชาชน และ ผู้ผลักดันกฎหมายการสมรสเท่าเทียมในไทย พร้อมแสดงความชื่นชมอย่างสูงต่อความก้าวหน้าด้านสมรสเท่าเทียมของประเทศไทย นอกจากนี้ เขายังได้พบกับปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ส.ส. พรรคประชาชน และ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกล พร้อมแจ้งว่าไต้หวันสนับสนุนสมรสเท่าเทียมในไทย และเชิญชวนให้เดินทางไปไต้หวันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการส่งเสริมกฎหมายสมรสเท่าเทียม  อีกทั้ง นายต่งยังได้พบกับ แมงโก้คัปเปิล  (Mango Couple) ยูทูปเบอร์เกาหลี และได้ใช้ภาษาเกาหลีสนทนาเกี่ยวกับประเด็นสมรสเท่าเทียม สื่อให้เห็นถึงความกระตือรือร้นและการสนับสนุนในการสื่อสารเชิงพหุวัฒนธรรม

ไฮไลท์ของงานนี้ ได้แก่ พิธีจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม การแสดงเชิงพหุวัฒนธรรม และการกล่าวสุนทรพจน์โดยนักการเมืองสำคัญหลายท่าน เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยในการโอบอ้อมอารีค่านิยมที่หลากหลาย และยังเน้นย้ำถึงความพยายามของรัฐบาลไทยที่กระตือรือร้นในการส่งเสริมความเสมอภาค

ข่าวของสำนักงานฯ ระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายการสมรสเท่าเทียมถือว่าเป็นหมุดหมายสำคัญในกระบวนการเรียกร้องสิทธิที่เท่าเทียมกันของไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นฐานค่านิยมร่วมกันระหว่างไต้หวันและไทย อนาคตจะมีความร่วมมือกันในด้านต่างๆ เพื่อผลักดันประโยชน์และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันที่มีความโอบอ้อมอารี