ไทยพีบีเอสจัดเสวนา “ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน : มองอดีต สู่อนาคต” แลกเปลี่ยนมุมมองทางการทูต วิชาการ สื่อ และภาคอุตสาหกรรม  ชี้สื่อมวลชน คนรุ่นใหม่ สะพานเชื่อมความร่วมมือสู่อนาคต 

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส โดย Thai PBS World ร่วมกับศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน (TCSC) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดเสวนา ‘ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน : มองอดีต สู่อนาคต’ ในโอกาสที่ปี 2568 เป็นวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีน มีความแน่นแฟ้น ลึกซึ้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สามารถนำมาสร้างประโยชน์ให้ทั้งสองประเทศได้ และช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ด้วยกลไกพหุภาคี สร้างหลักประกันการพัฒนาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ความคิดเห็นอาจมีที่ไม่ตรงกัน แต่การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความจริงใจ ความสม่ำเสมอ และการเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทั้งในแวดวงธุรกิจ สื่อ คนรุ่นใหม่ จะเป็นสะพานแห่งอนาคตสำหรับความสัมพันธ์ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป

รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการการ ส.ส.ท. กล่าวว่า ตลอด 5 ทศวรรษ ระหว่างความสัมพันธ์ไทย-จีน มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม สื่อมวลชนถือเป็นสะพานเชื่อมโยงความคิด วัฒนธรรม ของผู้คน ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์อันดี ผ่านแพลตฟอร์ม ของสื่อทั้งสองประเทศ โดยเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจของไทยพีบีเอส ในการสร้างสัมพันธ์อันดีของประชาคมโลก ที่จะเรียนรู้ไปด้วยกัน ซึ่งงานเสวนาครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้แน่นแฟ้น จุดประกาย ให้เกิดความร่วมมือใหม่ ๆ ต่อไปในอนาคต

ภายในงาน ยังมีการจัดเสวนา หัวข้อ “50 ปีแห่งความสำเร็จทางการทูต: รากฐานแห่งเสถียรภาพในภูมิภาค” โดย ผศ. ดร. อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา และคณบดีนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึง 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.จุดจบของสงครามเย็น และจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์กับจีน อยู่ในยุคที่จีนเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว 2.เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ความท้าทายใหม่ที่ต้องจับตา และ 3.ยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว

“ทั้งสามประเด็นนี้ คือความท้าทายที่สำคัญในยุคที่ภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกกำลังปั่นป่วน เราต้องคิดให้ชัดว่าจะรักษาความสมดุลอย่างไร รักษาตัวรอดจากความผันผวนของเศรษฐกิจจีน และจะตอบสนองต่อเทคโนโลยีที่ถาโถมเข้ามาได้อย่างไร เราต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่าเรากังวลเรื่องอะไร ต้องการอะไร เพราะบางทีเราไม่ได้สื่อสารอย่างเพียงพอ การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจเหมือนพี่น้อง จะช่วยแปลงความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสได้มากขึ้น” ผศ. ดร.อาร์ม กล่าว

ด้าน นายกวี จงกิจถาวร สื่อมวลชนอาวุโส และประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ กล่าวถึงบทบาทของสื่อในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน” ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนในช่วง 50 ปี พัฒนาไปเร็วมาก  จากยุคจักรยานสองล้อไปสู่ยุครถไฟความเร็วสูง ซึ่งมีวิวัฒนาทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปสูงมาก การพัฒนาความสัมพันธ์ของไทย-จีนในบริบทที่เปลี่ยนไป และการเดินทางไปข้างหน้าด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์ชิพที่มีความเท่าเทียมกันหรือไม่ ซึ่ง 3 ประเด็นนี้มีความสำคัญกับบทบาทของสื่อในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของไทย-จีน สิ่งที่ท้าทายและจะเกิดขึ้นต่อจากนี้  คือความสัมพันธ์ที่ต้องเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ร่วม เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ดียาวนานไม่ได้เป็นเครื่องประกันผลประโยชน์ของชาติจะตอบสนองกันได้ ดังนั้น เราต้องมีความระมัดระวังมาก และต้องเข้าถึงข้อมูล เพื่อให้ไม่เกิดการบิดเบือนข้อมูล

Ms. LI Min หัวหน้าสำนักข่าว China Media Group ประจำประเทศไทย กล่าวว่า บทบาทของ China Media Group ในฐานะสื่อมวลชน ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดข่าวสาร จากสำนักข่าวจีน รัฐบาลจีนโดยตรง ด้วยภาษาอังกฤษ ให้แก่ สื่อไทย และสังคมไทย โดยไม่ต้องผ่านมุมมองความเห็นจากฝั่งตะวันตก ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งมีกระบวนการคัดเลือกข่าวในเชิงบวก ที่เป็นข้อเท็จจริง ทำให้ภาพลักษณ์ของไทยในจีนเป็นบวก ขณะเดียวกันก็เสนอข่าวเชิงบวกของจีนเช่นเดียวกัน และพยายามคงความเป็นกลาง เพื่อคงภาพลักษณ์ที่ดีของจีนในมุมมองของสังคมไทย แต่ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ควบคุมได้ยาก ซึ่งเป็นปัญหาที่สื่อต่างต้องเผชิญดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์ โดยเรานำเสนอข่าวสารในช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากหลากหลายภาคส่วน อาทิ นายมงคล บางประภา ที่ปรึกษาสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และผู้สื่อข่าวบางกอกโพสต์, นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, Prof. Zhang Xizhen วิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายโจ ฮอร์น พัธโนทัย กรรมการอำนวยการบริษัท Strategy 613 จำกัด, นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าว ไทยพีบีเอสร่วมพูดคุย ซึ่งต่างสะท้อนถึงโอกาส ความท้าทาย ของการเชื่อมร้อยความสัมพันธ์ และบทบาทของ “สื่อ” ในการทำหน้าที่เป็น “สะพาน” เชื่อมโยงความเข้าใจระหว่างผู้คน และวัฒนธรรม ระหว่างสองประเทศ

ช่วงท้ายของงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “คนรุ่นใหม่: สะพานแห่งอนาคตสำหรับความสัมพันธ์ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน” สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ “คนรุ่นใหม่” ที่จะเป็นสะพานแห่งอนาคต เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศอย่างสร้างสรรค์ และเป็นรากฐานของความร่วมมือในอนาคต

งานเสวนา ‘ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน : มองอดีต สู่อนาคต’ ครั้งนี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญของการสร้างความเข้าใจ และการร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนให้มั่นคง มีคุณภาพ และแน่นแฟ้นต่อไปในอนาคต สามารถติดตามรายละเอียดย้อนหลัง

เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/100064972950664/videos/1260125379019459 ,https://www.facebook.com/100064972950664/videos/608195808963480