วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568 15:54 น.

ข่าวสังคม

มสธ.จับมือสถาบันสื่อ–บริหารธุรกิจไทย–จีนเสริมแกร่งความร่วมมือวิชาการและธุรกิจ

วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568, 20.22 น.

มสธ.จับมือสถาบันสื่อ–บริหารธุรกิจไทย–จีน ลงนาม MOU เสริมความร่วมมือวิชาการและธุรกิจ

กรุงเทพมหานคร :  12 กันยายน 2568 – มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) จับมือ สถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน การวิจัย และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสื่อและบริหารธุรกิจระหว่างไทย–จีน

พิธีลงนามจัดขึ้น ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์แกรนด์ รัชดา โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนมพัทธ์ สมิตานนท์ กรรมการสภามหาวิทยาลัย รักษาราชการแทนอธิการบดี มสธ. เป็นผู้แทนฝั่งมหาวิทยาลัย และ นางสาวคันธรส หาญไชยพิบูลย์กุล ผู้อำนวยการสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน เป็นผู้แทนฝั่งสถาบัน

บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ครอบคลุมการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ทั้งบุคลากร สถานที่ และอุปกรณ์การเรียนการสอน รวมถึงการฝึกอบรม การศึกษาดูงาน การวิจัย และการให้คำปรึกษาทางวิชาการ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและผู้เรียนให้สามารถทำงานร่วมกันในบริบทไทย–จีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนมพัทธ์ กล่าวว่ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ให้เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศ การจับมือกับสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน จะช่วยเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาและการวิจัย โดยเฉพาะด้านสื่อสารมวลชนและธุรกิจระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศได้อย่างแท้จริง

นางสาวคันธรส กล่าวว่า ความร่วมมือกับ มสธ. ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการเชื่อมพลังความรู้จากภาคการศึกษาไทยกับประสบการณ์การทำงานของนักวิชาชีพสื่อและธุรกิจในจีน เราเชื่อว่าจะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการและบุคลากรไทย เข้าใจพลวัตเศรษฐกิจและการสื่อสารในบริบทไทย–จีนอย่างลึกซึ้ง และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจไทย–จีน กล่าวว่า

การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ เกิดจาก

ดำริของดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน ที่มุ่งหวังอยากจะให้โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้สื่อข่าวไทย–จีน ให้เข้าใจในมิติการสื่อสารและบริหารธุรกิจอย่างรอบด้าน

"ผมเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นสะพานแห่งความรู้และโอกาสที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งต่อผู้เรียน ผู้สอน และผู้ประกอบวิชาชีพในอนาคต ซึ่งกันลงบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้จะไม่ใช่เพียงพิธีการ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่จะขับเคลื่อนองค์ความรู้ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการสร้างสรรค์โครงการใหม่ ๆ ทั้งในมิติทางวิชาการ เศรษฐกิจ และสังคม" ดร.สืบพงษ์ กล่าว

ดร.สืบพงษ์ กล่าวอีกว่า บันทึกข้อตกลงฉบับนี้มีระยะเวลา 5 ปี โดยทั้งสองฝ่ายย้ำว่าจะดำเนินกิจกรรมเชิงวิชาการและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเครือข่ายความรู้และความเข้าใจอันแน่นแฟ้นระหว่างไทย–จีน และยกระดับมาตรฐานด้านสื่อสารมวลชนและบริหารธุรกิจไทย–จีนให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

ด้าน ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน กล่าวว่า สถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน เป็นสถาบันภายใต้การสนับสนุนของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวและนักธุรกิจจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย

“โครงการนี้เกิดขึ้นจากโจทย์ที่ได้รับจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเกี่ยวกับปัญหาการประสานงานของกลุ่มนักธุรกิจจีนที่มาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกับองค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะภาครัฐ ดังนั้น สมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีนจึงจัดหลักสูตรนี้ขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการประสานงานกับองค์กรภาครัฐของนักธุรกิจจีน และเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน”

ดร.กำพล กล่าวต่อว่า การก้าวสู่ความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพของผู้สื่อข่าวทั้งไทยและจีน รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจไทย–จีน

“เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ภายใต้การสนับสนุนของสถานทูตจีนประจำประเทศไทย สมาคมฯ ได้ส่งกลุ่มผู้สื่อข่าวไปอบรมและเรียนรู้ที่ประเทศจีนเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์ เพื่อเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ด้านสื่อสารระหว่างประเทศ และในอนาคต เราวางแผนจัดโครงการรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 โดยได้รับการอนุมัติหลักการและสนับสนุนงบประมาณจากสถานทูตจีน ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจะช่วยยกระดับศักยภาพผู้สื่อข่าวไทยให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น” นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนกล่าว