ข่าวสังคม
TSPCA ออกโรงเตือนคนเลี้ยงสัตว์ดุร้ายปล่อยกัดคนตายเสี่ยงโทษคุก 10 ปี
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เสี่ยงเจอโทษจำคุก !! สมาคมป้องกันทารุณสัตว์ฯออกโรงเตือนคนเลี้ยงสัตว์ดุร้ายปล่อยขย้ำคนตาย หลังเกิดเหตุการณ์ “สุนัขพิทบลู-สิงโต” ขยำคนเสียชีวิต 2 รายติดๆ ชี้กฎหมายมีบทลงโทษหนักจำคุก 10 ปี ปรับ 2 แสนบาท แนะอ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ละเอียดก่อนนำสัตว์ดุร้ายมาเลี้ยง
ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ กล่าวถึงกรณีสุนัขพันธุ์พิทบลู คาบเด็กอายุ 2 ขวบจนเสียชีวิตที่จังหวัดอุทัยธานี และกรณีสิงโตทำร้ายผู้ดูแลจนเสียชีวิตว่า ประเด็นการเสียชีวิตสาเหตุเกิดจากสัตว์ทำร้ายคนนั้นจะเห็นว่ามีมากยิ่งขึ้นในประเทศไทย เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการหรือแม้แต่ประชาชนโดยทั่วไปสนใจ เลี้ยงสัตว์ดุร้าย สัตว์แปลกๆมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเสือ สิงโต หรือสุนัขพันธุ์ดุต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา เช่น หามาตรการการดูแล การออกระเบียบกฎหมายเพื่อเป็นแนวทางในการควบคุม การดูแลการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสร้างความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์
สำหรับในแง่กฎหมายกรณีสุนัขพันธุ์ดุหรืออันตรายนั้น ดร.สาธิต กล่าวว่าปัจจุบันคณะกรรมการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ได้พิจารณารับรองร่าง ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการจัดสวัสดิภาพสัตว์เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่เหมาะสมสำหรับสุนัขอันตราย พ.ศ.... โดยมีการพิจารณาและจะประกาศเป็นกฎหมายต่อไป โดยเนื้อหาสาระ เช่น นิยาม คำว่า สุนัขอันตราย หมายความว่า สุนัขที่มีลักษณะทางกายภาพ นิสัยหรือพฤติกรรมดุร้าย ขู่กรรโชก ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น หรือมีประวัติทำร้ายหรือพยายามทำร้ายคนหรือสัตว์เลี้ยงโดยปราศจากการยั่วยุหรือเจ้าของไม่อาจควบคุมได้ และให้หมายความรวมถึงสุนัขที่ได้รับการฝึกสอนให้ทำร้ายคนหรือสัตว์เลี้ยงได้และสุนัขที่มีลักษณะหรือสายพันธุ์ที่อธิบดีกรมปศุสัตว์ประกาศกำหนด
เลขาธิการ TSPCA กล่าวว่า เจ้าของสุนัขอันตรายต้องรับผิดชอบในการจัดสวัสดิภาพให้เหมาะสม ทั้งด้านอาหารและน้ำ การจัดการด้านสภาพแวดล้อมและความปลอดภัย เช่น สถานที่เลี้ยงต้องมีพื้นที่ที่เหมาะสม แข็งแรง สามารถป้องกันสุนัขจากการยั่วยุหรือทำร้ายได้ หรือไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าถึงสุนัข และต้องมีป้ายเตือนให้ระมัดระวังโดยสังเกตได้อย่างชัดเจน หากเจ้าของไม่สามารถอยู่ดูแลสุนัขอันตรายเป็นการชั่วคราว ต้องจัดให้มีผู้รับผิดชอบดูแลความเป็นอยู่ของสุนัขแทน และต้องควบคุมไม่ให้สุนัขอันตรายออกนอกสถานที่โดยปราศจากการควบคุม ต้องฝึกสุนัขให้คุ้นเคยกับการใส่สายจูงเมื่อต้องนำไปในสถานที่สาธารณะหรือในกรณีฉุกเฉิน โดยกำหนดให้สุนัขอันตรายต้องใส่อุปกรณ์ครอบปากและสายลากจูงห่างจากตัวสุนัขไม่เกิน 1 เมตร ตลอดเวลาเมื่อนำออกนอกสถานที่เลี้ยง และห้ามผู้หย่อนความสามารถ นำสุนัขอันตรายออกนอกสถานที่เลี้ยง เว้นแต่อยู่ในกรง ที่ขัง หรือมีเครื่องควบคุมที่มั่นคงแข็งแรงเพียงพอจะป้องกันบุคคลภายนอกมิให้มากวนสุนัขได้ เป็นต้น
สำหรับกรณีมาตรฐานในสวนสัตว์นั้น ดร.สาธิต กล่าวว่าตาม พ.ร.บ.สัตว์สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 33 กำหนดให้ สวนสัตว์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการสวนสัตว์ที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยได้มีระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่าด้วยการประกอบกิจการสวนสัตว์และสวนสัตว์ของหน่วยงานรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ พ.ศ. 2567 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 โดยกำหนดนิยาม สัตว์ดุร้าย หมายความว่า สัตว์ป่าโดยทั่วไปเห็นว่าสามารถทำให้เกิดอันตรายแก่คน สัตว์ หรือทรัพย์สินที่อยู่ภายในสวนสัตว์หรือนอกสวนสัตว์ได้ โดยมาตรฐานด้านการจัดการพื้นที่เลี้ยงสัตว์และพื้นที่จัดแสดงสัตว์ หากเป็นการแสดงสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์ดุร้าย ต้องจัดทำแผนการควบคุมสัตว์ แนวทางการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การปฐมพยาบาล และแผนการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ สำหรับสวนสัตว์ที่จัดให้มีการแสดงสัตว์ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับสัตว์หรือสัมผัสกับสัตว์โดยตรงต้องมีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด และต้องดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 1.จัดแผนควบคุมสัตว์ การปฐมพยาบาล และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยละเอียด 2.จัดให้มีการประกันอุบัติเหตุหรือประกันชีวิตแก่ผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ 3.จัดให้มีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ชำนาญในการควบคุมสัตว์ รวมถึงอุปกรณ์จับบังคับสัตว์ในพื้นที่จัดแสดงในจุดที่เข้าถึงได้ง่ายและเพียงพอ เช่น ปืนยิงยาสลบ เครื่องช็อตไฟฟ้า ไม้กระบอง ตาข่าย หรือสวิงควบคุมสัตว์ เป็นต้น เพื่อรักษาความปลอดภัย 4.มีมาตรการตรวจสอบป้องกัน ควบคุม โรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายจากสัตว์สู่คนและจากคนสู่สัตว์ 5.มีพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ภายในพื้นที่จัดแสดงสัตว์นั้น 6.ควบคุมจำนวนผู้เข้าชมให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ประกอบกิจการสวนสัตว์
ผอ.สมาคม TSPCA กล่าวว่าถ้าเจ้าของสัตว์ดุร้ายอันตรายละเลยประมาทเลินเล่อไม่ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องนอกจากผิดระเบียบดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ความผิดฐานกระทำประมาทและกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 ซึ่งบัญญัติว่าถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรักษาไว้แทนเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายใดๆอันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นเกิดแต่ความผิดฝ่ายผู้เสียหายเอง ดังนั้นการเลี้ยงหรือดูแลสัตว์ดุร้ายอันตราย ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่ความนิยมชมชอบโดยส่วนตัว แต่จะเป็นความรับผิดชอบทั้งต่อการดูแลจัดสวัสดิภาพและการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์เหล่านั้นแล้ว ความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ข่าวสังคม
ข่าวในหมวดข่าวสังคม ![]()
ชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมบุญทอดกฐิน 15:56 น.
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนอร์เวย์ผสานพลังกับตลาดไทยในงาน Vitafoods Asia 2025 15:18 น.
- สภาฯจับมือ สสส.ปลุกคนรัฐสภาหมั่นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีห่างไกลโรค NCDs 11:24 น.
- เคเอฟยู มอบความสุข เติมความห่วงใย ณ สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า 12:01 น.
- ประทานพรวันเกิด 15:27 น.