สถานทูตไทยในตุรกี จัดงานเลี้ยงเนื่องใน “วันชาติไทย” ยกคณะเชฟอวดฝีมืออาหารไทย ผลไม้ไทย และการเดินแบบผ้าไหมไทย อึ้งคิวต่อแถวยาวเหยียดรอชิม “ข้าวเหนียวมะม่วง” ส่งตรงจากเมืองไทย พร้อมเสียงตอบรับชื่นชมล้นหลามจากผู้ร่วมงานกว่า 400 คน

นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ประเทศตุรกี เป็นประธานการจัดงานเลี้ยงรับรอง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2562 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติไทย และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2562 โดยมีนาย Serdat Onal รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี เป็นแขกเกียรติยศฝ่ายตุรกี พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ทีมประเทศไทย คู่สมรส ตัวแทนจากบริษัทไทยในตุรกี ตลอดจนชาวไทยและครอบครัวที่พำนักในกรุงอังการา คณะทูตานุทูต ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน สมาคมและองค์กรต่างๆ ของตุรกี เข้าร่วมงานกว่า 400 คน ณ โรงแรม Ankara HiltonSA ประเทศตุรกี

นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา กล่าวสุนทรพจน์ถึงความสำคัญของวันที่ 5 ธันวาคมว่า เป็นทั้งวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติไทย และวันพ่อแห่งชาติของไทย นอกจากนี้ สมัชชาใหญ่สหประชาชาติยังได้เลือกและประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันดินโลก” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชฯ ที่ได้ทรงทุ่มเทตลอดพระชนม์ชีพ ต่อการวิจัย พัฒนา และฟื้นฟูดิน เพื่อความมั่นคงด้านการเกษตร อาหารและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของความสัมพันธ์ไทย-ตุรกีมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ และความพยายามของทั้งสองฝ่ายที่จะส่งเสริมความร่วมมือในทุกมิติให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการจัดทำ FTA ไทย–ตุรกี ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 ที่จะถึงนี้

ด้าน นาย Serdat Onal รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ได้กล่าวเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชฯ รวมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับตุรกี การพัฒนาในด้านเศรษฐกิจและบทบาทของไทยที่กำลังเพิ่มพูนขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ

สำหรับบรรยากาศของงานเลี้ยงรับรองฯ ในปีนี้ เป็นไปอย่างอบอุ่นชื่นมื่น แขกภายในงานต่างกล่าวชื่นชมการจัดงานซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีม “Thai Food, Thai Fruits, and Thai Silk Fashion Show” โดยมีการนำเสนออาหารไทย อาทิ ต้มยำกุ้ง ส้มตำ แกงเขียวหวาน ผัดไทย -และขนมไทยนานาชนิด เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน เสน่ห์จันทน์ จ่ามงกุฎ ตะโก้ และวุ้นกะทิ นอกจากนั้นยังมีเมนูที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ “ข้าวเหนียวมะม่วง” โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้นำมะม่วงน้ำดอกไม้และมะม่วงเขียวเสวย และผลไม้กระป๋อง เงาะและลิ้นจี่กระป๋อง ส่งตรงจากเมืองไทยมาในงานนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้สินค้าอาหารและเกษตรของไทยเป็นที่รู้จักเผยแพร่มากขึ้นในตุรกี  โดยแขกภายในงานพากันต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอชิม “ข้าวเหนียวมะม่วง” และต่างขานรับเป็นเสียงเดียวกันถึงความหอมหวานและรสชาติดีของผลไม้จากเมืองไทย โดยแขกหลายคนได้ขอผลมะม่วงน้ำดอกไม้ที่จัดแสดงเป็นของที่ระลึกกลับบ้านอีกด้วย

นอกจากนั้น ภายในงานยังได้จัดแสดงแฟชั่นโชว์ชุดไทยโดยข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตและครอบครัว ร่วมกับชุดผ้าไหมไทยร่วมสมัยที่ออกแบบโดยนาย Ahmet Ozceyhan นักออกแบบชาวตุรกีที่ใช้ผ้าไหมไทยในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยผนวกกับงานเย็บปักถักร้อยของตุรกี และยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว อาหารไทย การจัดแสดงการแกะสลักผักผลไม้ไทยและการร้อยมาลัย

การจัดงานวันชาติของไทยในครั้งนี้ ได้สร้างความประทับใจและได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมากจากแขกที่มาร่วมงาน อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนการจัดงานเป็นอย่างดีทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้งไทยและตุรกี ได้แก่บริษัทของไทยที่ลงทุนตุรกี 2 บริษัท คือ บริษัทในเครือ CP All และ บริษัท Indorama Ventures ส่วนบริษัทตุรกี คือ สายการบิน Turkish Airlines, บริษัท Arcelik, บริษัท METRO รวมทั้ง Ahmet Ozceyhan ที่ให้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการจัดแฟชั่นโชว์ผ้าไหมไทยซึ่งผู้สนับสนุนหลักคือบริษัท Indorama Ventures

ทั้งนี้ ภายหลังการจัดงานเลี้ยงรับรองฯ เสร็จสิ้นลง สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้จัดกระเช้ามะม่วงและผลไม้กระป๋องของไทย มอบเป็นของขวัญแสดงความขอบคุณแก่สถานทูตของประเทศต่างๆ ในกรุงอังการา รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จนเป็นที่กล่าวขานกันว่าเป็น “Mango Diplomacy” ที่ได้รับความชื่นชมจากทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์การจัดงาน Thai Food Festival ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการาร่วมกับโรงแรม Ankara HiltonSA จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 13 ธันวาคม 2562 เน้นการโชว์ Street Food ของไทยโดยมีเชฟชื่อดังบินตรงไปจากเมืองไทยเพื่อร่วมสาธิตและประกอบอาหารในงานนี้ 5 คน และได้รับการสนับสนุนจากสายการบิน Turkish Airlines, เครือ CP, Indorama และห้างสรรพสินค้า METRO ทั้งนี้มียอดจองล่วงหน้าจากผู้สนใจกว่า 500 คน เลยทีเดียว 

ผลจากการจัดงานวันชาติที่ผ่านมา ผลไม้ไทยทั้งผลไม้สด และผลไม้กระป๋องได้รับความสนใจอย่างมาก เอกชนเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ในตุรกีให้ความสนใจต่อการนำผลไม้กระป๋องของไทยไปจำหน่าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายตลาดสินค้าไทยไปยังประเทศนี้ โดยล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ไทยตุรกีเพิ่งลงนาม MOU เพื่อซื้อขายสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกจากไทยไปตุรกีรวมมูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี หรือ FTA โดยคาดว่าปีหน้าจะบรรลุข้อตกลง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับไทยในด้านการขยายการส่งออกของไทยไปยังตุรกี สินค้าหลักๆ ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ น่าจะเป็นยานพาหนะและชิ้นส่วน ตู้เย็น พลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางและผลิตภัณฑ์ ผ้าทอ รวมไปถึงผักผลไม้เมืองร้อน และอาหารฮาลาล โดยเมื่อปี 2561 มูลค่าส่งออกจากไทยไปตุรกีประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่าสามหมื่นล้านบาท

ประเทศตุรกีเป็นจุดยุทธศาสตร์การค้าที่สำคัญ อยู่กึ่งกลางระหว่างเอเชีย ยุโรป และอดีตสหภาพโซเวียต มีพรมแดนติดกับประเทศต่าง ๆ ถึง 8 ประเทศ จัดเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 80 ล้านคน มีโครงสร้างเศรษฐกิจคล้ายคลึงกับไทยที่พึ่งพิงการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวปีละกว่า 30 ล้านคน เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงนับเป็นก้าวย่างที่น่าจะสดใสต่อสินค้าไทยในการขยายตลาดการส่งออกที่น่าจะเกิดประโยชน์แก่หลายกลุ่มสินค้าเลยทีเดียว และที่แน่ๆ “ข้าวเหนียวมะม่วง” เมนูสุดประทับใจ ยังได้รับเสียงชื่นชมทุกครั้งเมื่อพูดถึงงานเลี้ยงรับรองที่ผ่านมา