วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568 02:13 น.

ต่างประเทศ

ทหารเมียนมาร์ปฏิวัติแล้ว! จับตัว "ซูจี-ปธน.-มุขมนตรี"

วันจันทร์ ที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 08.34 น.

ทหารเมียนมาร์ปฏิวัติแล้ว! จับตัว"ซูจี-ปธน.-มุขมนตรี" พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่งตั้ง"มินต์ ฉ่วย" รองปธน.เป็นตัวแทนของกองทัพ เป็นผู้รักษาการ ปธน. "ดร.ปิติ" ชี้รัฐบาลพม่ากับกองทัพอยู่ในภาวะเสียสมดุล  "วีระ"ด่ากราด!ตระบัดสัตย์  ด้าน "WeVo"ค้านการปฏิวัตินัดแสดงจุดยืนหน้าสถานทูตวันนี้

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา (1ก.พ.) ทหารเมียนมา (พม่า) ได้บุกเข้าจับกุม นางออง ซาน ซู จี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือ (เอ็นแอลดี) พร้อมด้วย นาย มิน วหยิ่นประธานาธิบดีเมียนมา ทั้งนี้ภายหลังการจับกุมดังกล่าว โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ได้ออกแถลง โดยระบุว่า นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า ถูกกองทัพทหารประเทศเมียนมา เข้าทำการจับกุม ก่อนการประชุมรัฐสภาชุดใหม่ ที่กำลังจะมีขึ้นในวันนี้ 

นายเมียว ยุน โฆษกพรรคเอ็นแอลดี เปิดเผยว่า นางอองซาน ซู จี พร้อมด้วยประธานาธิบดีวิน มินต์ และแกนนำพรรค ได้ถูกควบคุมตัวไปเมื่อช่วงเช้าตรู่ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งการแถลงดังกล่าว นายเมียว ยังได้ระบุด้วยว่า อย่าให้เกิดการตอบโต้ หรือเกิดเหตุรุนแรงภายในประเทศ เพราะต้องการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เบื้องต้น นายเมียว ยุน ยังระบุในช่วงท้ายด้วยว่า สำหรับตนเองนั้น คาดว่าน่าจะถูกทหารเข้าจับกุมตัวด้วยเช่นกัน
          
ทั้งนี้ ภายหลังการจับกุม นาง อองซาน ซูจี เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมา ได้ทำการปิดถนนหลายแห่ง ในกรุงเนปิดอว์ และนครย่างกุ้ง นอกจากนี้ระบบโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต ยังถูกตัดขาดในพื้นที่สำคัญๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า กำลังทหารเมียนมา ยังได้บุกบ้านพักของมุขมนตรีในหลายรัฐ พร้อมกับทำการจับกุมมุขมนตรี และสมาชิกภายในครอบครัว ไปทำการสอบสวนด้วยเช่นกัน
          
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พลเอก อาวุโส มินห์ อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเมียนมาร์ เคยออกมากล่าวหาว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีการทุจริตเกิดขึ้น และไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

ต่อมาได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่งตั้งให้นายมินต์ ฉ่วย รองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทัพเมียนมา เป็นผู้รักษาการ   ปธน.  โอนอำนาจการบริหารประเทศเข้ามาเป็นเวลา 1 ปี

รู้จัก "พล.อ.มิน อ่อง ลาย" ผู้นำยึดอำนาจคือลูกบุญธรรมพล.อ.เปรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ดำเนินการยึดอำนาจในครั้งนี้คือพล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเมียนมาร์  ซึ่งได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันอายุ 65 ปี เกิดที่ทวายในครอบครัวชนชั้นกลาง บิดาเป็นข้าราชการฝ่ายวิศวกรรมโยธา

เคยเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ก่อนเปลี่ยนมาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ได้เป็นทหารและไต่ระดับขึ้นสู่ตำแหน่งต่างๆ อย่างรวดเร็ว ผ่านการเป็นผู้บัญชาการรัฐมอญ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกรมทหารภาคสามเหลี่ยมในรัฐฉาน เป้ยผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการทหารภาครัฐฉาน และรัฐกะเหรี่ยง และเสนาธิการร่วมกองทัพเมียนมาร์ เป็นต้น ซึ่งคนไทยรู้จักดีในฐานะเป็นบุตรบุญธรรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ผู้ล่วงลับ

"ไบเดน"จับตาพร้อมจี้ปล่อยตัว"ซูจี"

เมื่อเวลา 9.10 น.(เวลาไทย) ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน ได้รับรายงานจากนายเจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาขอยืนยันว่า ให้การสนับสนุนต่อสถาบันเกี่ยวกับประชาธิปไตย รัฐบาลสหรัฐ ขอเรียกร้องให้กองทัพทหารเมียนมาณ์ยึดถือปฏิบัติวิถีระบอบประชาธิปไตย สาระสำคัญแห่งกฎหมาย และดำเนินการปล่อยตัวผู้ที่ถูกนำไปกักตัวทุกคนรวมถึงนางอองซาน ซูจี นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาต่อต้านความพยายามทุกรูปแบบในการที่จะแก้ไขผลของการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเร็วๆนี้ หรือขัดขวางการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยของประเทศเมียนมาร์ รัฐบาลสหรัฐกำลังติดตามสถานการณ์ในเมียนมาณ์อย่างใกล้ชิด และยืนเคียงข้างประชาชนชาวเมียนมาที่อดทนอดกลั้นในการค้นหาประชาธิปไตย และความสงบสุขมาเป็นเวลายาวนาน 

ชายแดนรัฐฉานตึงเครียดปิดท่าขี้เหล็กติดไทย 

สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย เริ่มตึงเครียด  โดยมีรายงานว่าหน่วยทหารที่ประจำอยู่ในหัวเมืองชายแดนท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 3 หน่วย ได้ถูกสั่งการให้เตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถออกปฏิบัติการตามคำสั่งได้ตลอดเวลา
          
แต่เบื้องต้นมีรายงานว่าได้มีการส่งกองกำลังบางส่วนเข้าประจำอยู่ตามด่านตรวจสำคัญต่างๆ ที่เชื่อมระหว่างเมือง เช่น ด่านหมากยาง บนถนนอาร์สามบี เชื่อมระหว่างท่าขี้เหล็กกับเมืองเชียงตุง และห้ามไม่ให้ประชาชนทั่วไปเดินทางผ่านด่านดังกล่าวแล้วยกเว้นเจ้าหน้าที่ทหาร
          
นอกจากนี้ยังมีการตัดการสื่อสารระหว่างหน่วยงานต่างๆ กับรัฐบาลพลเรือนรักษาการและรัฐบาลท้องถิ่นที่เมืองตองจี ที่ถือเป็นเมืองหลวงของรัฐฉาน ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตภายใน แต่การสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยหรือประชาชนในฝั่งไทยกับท่าขี้เหล็ก รวมทั้งระบบอินเตอร์เน็ตในท่าขี้เหล็กยังใช้การได้ เพราะมีการใช้สัญญานจากฝั่งไทยเป็นหลัก
          
และล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.40 น.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝั่งเมียนมา ได้ปิดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ฝั่งท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย และแจ้งงดการขนส่งในช่วงนี้จนกว่าจะมีการติดต่อประสานงานกลับมาใหม่ ทำให้การค้าชายแดนต้องหยุดชะงักลงทันที ขณะที่ฝั่งไทยได้มีบรรทุกสินค้าทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ รอส่งออกกันอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งการจัดส่งคนไทยจำนวน 4 คนให้ข้ามกลับตามที่มีการประสานงานกันมาก่อนหน้านี้ก็ไม่ทันได้ดำเนินการเช่นกัน
 

"ดร.ปิติ" ชี้รัฐบาลพม่ากับกองทัพอยู่ในภาวะเสียสมดุล  

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว "Piti Srisangnam" ว่าด้วยสถานการณ์ใน #เมียนมา ดังนี้..เราต้องเข้าใจ #สมการแห่งอำนาจ ในเมียนมา  เท่าที่ผมพอจะเข้าใจคือ เดิม NLD และกองทัพ ต่างก็ต้องหวังพึ่งซึ่งกันและกัน แต่ในระยะหลังกองทัพเองก็ไม่ได้มีความเป็นเอกภาพมากนัก
          
ในอดีตกองทัพสนิทสนมกับจีน ว่าด้วยผลประโยชน์หลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงทรัพยากร แต่ในระยะหลัง เมื่อเมียนมาเปิดประเทศ ต่างชาติกลุ่มใหม่เข้ามามากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์เรื่อง ชนกลุ่มน้อยโกก้างในรัฐฉานติดชายแดนจีนทำให้หลายฝ่ายมองจีนเป็นภัยความมั่นคง
          
อีกด้านของพรมแดน ทางตะวันตก ปัญหาเรื่องเบงกาลี-โรฮิงญา ที่ชาติตะวันตกเข้ามาแทรกแซงก็ทำให้ หลายๆ ฝ่ายในประเทศกังวล กองทัพคบจีนก็น่ากังวล รัฐบาลคบตะวันตกก็น่ากังวล ดังนั้นกองทัพกับรัฐบาลที่เคยต้องพึ่งพากันเหมือนเครื่องหมายหยิน-หยาง ที่ต่างกัน ตรงกันข้ามกัน แต่ต้องอยู่ด้วยกัน ถ่วงดุลกัน จึงเสียสมดุล
          
ประกอบกับ ในกลุ่มกองทัพเอง ระหว่างกลุ่มอาวุโส กับกลุ่มรุ่นใหม่ ก็ดูจะไม่เป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อก่อนอาจจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ภายหลังเองหลังจากที่กองทัพบางหน่วยได้รับการสนับสนุนจาก อินเดีย (ซึ่งเป็นพันธมิตรสหรัฐ ในยุทธศาสตร์ อินโด-แปซิฟิก และเป็นคู่กรณีกับจีน) โดยเฉพาะเรื่อง เรือดำน้ำ เช่นเดียวกับที่รัฐบาลเองก็ได้รับการสนับสนุนเรื่องวัคซีนโควิดจากอินเดีย
          
นั่นทำให้ดุลอำนาจ และการพึ่งพาระหว่างจีน ตะวันตก และผู้เล่นใหม่คือ อินเดียเสียสมดุล และสมดุลเดิมระหว่าง NLD และกองทัพ (ซึ่งมี USDP เป็นตัวแทน) ก็เสียสมดุล เพราะกองทัพ มีความแตกตัวออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มนายทหารอาวุโส (สนิทจีน) กลุ่มทหารรุ่นใหม่ที่ยอมรับ NLD มากขึ้น กลุ่มทหารที่ต้องการคบคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่จีน
          
และจากประวัติศาสตร์เมื่อเสถียรภาพในกองทัพไม่มี การออกมาแสดงกำลังมักจะเกิดขึ้น เช่น หลัง 8888 ทหารฝ่ายเนวิน ถูกโค่นโดยฝ่ายตานฉ่วย
          
หรือในช่วงทศวรรษ 2000 ที่ตานฉ่วยก็โค่นตัวแทนของตนเองอย่างโซ่วิ่น-หม่องเอ แล้วแต่งตั้งเต็งเส่ง
          
และในอนาคตอันใกล้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มิน อ่อง ลาย ก็กำลังจะเกษียณอายุ ในเดือนกรกฎาคมนี้ ดังนั้นการที่จะต้องกระชับอำนาจ ถ้าจะต้องทำ ก็ต้องรีบทำตอนนี้

"วีระ"ด่ากราด!ตระบัดสัตย์

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์เฟซบุ๊ก Veera Somkwamkid ระบุว่า ด่วน! ทหารพม่าตระบัดสัตย์ ทำรัฐประหาร ยึดอำนาจอีกแล้ว จับตัวอองซาน ซูจี และคณะรัฐมนตรี

"WeVo"ค้านการปฏิวัตินัดแสดงจุดยืนหน้าสถานทูตวันนี้

กลุ่มมวลชนอาสา หรือ We Volunteer โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า "จากสถานการณ์ที่มีทหารของประเทศเมียนมาได้กระทำการอุกอาจก่อการรัฐประหารขึ้นในประเทศเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ และมีการจับกุมผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรี และนักการเมืองหลายคน"
          
"เรา (WeVo) ในฐานะพลเมืองชาติสมาชิกอาเซียน จะขอประณามและประกาศไม่รับรองการรัฐประหาร และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร พร้อมระบุว่าพบกัน 15.30 น. หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา"

"เยาวชนปลดแอก"เรียกร้องเมียนมาร์ยุติการกลับไปสู่ระบอบเผด็จการ

เพจเฟซบุ๊ก "เยาวชนปลดแอก" โพสต์ข้อความว่า "ด่วน! กองทัพเมียนมาทำรัฐประหารแล้ว! ..........ในภูมิภาคอันอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรนี้ ผู้คนกลับต้องอดอยากแร้นแค้น และไร้ซึ่งปากเสียงในการกำหนดอนาคตของตนเอง เราขอเรียกร้องให้การกระทำรัฐประหารที่จะนำพาเมียนมาร์กลับไปสู่ระบอบเผด็จการนั้นสิ้นสุดโดยเร็ว และขอประชาธิปไตยจงบังเกิดแก่ภูมิภาคนี้!

..............

หมายเหตุภาพเก่า