เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นิวซีแลนด์ประกาศระงับการติดต่อสื่อสารทางทหารและทางการเมืองระดับสูงกับเมียนมาร์  นับเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนานาชาติในการโดดเดี่ยวผู้ปกครองทหารเมียนมาร์ หลังจากกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนนำโดยนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(เอ็นแอลดี)

"หลังเหตุการณ์รัฐประหาร นิวซีแลนด์จะระงับการติดต่อสื่อสารทางการเมืองและการทหารในระดับสูงกับเมียนมา” นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศท่าทีตอบโต้อย่างแข็งกร้าวนี้กับผู้สื่อข่าว พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ “ประณามสิ่งที่เรากำลังเห็นเกิดขึ้นในเมียนมา” และว่า “หลังจากการทำงานอย่างหนักมาเป็นเวลาหลายปีในการสร้างประชาธิปไตยในเมียนมา ฉันคิดว่าชาวนิวซีแลนด์ทุกคนรู้สึกผิดหวังที่เห็นกับสิ่งที่เราได้เห็นเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้โดยกองทัพ" 
          
ด้านกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์มีแถลงการณ์แยกอีกฉบับหนึ่ง ไม่ยอมรับและไม่รับรองรัฐบาลทหารเมียนมาร์ของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย พร้อมทั้งเรียกร้องกองทัพเมียนมาปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร หนึ่งในนั้นคือนางออง ซาน ซูจี และคืนอำนาจให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด ถือเป็นประเทศแรกในโลก ที่มีมาตรการดังกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการ

เจ้าสัวสิงคโปร์ถอนทุนบริษัทบุหรี่กองทัพเมียนมาร์
 
Lim Kaling นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริษัทเกม Razer ออกแถลงการณ์ว่าจะถอนการลงทุนในบริษัทผลิตบุหรี่ Virginia Tobacco Company ที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมา เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา
          
Lim Kaling ลงทุนในธุรกิจร่วมค้า Virginia Tobacco Company ผ่านบริษัท RMH Singapore ซึ่งมีหุ้น 49% ในบริษัท Virginia Tobacco Company ส่วนอีก 51% ที่เหลือเป็นของบริษัท Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ของเครือธุรกิจของกองทัพเมียนมา
          
ก่อนหน้าที่เจ้าสัวรายนี้จะออกแถลงการณ์ กลุ่มนักเคลื่อนไหว Justice for Myanmar ได้รวบรวมรายชื่อเพื่อเรียกร้องให้เขาก้าวลงจากตำแหน่งบอร์ดบริหารหากไม่ยอมตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจกับกองทัพเมียนมา
          
ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ (UN) MEHL มีบรรดานายทหารระดับสูงของเมียนมาร์เป็นเจ้าของ รวมทั้งมินอ่องหล่าย ผู้นำรัฐประหาร โดยดำเนินธุรกิจหลายประเภท อาทิ เหมืองทับทิมและหยก ไปจนถึงธุรกิจท่องเที่ยว และธนาคาร

ทั้งนี้ บริษัทเครื่องดื่ม คิริน ของญี่ปุ่น เป็นธุรกิจเจ้าแรกที่ยกเลิกการลงทุนร่วมกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกองทัพหลังมีการรัฐประหาร

พรรคชาวยะไข่เสียงแตกหลังสมาชิกไปร่วมกับทหาร

ขณะที่ทหารกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆได้ยืนเคียงข้างประชาชนแล้ว พร้อมกันนี้สำนักข่าว Mizzima ของเมียนมา เสนอข่าว ANP member accepts military council post, some party members resign ระบุว่า พรรค ANP (Arakan National Party) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์อาระกัน หรือยะไข่ เกิดปัญหาสมาชิกเสียงแตกเนื่องจากสมาชิกพรรคบางคนตัดสินใจเข้าร่วมสภานิติบัญญัตืแห่งชาติ (สนช.) ที่ทางคณะทหารผู้ยึดอำนาจแต่งตั้งขึ้น ทำให้สมาชิกพรรคส่วนหนึ่งตัดสินใจลาออกจากพรรค ท่ามกลางเสียงเรียกร้องขององค์กรภาคประชาสังคมของชาวยะไข่ 40 กลุ่ม ที่คัดค้านไม่ให้พรรค ANP เข้าร่วมกับคณะรัฐประหาร