วันอังคาร ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 21:57 น.

ต่างประเทศ

จีนส่งซิกร่วมหาทาง แก้วิกฤติในเมียนมา

วันศุกร์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564, 09.28 น.

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2564 นายจาง จุน ทูตจีนประจำสหประชาชาติได้เรียกร้องเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ให้ลดระดับความรุนแรงของวิกฤติในเมียนมา เพื่อหันหน้ามาเจรจา จีนพร้อมที่จะมีส่วนร่วมและสื่อสารกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ด้าน รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมาในระหว่างการหารือเรื่องสถานการณ์ในภูมิภาคกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ พร้อมชื่นชมบทบาทของไทยในการหารือกับเมียนมาเพื่อพยายามช่วยหาทางออก พร้อมกันนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นพ้องถึงการแก้ไขวิกฤติด้วยการเจรจา 

ขณะเดียวกัน ดิ อิระวดี สื่อท้องถิ่นของเมียนมาได้รายงานเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่ามีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 คนจากกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาในกรุงเนปิดอว์ ถูกควบคุมตัวเนื่องจากมีการรั่วไหลของเอกสารเกี่ยวกับการประชุมฉุกเฉินกับผู้แทนรัฐบาลจีน
          
เจ้าหน้าที่เผยว่า นายอู ชาน เอ เจ้าหน้าที่ชายระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการถูกนำตัวออกจากอาคารโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 6 คนในเช้าวันที่ 9 มี.ค. ขณะที่นายอู โซ ตู ละ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอีกคนถูกควบคุมตัวในตอนเย็นวันเดียวกัน เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าบันทึกรายงานการประชุมกับผู้แทนของจีน นอกจากนี้ครอบครัวของทั้ง 2 ยังยืนยันว่า ทั้ง 2 อยู่ในระหว่างการสอบปากคำและได้รับการปฏิบัติอย่างดี
          
เอกสารที่รั่วไหลแพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเผยว่าคณะผู้แทนของจีนจัดการประชุมฉุกเฉินกับหน่วยงานที่ดูแลกิจการภายในและเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศช่วงปลายเดือน ก.พ. ขอให้รัฐบาลทหารเพิ่มความปลอดภัยให้กับโครงการท่อขนส่ง เนื่องจากเกรงกระแสต่อต้านจีนที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ยังขอให้กดดันสื่อให้ช่วยลดความกังขาที่มีต่อจีน ด้านผู้ประท้วงขู่ว่าจะระเบิดท่อส่งน้ำมันและก๊าซ และต่อต้านโครงการของจีนทั่วประเทศ หากจีนยังขวางการดำเนินการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่อรัฐบาลเมียนมา

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์  10 กลุ่มได้จับมือกันเพื่อที่จะต่อต้านเผด็จการทหารเมียนมา ที่ส่งกองกำลังเข้าปราบปราบกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ตั้งแต่ก่อนจะมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.จนส่งผลให้กกต.ระงับจะจัดการลงคะแนนในบางเขต ประกอบกับอยู่ในช่วงระบาดโควิดจึงทำให้สื่อต่างประเทศให้ไม่สนใจที่จะเข้าไปรายงานข่าวมากนัก โดยมีแต่สื่อท้องถิ่นเท่านั้นที่รายงาน