วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 00:13 น.

ต่างประเทศ

เผด็จการทหารเมียนมาขอโทษCNN จับกุม 8 คนให้สัมภาษณ์ทีมข่าว

วันจันทร์ ที่ 05 เมษายน พ.ศ. 2564, 13.42 น.

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 สำนักข่าว CNN  รายงานว่า มีประชาชนเมียนมาที่ทีมข่าว CNN ได้สัมภาษณ์พูดคุยด้วยในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ ตลาด Mingaladon ในนครย่างกุ้ง ถูกเจ้าหน้าที่ทางการเมียนมาจับกุมนำตัวไปสอบสวน โดยพลตรีซอ มิน ตุน โฆษกกองทัพเมียนมา ยืนยันกับ CNN ว่า มีประชาชนถูกควบคุมตัวไปสอบสวนทั้งหมด 8 คน “กองทัพต้องขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่จับกุมตัว ปล่อยตัวทั้ง 8 คน ให้เป็นอิสระเมื่อวันอาทิตย์” โฆษกกองทัพเมียนมา กล่าว

CNN รายงานว่า ได้มีการสอบถามผู้ใกล้ชิดผู้ที่ถูกจับกุม ได้ความว่ายังมีประชาชนที่ถูกจับกุมตัว 5 คน ถูกสอบสวนที่ศูนย์ซักถาม Shwe Pyi Thar ในวันอาทิตย์

CNN รายงานว่า 2 ใน 8 คน ที่ถูกจับกุมตัวด้วยเหตุที่ให้สัมภาษณ์ CNN เป็นหญิงสาว ที่ชูสามนิ้วระหว่างให้สัมภาษณ์ ที่ตลาดเช้าเมื่อวันศุกร์ ทั้งสองคนถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ระบุสังกัดเข้าจับกุมภายหลังทีมข่าว CNN เดินทางออกจากตลาดเช้าได้ไม่กี่นาที
ทีมข่าว CNN นำทีมโดย Calissa Ward เดินทางเข้าไปทำข่าวในเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตามคำเชิญของกองทัพเมียนมา และตลอดเวลาที่อยู่ในเมียนมา มีทหารตามประกบตลอดเวลา

CNN แถลงว่า ตระหนักและรับทราบข่าวการจับกุมประชาชนที่ให้สัมภาษณ์ CNN พร้อมระบุว่า ได้ขอให้กองทัพเมียนมาเปิดเผยรายละเอียดการจับกุม และปล่อยตัวประชาชนทั้ง 8 คน โดยเร็ว

การเดินทางเข้าไปทำข่าวสถานการณ์ในเมียนมา ถูกประชาชนเมียนมาจับตามองอย่างใกล้ชิด เกือบทุกสถานที่ที่ทีมข่าวเดินทางไปทำข่าวหรือสังเกตการณ์จะมีชาวเมียนมาตีกระทะ เคาะหม้อ พร้อมชูป้ายประท้วงรัฐบาลทหารเมียนมา

(ที่มา-www.thaipbs.or.th/MyanmarPolitics)

"กะเหรี่ยง"2หมื่นคนยึดแนว"สาละวิน"หนีภัยสงครามเมียนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่างกำลังทหารพม่า กับ กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู (KNU) ด้านติดต่อกับแนวชายแดนไทยบริเวณบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ช่วงเช้าวันนี้ (5 เมษายน 2564) พ.ต.ธเนศ กันทา ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 3606 ฐานปฏิบัติการแม่สามแลบ หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือ ให้อนุญาตให้ราษฎรบ้านแม่สามแลบ สามารถนำสิ่งของที่รับบริจาคจากประชาชนทั่วไป องค์กรเอกชนต่างๆ ไปให้การช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำสาละวิน บริเวณพื้นที่ตรงข้าม บ้านแม่สะเกิบ , บ้านท่าตาฝั่ง , บ้านอุมดา , บ้านสบแงะ , บ้านออเลาะ , บ้านเวยจี , บ้านแก่งก๊อ และ นอป่าหน่า ซึ่งมีผู้ลี้ภัยรอรับการช่วยเหลือประมาณ เกือบ 20,000 ราย

สำหรับผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงดังกล่าว ถูกทหารพม่า นำเครื่องบิน มาโจมตีฐานที่มั่นของทหารกะเหรี่ยงในพื้นที่ของกองพลน้อยที่ 5 ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย ไปจนถึง บ้านสบแงะ ทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไปจำนวนมาก จนทำให้พากันหลบหนีเข้าสู่ไทย แต่ก็ถูกผลักดันกลับไปในเขตพม่า ต่างพากันอาศัยอยู่ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามหมู่บ้านคนไทย และไม่กล้าเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านของตัวเอง เนื่องจากเกรงจะถูกโจมตีซ้ำจากทหารพม่า ส่งผลให้คนเหล่านั้นที่เดินทางหลบหนีภัยสงคราม กำลังตกอยู่ในภาวะลำบาก และขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค อย่างหนัก โดยในส่วนของผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง มีเด็กรวมอยู่ด้วยจำนวนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ 
          
ขณะที่ปัจจุบันยังคงมีการสู้รบกันอย่างหนักระหว่างทหารพม่ากับทหารกะเหรี่ยง KNU บริเวณหมู่บ้านด้านทิศตะวันออกของ จ.ผาปูน โดยเฉพาะเส้นทางที่จะมุ่งหน้าสู่เขตยึดครองของทหารกะเหรี่ยง กองพลน้อยที่ 5 ซึ่งอยู่ตรงข้ามพื้นที่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย และ พื้นที่ตรงข้ามบ้านสบแงะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

ทางการไทยอนุญาตให้ลำเลียงของบริจาคส่งผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงที่ฝั่งเมียนมา
 
ขณะที่เพจบีบีซีไทย - BBC Thai ได้รายงานว่า ชาวบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ชายแดนไทย-เมียนมา ตรงข้ามกับพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยง ลำเลียงสิ่งของความช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับบริจาคจากประชาชนลงเรือหางยาวที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบ เพื่อนำไปส่งให้กับชาวกะเหรี่ยงที่ศูนย์อพยพค่ายอิตูท่าในช่วงสายวันนี้ (5 เม.ย.) ภายหลังทหารพรานในพื้นที่อนุญาตให้นำสิ่งของไปบริจาคได้แล้ว
 
เครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับการบริจาคถูกนำมารวบรวมที่บ้านแม่สามแลบตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ลำเลียงส่งไปยังพื้นที่ของผู้หนีภัยสู้รบชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ตามพื้นที่ป่าริมแม่น้ำสาละวิน

แม่ทัพภาค 3 เผย นำเสบียงของผู้บริจาค ส่งผู้ลี้ภัยพม่าเรียบร้อย 

ทั้งนี้พลโทอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยถึงการบริจาคสิ่งของให้ชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมาว่า สำหรับสถานการณ์ชายแดน ไทย-เมียนมา ขณะนี้มีปัญหาผู้ลี้ภัยข้ามจากฝั่งเมียนมา ข้ามมาฝั่งไทย โดยเข้ามาในช่วงแรก ที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจำนวนมากกว่า 2-3 พันคน
โดยกลุ่มผู้ลี้ภัย เมื่อเห็นว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง ก็จะเดินข้ามกลับไปฝั่งโน้นบ้าง และพอตกเวลากลางคืน เมื่อไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัยก็จะเดินทางกลับข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้มีเหตุการณ์ผู้อพยพลี้ภัยข้ามกลับไปกลับมา โดยช่วงนี้มีผู้ที่อยู่ยังฝั่งไทยประมาณ 100 กว่าคน แต่ในช่วงกลางคืนจะกลับมาอยู่ประมาณ 1,000 กว่าคน ยอดต่ำสุดประมาณ 100 กว่าคนแต่กลางคืนก็จะกลับมาพันกว่าคน

ส่วนเรื่องของบริจาคมีผู้มาช่วยเหลือ แต่เนื่องจากมีความไม่ปลอดภัยตามแนวชายแดน ต้องมีการเดินทางจากแม่สามแลบโดยทางเรือ เป็นที่ทราบดีว่ามีการขัดแย้งระหว่างทหารเมียนมาร์กับกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ทางทหารไทยจึงไม่ปล่อยให้เรือวิ่งได้อย่างเสรี ช่วงแรกเราจะดูว่าเขาดำรงชีพไปได้ไหม 2-3 วัน ประกอบกับมีคนขอบริจาคสิ่งของช่วยเหลือด้วย
          
วันนี้เราเริ่มทยอย นำสิ่งของไปบริจาคให้กับผู้ลี้ภัย แต่ไม่ได้อนุญาตให้ผู้บริจาคไปเอง ทางทหารขนไปส่งยังฝั่งเมียนมาโดยมีเรือทหารพราน 36 คุ้มกันเรือ เพื่อความปลอดภัย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ที่ไม่อนุญาตให้ผู้บริจาคไปเอง เนื่องจากกลัวติดโรคระบาด แต่สำหรับผู้ลี้ภัยที่ข้ามมา ก็จะอาศัยอยู่โซนเดิมๆ ถ้าเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ก็สามารถควบคุมได้

ล่าสุดเมื่อช่วง 10.00 น. ที่ผ่านมา ทหารได้ขนสิ่งของบริจาคไปให้ผู้ลี้ภัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว และทราบว่าในขณะนี้ยังมีผู้มี จิตศรัทธา เอ็นจีโอ นำข้าวสารอาหารแห้งเข้ามาให้อีก ที่อำเภอสบเมย อำเภอแม่สะเรียง ก่อนขนมาที่อ.แม่สามแลบ โดยหลักๆ จะเอาสิ่งของไปส่งให้กับผู้ลี้ภัยความไม่สงบตามแนวชายแดน ทหารก็จะจัดนำส่งให้ตามความประสงค์ของผู้บริจาคมา