วันพุธ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 19:28 น.

ต่างประเทศ

ทหารไทใหญ่ "RCSS-SSPP"ประกาศหยุดยิงกันเองแล้ว

วันอังคาร ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 19.01 น.

วันที่ 11 พฤษภาคม 2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่ประกาศหยุดยิงของกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ RCSS/SSA ภายใต้การนำของเจ้ายอดศึกที่มีฐานกำลังตั้งมั่นอยู่ทางรัฐฉานใต้  กับ SSPP/SSA กองกำลังไทใหญ่ทางภาคเหนือของรัฐฉาน  หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้เปิดศึกกันมานับเดือน เนื่องจากมีกระแสกดดันจากชายไทใหญ่ให้ทั้งสองฝ่ายหยุดฆ่ากันเอง 

ชายแดนไทยเมียนมาแม่ฮ่องสอนปกติคนไทยเดินทางกลับบ้านหมดแล้ว

นายสิธิชัยจินดาหลวงผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมาด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนเปิดเผยสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมาจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่าจากการที่เมียนมาได้ประกาศหยุดยิงทั่วประเทศในห้วงที่ผ่านมาส่งผลให้สถานการณ์ในปัจจุบันไม่มีการสู้รบในฝั่งเมียนมาและการปฏิบัติการทางอากาศในพื้นที่ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาเป็นระยะเวลากว่า10 วันโดยเมื่อวันที่ 28 เม.ย.64เวลา15.00น.เป็นต้นมามีราษฎรชาวเมียนมาเดินทางข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยทางเรือซึ่งทางทหารได้จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบริเวณห้วยอีนวลตำบลแม่ยวมอำเภอแม่สะเรียงและพื้นที่ใกล้เคียง
          
จากสถานการณ์ปัจจุบันคณะทำงานของจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ชี้แจงให้ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา(ผภ.สม.)ทราบถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์จึงทำให้ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา(ผก.สม.)ส่วนใหญ่เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยและได้เดินทางกลับไปยังฝั่งเมียนมาเพื่อเตรียมการเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไปดังนั้นราษฎรชาวเมียนมาที่เดินทางข้ามมายังประเทศไทยจากเหตุความไม่สงบในเมียนมาที่ยังคงพักในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว2แห่งคงเหลือ38คนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบริเวณห้วยอีนวลแม่ยวมอำเภอแม่สะเรียงจำนวน17คนพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบริเวณห้วยโกเฮตำบลแม่ยวมอำเภอแม่สะเรียงจำนวน21คนส่วนราษฎรไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในประเทศเมียนมาซึ่งเข้าพักในพื้นที่รวบรวมพลเรือนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาทั้งหมดแล้วเนื่องจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ

รองโฆษกตร.แจง รอขั้นตอนศาลจบแล้วถึงผลักดัน 5 เมียนมาออกนอกราชอาณาจักร

ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงกรณีที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย(FCCT) ออกแถลงการณ์เรียกร้องเกี่ยวกับการจับกุมชาวเมียนมาที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมว่า เวลาประมาณ 14.30 น. วันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่กรณีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ ว่ามีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งมีลักษณะคล้ายบุคคลต่างด้าวเข้ามาอาศัยภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงเข้าไปตรวจสอบบ้านหลังที่ได้รับการร้องเรียน พบผู้อยู่อาศัยเป็นชาวเมียนมาจำนวน 5 คน จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 5 คน มีหนังสือเดินทาง แต่ไม่มีการประทับตรวจลงตราจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จากการสอบปากคำเบื้องต้น รับสารภาพว่าได้หลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติจริง ไม่ได้ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่ถูกต้องแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา จัดให้มีการตรวจโรค โควิด-19 ตามขั้นตอนที่ทางสาธารณสุขกำหนดไว้ และดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ”
          
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปฟ้องต่อศาลแขวงเชียงใหม่แล้วเมื่อช่วงเช้าของวัน้ดีนวกันนี้ แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นศาล พนักงานสอบสวนจึงต้องรับตัวผู้ต้องหากลับมาเพื่อทำการผัดฟ้องต่อศาล และจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วันตามขั้นตอนของการสอบสวน

สำหรับประเด็นการดำเนินคดีและการผลักดันผู้ต้องหาออกนอกราชอาณาจักรที่มีการเรียกร้องโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องนับตั้งแต่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาและการนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงเชียงใหม่ สำหรับการผลักดันผู้ต้องหาออกนอกราชอาณาจักรนั้น โดยปกติจะดำเนินการภายหลังจากเมื่อกระบวนการพิจารณาของศาลเสร็จสิ้นโดยเป็นขั้นตอนการดำเนินการตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องพิจารณาและประเมินจากหลายๆ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาผลักดันออกนอกราชอาณาจักรตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาในประเด็นเรื่องการผลักดันออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด

ขอบคุณภาพจาก https://english.shannews.org/archives/18808