วันพุธ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 05:39 น.

ไอที

"พุทธิพงษ์"แจงบทบาทสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

วันพฤหัสบดี ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 14.40 น.

กระทรวงดิจิทัลฯชูบทบาทของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในการรองรับข้อกำหนดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยจัดเวทีเสวนาเพื่อเตรียมความพร้อมให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล“PDPA –Privacy for All” ภายใต้แนวคิด “คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดูแลทุกภาคส่วนก้าวสู่เศรษฐกิจและสังคมที่มั่นคง ทันสมัย ทั่วถึงและเท่าทัน” เชิญกลุ่มเป้าหมาย 1,000 คน จากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการดูแลข้อมูลของหน่วยงาน ผู้แทนกลุ่ม/สมาคม/มูลนิธิ และสื่อมวลชน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น


วันที่ 10 ตุลาคม 2562  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงฯ ได้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ในวาระเริ่มแรก) ตามข้อกำหนดที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562  ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562  และจะมีผลบังคับใช้ อย่างเต็มรูปแบบด้วย ตามหลักการเหตุผลและความจำเป็นของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพและเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก การถูกละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล มีการกําหนดหลักเกณฑ์กลไก หรือมาตรการกํากับดูแลเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่เป็นหลักการทั่วไป ได้กำหนดให้บทบัญญัติในหมวด 1 คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหมวด 4 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงบทเฉพาะกาลที่บัญญัติเกี่ยวกับการจัดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในวาระเริ่มแรก มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เพื่อให้มีระยะเวลาการเตรียมความพร้อมในด้านการคุ้มครองข้อมูลของประเทศในภาพรวม ก่อนที่บทบัญญัติในหมวดอื่นจะมีผลบังคับใช้หลังจากวันที่ประกาศ 1 ปี

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ในวาระเริ่มแรก) ตั้งอยู่ที่ชั้น 7 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ โดยมีนางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ทำหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  โดยในวันนี้ 10 ตุลาคม 2562 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้จัดให้มีการสัมมนาแนะนำกฎหมายและสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล “PDPA –Privacy for All” ภายใต้แนวคิด “คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดูแลทุกภาคส่วน ก้าวสู่เศรษฐกิจและสังคมที่มั่นคง ทันสมัย ทั่วถึงและเท่าทัน” ณ โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ  เพื่อเป็นการแนะนำกฎหมายและแผนการดำเนินงานของสำนักงานฯ แห่งนี้ ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ให้กับทุกภาคส่วนถึงบทบาทและหน้าที่ของสำนักงานฯ และที่สำคัญเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสำหรับหลากหลายภาคส่วนในการยกระดับองค์กร ให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาข้อมูลในด้านต่างๆ ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการดูแลข้อมูลของหน่วยงาน และผู้แทนกลุ่ม/สมาคม/มูลนิธิ ตลอดจนสื่อมวลชน จำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 คน เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นายพุทธิพงษ์ฯ กล่าวถึง ปัจจุบันมีการล่วงละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก จนสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหายให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้การเก็บรวบรวม การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อันเป็นการล่วงละเมิดดังกล่าว สามารถกระทำได้โดยง่าย สะดวก และรวดเร็ว รวมทั้งก่อให้เกิด ความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวม ตัวอย่าง การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยที่เกิดขึ้นบ่อย และพึงระวังไว้ จะเป็นเรื่องการขาย โอนข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่เจ้าของข้อมูลเองไม่ได้ให้ความยินยอม และเรื่องข้อมูลรั่วจากบริษัทป้องกันที่ไม่ดีพอ เช่น ไฟล์บัตรประชาชน ใบขับขี่ ถูกแฮ็ก หรือถูกเรียกค่าไถ่ ตลอดจนข้อมูลรั่วจากการโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการเดินทางลงบนสื่อโซเชียล เป็นต้น
นายพุทธิพงษ์ฯ ย้ำด้วยว่า สิ่งที่คนไทยจะได้รับจากกฎหมายฉบับนี้ก็จะตอบโจทย์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ขณะเดียวกันก็ช่วยปลดล็อกให้ธุรกิจและหน่วยงานรัฐสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ภายใต้มาตรฐานสากล คือ

1. ป้องกันการล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลอันจะเกิดจากการล่วงละเมิด สร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือสร้างความเสียหายใดๆ ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้การเก็บรวบรวมข้อมูล การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งกระทำได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็วในการก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวบุคคล ตลอดจนต่อเศรษฐกิจโดยรวม

2. ช่วยแก้ปัญหาการไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเท่าที่ควรเพราะติดกับข้อติดขัดที่ไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ที่ผ่านมามีอุปสรรคอย่างมากในการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นการสร้างกลไกและมาตรฐานการกำกับดูแลในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

“ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในการสัมมนาครั้งนี้ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับ ไปใช้เพื่อยกระดับองค์กร และเพื่อเป็นการปรับตัวในการเตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และรับทราบถึงบทบาทหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระยะเริ่มแรก นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสามารถรวบรวมข้อคิดเห็นและข้อห่วงกังวลของหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมไปเป็นข้อมูลสำหรับจัดทำคู่มือและแนวทางปฏิบัติในแต่ละด้านอีกด้วย” นายพุทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

หน้าแรก » ไอที

ข่าวในหมวดไอที