ไอที
GISTDA ชูเครื่องมือไลดาร์จับมือพันธมิตรพาสื่อมวลชนลงพื้นที่สาธิตประเมินคาร์บอนเครดิตป่ากาญจนบุรี
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

GISTDA ชูเครื่องมือไลดาร์จับมือพันธมิตรพาสื่อมวลชนลงพื้นที่สาธิตประเมินคาร์บอนเครดิตป่ากาญจนบุรี
5-6 มิถุนายน 68 GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศช่วยสนับสนุนภาคสังคม ได้ผุดแคมเปญการใช้เทคโนโลยีไลดาร์ Lidar มาสนับสนุนภารกิจด้านป่าไม้เพื่อการสำรวจคาร์บอน ภายใต้ธีม Beyond The Journey Carbon , Community , Mapping The Future โดยนำสื่อมวลชนทุกแขนงลงพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ดูวิธีการใช้งานเทคโนโลยีไลดาร์ต่อยอดการสำรวจคาร์บอนจากป่าไม้เพื่อเป็นกลไกที่สนับสนุนให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยโดยความสมัครใจ และสามารถนำปริมาณการลดการปล่อยและ/หรือดูดกลับก๊าซเรือนกระจก หรือคาร์บอนเครดิตมาใช้ในภาคสมัครใจได้
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้นอกจากสื่อมวลชนแล้ว GISTDA ยังจับมือพันธมิตร อย่าง องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ,การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ,บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่และเตรียมต่อยอดการใช้งานตามภารกิจของหน่วยงานต่อ
ทุกวันนี้ ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและตระหนักถึงผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change ที่เกิดจากการสะสมของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ จนเกิดภาวะโลกร้อน สภาพภูมิอากาศเกิดความแปรปรวน และเกิดภัยพิบัติที่มีรุนแรงมากขึ้นทุกทีจนปัญหาเหล่านี้กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกภาคส่วนต่างให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างเช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ที่นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ ติดตาม และเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ไฟป่า หมอกควัน รวมถึงติดตามการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น พื้นที่ป่าไม้ ป่าชายเลน หรือในพื้นที่การเกษตร และต่อยอดบูรณาการข้อมูล จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาเป็น “ระบบติดตามการปลดปล่อยและดูดกลับของก๊าซเรือนกระจก” ในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน หรือที่เรียกว่า แพลตฟอร์ม “Carbon Atlas”
“Carbon Atlas” เป็นนวัตกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณคาร์บอน ที่มีการผสมผสานกันของการใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายทางดาวเทียมและระบบภูมิสารสนเทศ รวมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว ตรวจสอบได้ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2568
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา GISTDA ได้มีการดำเนินโครงการการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต ติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สีเขียว และพัฒนาฐานข้อมูลการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์ม Carbon Atlas เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลการกักเก็บคาร์บอนของประเทศไทย และนำไปสู่การจัดทำรายงานแห่งชาติ (National Communication : NC) และรายงานความก้าวหน้ารายสองปี (Biennial Update Report : BUR) สำหรับการดำเนินงานด้านการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608
ข้อมูลและระบบที่เกิดจากโครงการดังกล่าว นอกจากจะใช้ประโยชน์ในเรื่องของการบริหารจัดการคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังสนับสนุนการบริหารจัดการป่าไม้ ไฟป่า และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาชีวมวลในพื้นที่ป่าไม้และเกษตรกรรม ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทของประเทศ
นอกจากนี้ GISTDA ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ เช่น กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ซึ่งได้ประยุกต์ใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มพื้นที่ปลูกป่า ป้องกันไฟป่า และเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอน รวมถึงมีความร่วมมือในการพัฒนาแบบจำลองการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ร่วมกันในอนาคต ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้เป็นแนวทางและวิธีการที่เหมาะสมสำหรับป่าชุมชนเพื่อสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิตตาม Standard T-VER และ Premium T-VER
จากปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความซับซ้อน ดังนั้นการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ อุปกรณ์เครื่องมือที่ล้ำสมัยในการจัดเก็บข้อมูลภาคสนาม เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
และเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยงองค์ความรู้ ประสบการณ์ ความท้าทายต่าง ๆ รวมถึงนำเสนอผลงานที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานในทุกภาคส่วน ในการพัฒนานวัตกรรมติดตาม ตรวจสอบ และรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณคาร์บอน ที่แม่นยำ ครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งปัจจุบัน GISTDA กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการสำรวจคาร์บอนเครดิตในรูปแบบของการวัดและสำรวจคาร์บอนโดยการใช้คน หรือ MRV ไปสู่
การสำรวจในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า DMRV (Digital Monitoring, Reporting, Verification) ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยในการเก็บข้อมูลภาคสนาม เช่น เครื่อง 3D Scanner, LiBackpack และโดรน LiDAR ทำให้สามารถตรวจสอบ ติดตามปริมาณคาร์บอนในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้อย่างรวดเร็วและเป็นมาตรฐานสากลต่อไป ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้สื่อมวลชนได้เห็นรูปแบบการทำงานของเครื่องมือไลดาร์อย่างเต็มรูปแบบและเห็นถึงศักยภาพต่อการนำไปใช้งานในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านธุรกิจต่อไป
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ไอที
ข่าวในหมวดไอที ![]()
AIS เดินหน้าปลุกพลังผู้ประกอบการไทย ทรานส์ฟอร์มสู่ “AIS Infinite SMEs” 17:47 น.
- BDI เปิดหลักสูตร LEAD รุ่นที่ 2 เข้มข้นขึ้น! เดินหน้าขับเคลื่อนผู้นำยุคใหม่ ด้วย Big Data และ AI จากทฤษฎี-สู่การลงมือทำ มุ่งพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน 14:50 น.
- depa เปิดรับสมัครหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ รุ่นที่ 5 (SCL#5) สานต่อพัฒนาผู้บริหารภาครัฐ-เอกชน ต่อยอดสร้างเมืองอัจฉริยะ 12:06 น.
- เอปสัน จัดงาน “Epson Robot Experience Day 2025” เสริมศักยภาพบุคลากรอุตสาหกรรมไทย 05:08 น.
- ดีเดย์ “วันสิ่งแวดล้อมโลก” AIS ร่วมกับสมาชิกของกลุ่ม Singtel เปิดแคมเปญภูมิภาค “สัญญาณยืดเวลาโลก” 19:27 น.