เมื่อเวลา 10.45 น.ของวันที่ 27 มี.ค.2562 ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ได้ร่ืวมแถลงประกาศจับมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย 7 พรรค เพื่อจัดตั้งรัฐบาลด้วยฐานเสียง 255 ที่นั่ง อันประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค 

พรรคอนาคตใหม่ นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ด้านพรรคประชาชาติ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ  พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ส่วนพรรคเพื่อชาติ นำโดย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค และนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคปวงชนชาวไทย
          
ขณะที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มี 6 เสียงนั้น ไม่ได้เดินทางมาในครั้งนี้ โดยระบุว่าติดธุระ แต่ในช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมเป็นคนรักษาคำพูดและจุดยืนทางการเมือง”

 คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงการรวมตัวของพรรคการเมืองที่มีจุดยืนยับยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.มาตั้งแต่ต้น และวันนี้ยืนยันว่าจะทำตามสัญญาประชาคมและเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกเข้ามา แม้ตัวเลขจะยังไม่นิ่งแต่ค่อนข้างแน่นอนว่าได้ทีนั่งสส.มากกว่า 250 ที่นั่ง ซึ่งเชื่อมั่นว่าประชาชนต้องการให้ทำตามสัญญาเรื่องหยุดยั้ง คสช. และตั้งรัฐบาลขึ้นมาให้ได้ อยากเห็นพรรคการเมืองอื่นๆ เข้ามาร่วม ซึ่งยังมีพรรคการเมืองที่พูดอย่างเดียวกันอยู่
          
"แม้การเลือกตั้งนี้จะยากตั้งแต่ก่อนลงสมัคร เพราะเขียนกติกาที่มุ่งเน้นสืบทอดอำนาจ คสช. ทั้งการนับคะแนนคนแพ้ การใช้สว. 250 คน ขณะมีการเลือกตั้งก็มีการใช้อำนาจรัฐมากมาย มีการซื้อเสียง จนถึงวันนับคะแนนก็ยังมีความผิดปกติ หลังจากกนี้อาจมีปฏิบัติการลดทอนคะแนน เช่น แจกใบเหลืองใบแดง แต่พวกเราทุกพรรคได้เก็บคะแนนดิบไว้แล้วเพื่อป้องกันการบิดเบือน"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว พร้อมอ้างว่า ตอนนี้มี 7 พรรค ไม่ต่ำกว่า 255 เสียง
          
ด้านนายธนาธร  กล่าวว่า ตนกับหัวหน้าพรรคอื่นๆ ที่อยู่บนเวทีนี้ต้องการยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. และพรรคอนาคตใหม่มีจุดยืน 5 ข้อ 1.ยืนยันว่า ร่วมกับพรรคการเมืองสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจ คสช. 2.เชิญชวนพรรคการเมืองที่สัญญากับประชาชนว่า จะไม่สนับสนุน คสช.ให้มาสร้างรัฐบาลประชาธิปไตย 3.นายกรัฐมนตรีต้องมาจากสส.อันดับ1 สนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ 4.ขอเรียกร้องพรรคเสียงข้างน้อยที่จะตั้งรัฐบาล จากกลไก สว.จะทำให้สังคมวุ่นวาย และไปถึงทางตัน และ5 .เรียกร้อง กกต.ทำหน้าที่อย่างยุติธรรม
          
ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า พรรคเสรีรวมไทยตั้งขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้งของบ้านเมือง ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องยึดความถูกต้องชอบธรรมเป็นหลัก แต่มีความพยายามสืบทอดอำนาจตั้งแต่การยึดอำนาจ ออกกฎหมาย ตั้งพรรคการเมืองให้เสนอชื่อหัวหน้าคณะปฏิวัติมาเป็นนายกฯ วางกลไกเอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองต่างๆ ดังนั้นเมื่อการเลือกตั้งมีผลออกมาแล้ว พรรคเสรีรวมไทยยังยึดมั่นในระบอบผระชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
          
"ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ การที่ท่านตั้งพรรคการเมืองลงสมัครนเลือกตั้งได้รับความไว้วางใจจาก ประชาชน ท่านยึดมั่นในอะไร อยากให้ยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้ อย่าไปหวังประโยชน์ที่พรรคการเมืองที่ต้องการสืบทอดอำนาจยื่นให้ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งต่างๆ เพราะถ้าท่านไปยืนฝั่งสืบทอดอำนาจ ท่านจะมีส่วนทำลายระบอบประชาธิปไตย และจะไม่มีที่ยืนอีกต่อไป"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าว
          
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ กกต. จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยเรียบร้อย อย่าให้คนไทยและชาวโลกเหยียดหยามได้ เพราะ กกต. เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อย่าเอาตำแหน่งหน้าที่มาทิ้ง และในฐานะที่ตนเป็นตำรวจ จะไม่ยอมให้ทำผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ขอให้ กกต. ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่ายึดอำนาจเข้ามาแล้วต้องออกกฎหมายและจัดการเลือกตั้งให้ดี แล้วลาออกไปเสีย เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี
          
ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า วันนี้คนจำนวนมากกำลังสนใจผลการเลือกตั้งของไทย การดำเนินการของ กกต. ประเทศไทย และรัฐบาลไทยชุดต่อไปจะเป็นประชาธิปไตยหรือการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ พรรคประชาชาติอยากเห็นหลังการเลือกตั้งมีรัฐบาลที่เคารพสิทธิของประชาชน และต้องการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างจริงจังและจริงใจ ไม่ควรเป็นรัฐบาลที่เห็นแก่พวกพ้องและพยายามสานต่ออำนาจ ทำให้ประเทศบอบช้ำไปอีก
          
พร้อมเรียกร้องให้ กกต. ทำหน้าที่อย่างไม่ต้องกลัวแรงกดดัน เพราะไม่มีเสียงใดใหญ่กว่าเสียงประชาชน และตั้งคำถามว่าทำไมต้องรอถึง 9 พ.ค. 2562 ทั้งที่กฎหมายบอกว่าสามารถประกาศไปก่อนได้และคะแนนดิบกีถึง 95% แล้ว ประกาศไปก่อนแล้วไปตรวจสอบทีหลังก็ได้ อย่าทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยว่ากำลังดูตัวเลขเพื่อข่วยฝ่ายใดหรือไม่ อย่าให้ประชาชนต้องออกมาเดินขบวนเลย ความกลัวทำให้เสื่อม
          
"ประชาธิปไตยเท่านั้นที่สร้างความชื่อมั่นแก่คนทั้งในและนอกประเทศ เรามีปัญหามากมายรอให้แก้ไข แต่ถ้ารัฐบาลไม่เป็นประธิปไตย ผมคิดว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ รัฐบาลชุดต่อไปควรมีเสียงข้างมากในสภาผุ้แทนราษฎร คือ 251 เสียงขึ้นไป เพราะไม่ว่าใครจะเป็นนายกต้องอาศัยสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ทั้งการอนุมัติงบประมาณ การออกกฎหมาย และการตรวจสอบ สว. เป็นเพียงพี่เลี้ยงเท่านั้น หากใครจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยโดยอาศัยเสียง สว. จะเป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพเศรษฐกิจคงแย่ หุ้นคงตกระนาว ใครจะอยากมาเสี่ยงกับรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ทุกคนควรเห็นแก่ประเทศชาติมากกว่าพวกพ้อง" พรรคประชาชาติ กล่าว
          
ส่วนนายสงคราม กล่าวว่า ที่มาร่วมแถลงวันนี้เพราะพรรคเพื่อชาติสำนึกในประชาธิปไตยและต่อต้านการครอบงำอำนาจ อยากเห็นการตั้งรัฐบาลเป็นไปตามหลักสากล อย่าเล่นกลต่างๆ เพื่อแย่งชิงตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเพราะไม่ถูกต้อง ตอนแรกคนไทยให้อภัย พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยึดอำนาจ เพราะหวังให้ช่วยสร้างความปรองดอง แต่วันนี้มาทำให้ความแตกแยกมากขึ้นหรือไม่ ส่วน กกต. นั้นมาอย่างมีศักดิ์ศรี แต่วันนี้ประชาชนเชื่อหรือไม่ ขอให้คิดดีๆ เพราะจะถูกจดจำเป็นประวัติศาสตร์ไปชั่วลูกชั่วหลาน ที่ผ่านมาประชาชนก็ตั้งข้อสังเกตกับ กกต. อยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องรอประกาศผลในวันสุดท้าย
          
พรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า พรรคอุดมการณ์แต่แรกแล้วว่ายึดมั่นในระบอบผระชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แม้จะมีคะแนนน้อย มี สส. เพียง 1 คน แต่เราตัดสินใจว่าจะอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ประเทศไทยอย่างไรก็ต้องเดินไปสู่ประชาธิปไตย ตนสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคที่ได้เสียงข้างมากในสภาต้องได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมฝากสื่อมวลชนตรวจสอบการนับคะแนนด้วยว่าเหตุใดคะแนนลด
          
ด้านนายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคฝ่ายประชาธิปไตย 7 พรรค รวมเสียง 255 เสียง ยืนยันให้ประเทศเดินไปตามประชาธิปไตย พรรคที่ 7 พรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. คุยกันว่า 6 เสียงของเขา ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ขอยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย เราออกคำแถลง ซึ่งเขาติดภารกิจ
          
ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราถูกต้องชัดเจน กกต.ต้องประกาศ 100 เปอร์เซ็นต์ ทันที มีผลคะแนนดิบอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลต้องปิดเงียบ การเก็บ 5 เปอร์เซ็นต์ไว้ทั้งที่รู้อยู่แล้วเป็นเรื่องที่เราสงสัยและไม่สบายใจ เราไม่ยินยอมให้สืบทอดอำนาจต่อไป คืนประชาธิปไตย
          
จากนั้นนายภูมิธรรม ได้อ่านแถลงการณ์ร่วมกัน ก่อนจะลงนามสัตยาบรรณหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจคสช. ว่า ตามที่มีเลือกตั้ง 24 มี.ค.และได้รับทราบผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พรรคการเมือง ได้รวบรวมเสียงในสภาเกินกว่า 255 เสียง ลงสัตยาบรรณร่วมกันหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช.
          
สำหรับจำนวนเสียงอย่างไม่เป็นทางการของแต่ละพรรคนั้น พรรคเพื่อไทย 137 เสียง พรรคอนาคตใหม่ 87 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง พรรคประชาชาติ 7 เสียง พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง ส่วนพรรคเศรษฐกิจใหม่ มี 6 เสียง ถ้าเป็นไปตามสูตรนี้ และไม่มีพรรคการเมืองใดพลิกขั้ว จะทำให้พรรคเพื่อไทยรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมีเสียงสนับสนุน 253-255 เสียง เกินกึ่งหนึ่ง โดยจะมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ พลิกขั้วไม่มาจับมือด้วย ก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีเพียง 6 พรรค และเสียงอาจจะปริ่มน้ำ หรืออาจจะไม่ถึง 251 เสียง