วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 05:01 น.

การเมือง

เป็นเรื่องแล้ว! "ชัยวุฒิ"ทวงเก้าอี้รมต. 4 กุมาร ยันเป็นโควต้าของพรรค

วันศุกร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 17.04 น.

 เป็นเรื่องแล้ว! "ชัยวุฒิ"ทวงเก้าอี้รมต. 4 กุมาร ยันเป็นโควต้าของพรรค "อนุชา"ยันจากกันด้วยดี

วันที่ 10 ก.ค.2563 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคฯ ของนายอุตตม สาวนายน, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูลว่า ทั้ง 4 ควรคืนตำแหน่งรัฐมนตรีให้แก่พรรค เพราะตอนไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีก็ส่งไปในนามของพรรค โดยส่งชื่อนายอุตตม ในฐานะหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์เป็นเลขาธิการพรรค และนายสุวิทย์เป็นรองหัวหน้าพรรค โดยผ่านที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคส่งชื่อในนามพรรคพลังประชารัฐ ในทางข้อกฎหมายคงไม่เป็นไร แต่ในทางการเมืองขึ้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรีกับผู้ใหญ่ที่จะตัดสินใจต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีโควต้าส่วนตัวเพื่อเลือกคนที่ไว้วางใจมาทำงานถือเป็นเรื่องปกติของทุกรัฐบาล
          
"4 กุมารไม่ใช่โควต้าของท่านนายกฯ เพราะเป็นโควต้าของพรรค เพราะท่านเป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคที่เราส่งไปทำงานในนามพรรค เหมือนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคร่วมรัฐบาล" นายชัยวุฒิ กล่าว
          
ส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่ม 4 กุมารยังไม่หยุดเล่นการเมือง ส่วนการลาออกน่าจะมีสาเหตุว่าจะไปทำงานกับพรรคการเมืองอื่น เพราะจากประสบการณ์ตนเองคนที่ลาออกจากพรรคหนึ่ง มักจะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือไปทำงานกับกลุ่มการเมืองอื่น ซึ่งมีนักการเมืองทำให้เห็นหลายคนแล้ว

นายชัยวุฒิ  กล่าวด้วยว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าโดยปกติการลาออกจากพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งน่าจะมีเหตุปัจจัยที่จะไปทำงานการเมืองอื่นหรือกลุ่มการเมืองอื่น เพราะหากยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอยู่ก็สามารถกลับไปเลี้ยงหลานหรือทำงานส่วนตัวได้ คงไม่ต้องลาออกและไม่ทราบว่าจะไปเสริมทัพเศรษฐกิจของพรรคกล้าหรือไม่ พร้อมปฎิเสธว่าที่กลุ่ม 4 กุมารลาออกเป็นความขัดแย้งในพรรค ยืนยันว่ายังสามารถร่วมงานกันและพูดคุยกันได้ปกติ

"อนุชา"ยัน 4 กุมาร จากพปชร.ด้วยดี

ที่ศูนย์ประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ถนนรัชดาภิเษก นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาทและเลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมใหญ่สามัญพรรคครั้งที่2 ถึงการลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐของนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูลรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะส่งผลต่อโควตารัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
          
ผู้สื่อข่าวถามว่าการลาออกดังกล่าวถือว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เป็นการจากกันด้วยดีไม่มีอะไร เพราะทุกคนได้ร่วมทำงานกับพรรคมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีทางการเมืองไม่มีอะไรขุ่นข้องหมองใจกัน
          
เมื่อถามว่าแต่ท่าทีของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.ยังออกมาขับไล่ให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี นายอนุชา กล่าวว่า สมาชิกพรรคเรามีจำนวนมาก อาจมีบางคนที่ทำบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่สามารถไปกำหนดกฎเกณฑ์ได้ ซึ่งก็เป็นไปด้วยดี แต่อาจจะเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง
          
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการเตรียมส่งประวัติเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือยัง นายอนุชา กล่าวว่ายังไม่มีและยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ที่ผ่านมาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ ไม่เคยพูดเรื่องตำแหน่งในครม.ยืนยันได้และทราบดีอยู่แล้วว่าทำงานให้พรรค ส่วนตำแหน่งในครม.เป็นเรื่องของนายกฯตัดสินใจเพียงคนเดียว
          
เมื่อถามย้ำว่าพร้อมหรือไม่หากมีชื่อในครม.เลขาฯพรรค กล่าวย้ำว่า ตนเป็นคนทำงานไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็จะทำประโยชน์เพื่อประชาชนให้ได้มากที่สุด เมื่อถามว่าพร้อมหรือไม่สำหรับตำแหน่งดังกล่าว นายอนุชา กล่าวว่า “ผมพร้อมตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน”
          
เมื่อถามว่าในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาเรื่องสัดส่วนรัฐมนตรีอย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่เคยมีการคุยกันเรื่องนี้ สมัยก่อนอาจต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณา แต่ในครั้งนี้จะพูดคุยในส่วนของกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเราเป็นพรรคแกนนำที่จะจัดตั้งรัฐบาล
          
เมื่อถามกรณีที่นายกฯระบุว่า รัฐมนตรีทั้ง3คนที่ลาออกเป็นโควตาของนายกฯ ดังนั้นในส่วนของพรรคจะมีโควตาเท่าไหร่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ขอตอบเพราะเป็นคำพูดของนายกฯ ไม่อาจก้าวล่วงได้ แล้วแต่นายกฯ อยู่ที่นายกฯ ตัดสินใจ เพราะพรรคของเราทำงานเพื่อประชาชนในทุกมิติจะไม่ไปกำหนดกฏเกณฑ์อะไร

ตั้งแล้ว 10 รองหัวหน้า"พปชร."

ทั้งนี้เมื่อเวลา16.30น.ที่ประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค เป็นประธานได้แต่งตั้ง 10 รองหัวหน้าพรรค โดยนายบุญสิงห์ วรินทร์ลักษณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคได้ประกาศทั้ง 10 รายชื่อได้แก่นายสันติพร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ควบผู้อำนวยการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคด้านปฏิบัติการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ด้านสนับสนุน นายณัฐฏพลทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ด้านแผนพัฒนาบุคลากร
          
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทับเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ด้านข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ด้านกิจการงานสภา นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง ด้านเครือข่ายสัมพันธ์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้านกฎหมาย และนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ด้านรับเรื่องราวร้องทุกข์
          
ส่วนรองเลขาธิการพรรคได้แก่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี ขณะที่โฆษกพรรคคือ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. รองโฆษกพรรค 3 คนได้แก่นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ และน.ส.ไพลินเทียน สุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ

          

หน้าแรก » การเมือง