วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 10:52 น.

การเมือง

"บิ๊กตู่" ซัดคนหน้าเดิมชักใยปั่นม็อบเยาวชนก่อเหตุความรุนแรง

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563, 12.44 น.

"บิ๊กตู่" กำชับ จนท.คุมม็อบแบบลูก-หลาน ย้ำระวังมือที่สามจ้องก่อเหตุความรุนแรง ซัดคนเดิมชักใยเบื้องหลังสร้างชนวนบานปลาย ลั่นประเทศต้องอยู่ด้วยกฎหมาย เตือนต้องมีจิตสำนึกรู้อะไรควรไม่ควร สถานที่สำคัญ เขตพระราชฐาน

วันที่ 17 ก.ย.63 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.ว่า ได้มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลในภาพรวม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ทำงานตามหน้าที่ของตัวเองไป เน้นย้ำเพียงว่าขอให้ปฏิบัติด้วยความนุ่มนวล เพราะเป็นเด็กเป็นลูกหลานทั้งนั้นฉะนั้นในส่วนตรงนี้ขอร้องว่าอะไรที่ไม่ควร ไม่ถูก สถานที่ราชการต่างๆเหล่านี้ ที่มีกติกา กฎหมายอยู่แล้ว ก็ไม่ควรปฏิบัติให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งระหว่างกัน

อย่างไรก็ตามได้ย้ำเจ้าหน้าที่ขอให้ดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะอาจจะมีหลายคน หลายฝ่าย ที่พยายามให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่ความบานปลาย ซึ่งรัฐบาลจำเป็นจะต้องไม่ให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย และช่วงที่ผ่านมาทุกคนทราบดี คนทั้งประเทศทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น และกฎหมายคืออะไร รัฐธรรมนูญคือรัฐธรรมนูญ ขณะที่รัฐธรรมนูญมีกฎหมายลูกอีกหลายร้อยกฎหมาย ถ้าเรามัวแต่อ้างเรื่องรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว มันเป็นกฎหมายกรอบใหญ่ แต่ในทางปฏิบัติมันเป็นกฎหมายลูกซึ่งทุกคนต้องระมัดระวังด้วย

"ผมไม่ได้ขู่ใคร แต่ประเทศชาติมันอยู่ด้วยกฎหมาย อยู่ด้วยหลักการและเหตุผลของกฎหมายแต่ละฉบับ ฉะนั้นถ้าทุกคนตั้งใจจะฝ่าฝืนกฎหมาย ผมคิดว่าคนอื่นคนทั้งประเทศเขาจะยินยอมหรือไม่ เพราะจะเกิดผลกระทบกับคนอื่นเขาด้วย ในช่วงนี้ผมไม่ได้ไปขัดแย้งกับท่าน ซึ่งท่านจะชุมนุม ที่อ้างตามรัฐธรรมนูญก็อ้างไป แต่ในส่วนที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย เดือดร้อน ขอให้มีจิตสำนึกตัวเองด้วย เพราะท่านคือคนไทย หากประเทศไทยเกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหาทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ คงไม่ใช่นายกฯหรือรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว ฉะนั้นขอให้เข้าใจหลักการและเหตุผลตรงนี้ด้วย"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนแนวทางการขับเคลื่อนอะไรต่างๆ ตนทราบอยู่แล้ว เขาจะทำอะไรบ้าง ไปที่ไหนอย่างไร เพียงแต่ว่าขอให้ระมัดระวังที่สุด อะไรที่ไม่สมควรก็อย่าไปกระทำ ตนอยากจะอดทนอย่างยิ่งยวดอยู่แล้ว และจะเห็นได้ว่าระยะเวลาที่ผ่านมา ตนพยายามอดทนหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม และทำอย่างไรให้ประเทศชาติ เดินไปข้างหน้าได้ เพราะหลายคน หลายส่วน ยังเดือดร้อน ในเรื่องของเศรษฐกิจ ธุรกิจต่างๆ ถ้ามีอะไรที่วุ่นวายเกิดขึ้นแล้ว มันจะดีขึ้นได้หรือไม่ ถ้ามันไม่ได้ใครจะช่วยกันดูแลต่อไป ใครจะรับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยากให้ทุกคนคิดให้ครบถ้วนกระบวนความ

"โอเคจะชุมนุมจะอะไรก็แล้วแต่ก็เป็นสิทธิของท่านก็ว่ากันไป แต่สิทธิของคนอื่นจะว่าอย่างไร ในเรื่องของสถานที่ราชการจะว่าอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นกติกาของประเทศ เป็นกฎหมายของประเทศที่ทุกคนจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากการกระทำ อย่างที่เขาพูดว่า You get what you pay ภาษาฝรั่งเขาพูดอย่างนี้ ท่านทำอะไรท่านได้อย่างนั้น ตัวเองไม่ได้เดือดร้อน แต่ประเทศชาติเดือดร้อน คนอื่นเดือดร้อน ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ในเมื่อทุกคนบอกรักชาติ รักประเทศ ต้องการจะแก้ไขประเทศก็ต้องเริ่มจากการแก้ไขตัวเองเสียก่อนว่าจะต้องแก้ไขตัวเองอย่างไร จะต้องเข้าใจกันอย่างไร ถ้าเริ่มต้นในสิ่งที่ขัดแย้งกันตลอด มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ฉะนั้นวันนี้เราต้องมองไปข้างหน้า โดยสืบสานตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนปุ๊บเลยทีเดียวแล้วเป็นแบบนั้นเลย ลองไปดูว่าทำได้หรือไม่ กฎหมายเป็นอย่างไร วิธีการทำงานเป็นอย่างไร

"หลายคนก็พูดออกมา แล้วทำให้เกิดความเชื่อมั่น เชื่อถือ โดยที่ไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่พูดมาแล้วนั้น มันเป็นอันตราย หรือมันทำได้หรือไม่ได้ แต่ทุกคนก็พูดให้เพื่อเป็นการปลุกเร้าคนเหล่านี้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด เราผ่านบทเรียนมามากพอสมควรแล้ว ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดมาหลายครั้งแล้ว และบางครั้งคนเดิมๆเขาอยู่ และวันนี้ก็ยังทำเช่นนั้นอยู่ ซึ่งทุกคนทราบดี ผมคงไม่ไปเอ่ยถึงใครให้มีปัญหากันอีก แต่ทุกคนต้องมีจิตสำนึก ตราบใดที่ทุกคนยืนในประเทศไทยก็ต้องคิดร่วมกันทำให้ประเทศชาติ ประชาชนปลอดภัย การพัฒนาประเทศเดินไปข้างหน้า"

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่างานหลายส่วนก็มีความก้าวหน้า บางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างไม่ได้ก็ต้องแก้กันต่อไป ตนคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่นำทุกอย่างมาแก้ไข ปัญหา อุปสรรคในอดีตที่ผ่านมา และเดินหน้าประเทศได้หลายมิติ ฉะนั้นให้ความเป็นธรรมด้วย จากการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าตนจะมาอย่างไรก็ตาม แต่คิดว่าตนได้ทำหลายอย่างให้กับประเทศไทย มันเป็นการทำงานตามหน้าที่ ในเมื่อตนเป็นนายกฯก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง และไม่ต้องการให้ใครมาชื่นชม ตนภูมิใจตัวเองว่าทำสิ่งเหล่านี้เพื่อใคร ก็ทำเพื่อคนไทย เพื่อลูกเพื่อหลาน 67 ล้านคนในปัจจุบัน ฉะนั้น ขอให้นึกถึงคนอีก 60 กว่าล้านคน เขาจะลำบากหรือไม่ เขาจะเดือดร้อนไหม ถ้าประเทศชาติเกิดความวุ่นวาย และต่างชาติจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้เราได้เตรียมการท่องเที่ยวในการนำคนเข้ามา เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น

“ขอถามว่า ถ้าทุกอย่างหยุดวันนี้แล้วใครจะทำ แล้วจะทำได้หรือไม่ ฉะนั้นลองมองและสื่อสารทั้ง 2 ทางแล้วมาวิเคราะห์ ใคร่ครวญดูว่าจะทำอย่างไรกัน ผมถือว่าเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคน บ้านเมืองก็มีปัญหาเยอะอยู่พอสมควรแล้ว ผมก็พยายามแก้ให้มากที่สุด และวันนี้ก็ได้มอบรางวัลคนดีๆก็มีเยอะ คนที่ตั้งใจทำงานก็เยอะ และเยอะกว่าคนไม่ดี ส่วนคนไม่ดีก็ต้องแก้และทำให้ตัวเองเป็นคนดีขึ้น ให้สังคมยอมรับมากยิ่งขึ้นมันก็แค่นั้น สังคมมันเป็นอย่างนี้ ถ้าเรามัวแต่ขัดแย้งกันไปมา หรือทำงานริ่มต้นด้วยความขัดแย้ง มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าใครจะมา หรือจะไป  มันก็ทะเลาะกันอยู่แบบนี้ แล้วถามว่าประเทศชาติจะอยู่ได้ไหม ที่เราเรียกว่าศักยภาพของประเทศไทยมีมากมายทุกคนรู้ดี แต่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ มันทำลายศักยภาพและโอกาสของประเทศไทย ในเวทีโลก และของเราเอง ฉะนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่อยากจะฝากไปยังประชาชน พ่อแม่ พี่น้อง ทุกคน และที่นอกเหนือจากกลุ่มที่ชุมนุมเหล่านี้ได้เข้าใจว่าจะช่วยเหลือบ้านเมืองกันได้อย่างไรในเวลานี้”นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำ

หน้าแรก » การเมือง