แย่แล้วโควิดโผล่เชียงรายอีก 3 ราย จาก 31 คนไทยเพิ่งมาจาก รร.เมียนมา ทัวร์ยกเลิกระนาวโฮมสเตย์จองมา 30 กรุ๊ป-แคลเซิลแล้ว 18

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม 2563  ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และรับทราบข้อมูลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มคนไทยที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยโดยชุดล่าสุดจำนวน 31 คน เข้ามาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาและมีผู้แสดงความจำนงค์จะขอเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก          

ทางทีมแพทย์สาธารณสุขได้รายงานผลว่าผลจากการตรวจกลุ่มคนไทยที่เข้ามาบางส่วนโดยเน้นไปที่ผู้ที่ทำงานอยู่ในดรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก เพราะกลุ่มคนที่ติดเชื้อที่พบในประเทศไทยทั้ง 10 รายก็มาจากแหล่งเดียวกัน ปรากฎว่าพบผลเป็นบวกจำนวน 3 รายโดยเป็นหญิงสาวที่เคยทำงานอยู่ที่โรงแรมวันจีวันทั้งหมด ปัจจุบันได้ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว ส่วนคนอื่นๆ ที่รอตรวจให้พักที่ศูนย์กักดูอาการที่จัดตั้งขึ้นเพิ่มเติมใน อ.แม่สาย อีก 2 แห่ง รองรับได้จำนวนประมาณ 200-300 คน โดยไม่ต้องส่งเข้าไปยังชั้นในของประเทศอีก
          
นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย กล่าวเราได้ประเมินเอาไว้ก่อนว่าหากมีคนไทยเข้ามาอีก 180 คน จะสามารถรองรับได้อย่างไรซึ่งตนก็ได้ไปดูความพร้อมด้านต่างๆ แล้ว ก็พบว่าสถานการณ์ควบคุมได้และไม่น่าหนักใจแล้ว สำหรับการตรวจสอบข้อมูลได้ทราบว่ามีคนตกค้างอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าวอีกประมาณ 80 คน โดยมีทั้งพนักงานบริการ คนทำครัว ฯลฯ ซึ่งเราถือว่าเป็นคนไทยที่จะต้องรับเข้ามาตรวจทั้งหมดและหากพบว่าติดเชื้อก็จะได้รับการรักษา ทั้งนี้หลังจากมีการรับคนไทยกลับมาพบว่าได้ทำให้การลักลอบเข้ามาตามช่องทางผิดกฎหมายมีน้อยลง
          
อย่างไรก็ตามทางกระทรวงสาธารณสุขก็ยังให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) คอยตรวจตราในหมู่บ้านของตนว่ามีคนแปลกปลอมเข้ามาหรือไม่ หากพบบุคคลต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
          
ด้านนายแพทย์ศิริศักดิ์ นันทะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สาย กล่าวว่าผลการตรวจผู้ที่อยู่ในศูนย์กักดูอาการหรือโลคอล ควอเรนทีน ที่ อ.แม่สาย พบผลเป็นบวกทั้ง 3 ราย และปัจุบันก็กำลังตรวจอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะผู้ที่มาจากโรงแรมวันจีวันที่มีเป็นหลักสิบรายซึ่งคาดว่าจะมีผลบวกประมาณ 50% เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับกรตรวจไปแล้ว 6 ราย ก็พบผลบวก 3 ราย และในการตรวจพบในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จำนวน 3 รายก่อนหน้านี้ก็พบการติดเชื้อจำนวน 1 ราย
          
ดังนั้นกรณีมีเป้าหมายจากโรงแรมวันจีวันจำนวน 50-72 คน อาจจะมีผลบวกได้ถึง 30-50% ดังนั้นจึงจะมีการตรวจสอบรายชื่อและที่มาให้ชัดเจนเพื่อจัดทำแผนที่บุคคลเอาไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง เพราะเราทราบแหล่งที่มาเดียวกันแล้วว่ากรณีพบหญิงสาวไทยจำนวน 10 ราย ติดเชื้อแล้วลักลอบเข้ามาในประเทศไทยก็มาจากแหล่งสถานบันเทิงนี้

ทัวร์ยกเลิกระนาวโฮมสเตย์จองมา 30 กรุ๊ป-แคลเซิลแล้ว 18

นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย นายเศรษฐศักดิ์ พรหมมา ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.เชียงราย และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้จัดประชุมกันที่ร้านอาหารท่าน้ำภูแล อ.เมืองเชียงราย
          
เพื่อหาวิธีการลดผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยว หลังจากก่อนหน้านี้พบว่านักท่องเที่ยวที่เคยจับจองห้องพักโรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ ฯลฯ ต่างขอยกเลิกการจอง-กำหนดการเดินทางเที่ยวเชียงรายอย่างต่อเนื่อง
          
นายเศรษฐศักดิ์ กล่าวว่าตั้งแต่เดือน ธ.ค.2563-ก.พ.2564 มีกรุ๊ปทัวร์จองจะมาเที่ยวหมู่บ้านโฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน 40 หลังคาเรือน และพื้นที่ที่เกี่ยวข้องใกล้เคียง รวมไม่น้อยกว่า 30 กรุ๊ป แต่หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดลอบข้ามแดนจากท่าขี้เหล็กเข้าพื้นที่ ทำให้ลูกค้ายกเลิกทัวร์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจนถึงวันนี้ยกเลิกไปแล้ว 18 กรุ๊ป และมีแนวโน้มจะยกเลิกอีก
          
ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้ธุรกิจไปแล้วรวมกันประมาณ 1.8 ล้านบาท เพราะแต่ละกรุ๊ปจะมีคนในกลุ่มประมาณ 40 คน ใช้จ่ายเงินรวมกันกว่า 100,000 บาท หรือบางกรุ๊ปอยู่ยาว 2-3 คืนก็จะคิดเป็นเม็ดเงิน 200,000-300,000 บาท แต่พอมีการยกเลิกทำให้ทุกอย่างพังทลายลงหมด ซึ่งไม่ได้เดือดร้อนแค่โฮมสเตย์เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น คนทำอาหาร รถเช่า ฯลฯด้วย
          
"ตอนนี้อยากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเรื่องการให้ข้อมูลข่าวสาร เพราะทุกวันนี้มีข่าวเท็จหรือเฟคนิวส์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดมีเฟคนิวส์ว่าจะมีการกักตัวคนขับรถนำเที่ยวที่กลับจากเชียงราย 14 วัน ทำให้คนขับรถไม่กล้าเข้าพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะกระทบกับงานของเขาที่ขาดงานได้ไม่เกิน 10 วัน เป็นต้น ซึ่งหากมีการแก้ข่าวอย่างทันท่วงที พอเกิดเฟคนิวส์ภาครัฐก็จัดแถลงข่าวแก้ไขทันทีก็จะทำให้ปัญหาลดน้อยลง" นายเศรษฐศักดิ์ กล่าว
          
นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเครือข่ายของสมาคมสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย เปิดเผยว่าสมาคมฯ มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการโรงแรม 80 แห่ง มีห้องพักรวมกันประมาณ 4,000 ห้อง แต่ถ้าทั้งจังหวัดเชียงราย จะมีโรงแรมที่พักประมาณ 400 แห่ง ห้องพักรวมกันกว่า 20,000 แห่ง
          
ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีข่าวเรื่องการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบนี้ มียอดจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 80-90% เพราะเป็นไฮซีซั่น แต่พอพบผู้ติดเชื้อดังกล่าวทำให้การจับจองห้องพักลดลงและมีการยกเลิกการจองต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่เชียงราย อาจเกิดผลกระทบมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นที่ระยอง เพราะไม่ได้เกิดจากบุคคลภายนอกที่ผ่านเข้าไปแล้วเดินทางออกไปอย่างรวดเร็วแต่เกิดจากคนภายในพื้นที่ จึงคาดหวังว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหาแบบเดียวกันคือหน่วยงานภาครัฐโหมจัดการประชุมสัมนาในพื้นที่ขนานใหญ่จนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น รวมทั้งอยากให้ภาครัฐได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว เช่น ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามถนนและจุดต่างๆ ด้วย
          
ขณะที่ประชุมหอการค้าและเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยว มีมติให้ภาคเอกชนแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและประชาชน เพื่อให้มีพลังในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยจัดกิจกรรมทำความสะอาดเมืองครั้งใหญ่หรือบิ๊กคลินนิ่งใน จ.เชียงราย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวก่อนถึงกำหนดงานเทศกาลฤดูหนาวต่างๆ เช่น งานเชียงรายดอกไม้บาน งานไม้ดอกอาเซียน งานสีสันดอยตุง ฯลฯ
          
นายอนุรัตน์ กล่าวว่าสำหรับข้อเรียกร้องอื่นๆ ที่จะมีการนำเสนอผ่านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ไปยังรัฐบาล คือขอให้ดำเนินโครงการจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุ 5,000 บาท สนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ เพิ่มการสนับสนุนงานกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ห้วงฤดูหนาวนี้ให้มากขึ้น จัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับเชียงราย และเยียวยาผู้ประกอบการทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน
          
นอกจากนี้จะเสนอให้ทางจงหวัดได้จัดแถลงข่าวเพื่อให้ข้อมูลที่แท้จริง ณ จุดเดียวประจำทุกวันเหมือนศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่ส่วนกลาง เพื่อลดความร้อนแรงของเฟคนิวส์และผู้คนที่รอรับข้อมูลที่เป็นจริงดังกล่าวโดยไม่ต้องแสวงหาข้อมูลตามกระแสด้วย.