วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล @Rachadaspoke ระบุว่า...          

ข่าวลือ ทหารไทยส่งเสบียงอาหารและข้าวสารสนับสนุนกองกำลังทหารเมียนมา ชายแดนริมแม่น้ำสาละวิน พล.ต.อำนาจ ศรีมาก ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ยืนยันว่าไม่มีทหารไทยส่งเสบียงให้ทหารเมียนมา และทางเมียนมาก็ไม่เคยประสานเพื่อขอความช่วยเหลือหรือร้องขอจากไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ข้าวสารจำนวน 700 กระสอบยังคงกองอยู่ที่ริมแม่น้ำสาละวินฝั่งไทยยังไม่มีการขนย้ายแต่อย่างใด  

ทั้งนี้เพจ The Reporters ได้รายงานเมื่อวันที่ 20 มีนาคม2564 โดยอ้างรายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-พม่า ใน ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอนพบว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยแห่งหนึ่ง  ได้จัดส่งมอบข้าวสารและเสบียงอาหาร ให้แก่กองกำลังทหารพม่า ที่ตั้งที่ฐานปฎิบัติการอยู่ในรัฐกะเหรี่ยงบริเวณริมแม่น้ำสาละวิน โดยเป็นข้าวสารจำนวนอย่างน้อย 700 กระสอบ 

ก่อนหน้านี้ทหารพม่าได้ประสานมายังหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยเพื่อขอให้ส่งเสบียงเนื่องจากภายหลังการก่อรัฐประหารในพม่า ทางสหภาพชนชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) หรือ เคเอ็นยู ได้ตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงของหน่วยทหารพม่าที่ประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ในรัฐกะเหรี่ยงบริเวณชายแดนริมแม่น้ำสาละวิน

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันทหารที่ประจำการบริเวณชายแดนแถบรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นเขตในการดูแลของเคเอ็นยู ได้มีการวางฐานปฎิบัติการทหาร สลับกันระหว่างทหารพม่าและทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ซึ่งก่อนหน้านี้ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้มีการอนุญาตให้มีการลำเลียงอาหารมายังฐานทหารพม่าได้  แต่นับจากเกิดสถานการณ์ทำร้ายผู้ชุมนุมในพม่า ทำให้เคเอ็นยู ประกาศที่จะให้ความคุ้มครองประชาชนของตนเอง  พร้อมกับปิดเส้นทางลำเลียงและเชื่อมต่อระหว่างฐานทหารพม่าและกองทัพจากส่วนกลาง ทำให้ทหารพม่าตามฐานปฎิบัติการต่างๆ ขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก

“การขนเสบียงครั้งนี้ทราบว่าได้รับคำสั่งมาจากส่วนกลางของรัฐบาลไทย และรถบรรทุกขนข้าวเหล่านี้มาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก การที่กองกำลังฝ่ายความมั่นคงของไทยยอมส่งเสบียงให้ทหารพม่าครั้งนี้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นการไม่สมควร เพราะเป็นปัญหาภายในพม่า ที่สำคัญคือ สังคมโลกกำลังจับตาดูการระทำอันรุนแรงที่กองทัพพม่ากำลังทำกับประชาชน ดังนั้นการส่งเบียงให้ เท่ากับเป็นการสนับสนุนให้ทหารพม่าทำร้ายประชาชน” แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าว 
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคเอ็นยู ทุกพื้นที่คุ้มกันผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย รวมถึงให้ที่หลบภัยกับผู้ที่เห็นต่างจากทหารพม่า แต่ไม่เปิดเผยสถานที่  ส่งผลให้หมู่บ้าน เลเก่ก่อ ใกล้เมืองเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก มีทหารพม่าขอเข้าตรวจค้นช่วงดึกวันที่ 17 มีนาคม แต่ทหทรกะเหรี่ยงเคเอ็นยูไม่ยอม จนเกือบมีการปะทะ เพราะทหารพม่าขอวางกำลังพื้นที่ดังกล่าว เพิ่ม 100 นาย ทำให้ทหารกะเหรี่ยงได้เตรียมเปิดการปะทะ จนในที่สุดทหารพม่าจึงยอมถอยออกจากพื้นที่
ล่าสุดขณะนี้ รายงานข่าวระบุว่า ข้าวสาร 700 กระสอบ ตั้งอยู่หน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งหนึ่งที่ริมแม่น้ำสาละวิน รอการลำเลียงข้ามแม่น้ำไปยังค่ายทหารพม่าฝั่งตรงข้าม

นอกจากนี้ในบริเวณชายแดนไทยที่ติดกับฝั่งรัฐฉานก็เช่นเดียวกัน ภายหลังจากที่สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS หรือ SSA) ที่นำโดยพลเอกเจ้ายอดศึก ได้ประกาศให้การคุ้มครองผู้ที่หลบหนีการรัฐประหารจากทหารพม่า ทำให้สถานการณ์หลายพื้นที่ตึงเครียด

พลเอกเจ้ายอดศึก กล่าวว่ายังไม่มีรายงานว่าบริเวณชายแดนรัฐฉาน-`ไทย มีการขนส่งเสบียงให้กับทหารพม่า แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา SSA ได้ประกาศไปแล้วว่าจะให้การคุ้มครองประชาชนที่หลบหนีมาจากสถานการณ์รัฐประหารของทหารพม่า

แฉเผด็จการทหารเมียนมาใช้ปืนจี้เกณฑ์แรงงานประชาชนรื้อสิ่งกีดขวางของผู้ต่อต้าน
 
สำนักข่าว AFP สัมภาษณ์ ตุน ลา (Tun Hla) วัย 60 ปีซึ่งอยู่ที่บ้านเมื่อเจ้าหน้าที่ติดอาวุธกระแทกประตูของเขาและสั่งให้เขาออกมาทำงานด้วยการเคลียร์กำแพงกั้นที่สร้างขึ้นในละแวกบ้านของเขาว่า “ผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนและมันไม่ควรเกิดขึ้นอีก” ตุน ลา ซึ่งไม่ใช่ชื่อจริงของเขาบอกกับ AFP

"การใช้แรงงานบังคับนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในเมียนมา" จอห์น ควินลีย์ แห่งองค์กร Fortify Rights กล่าวและเสริมว่านี่เป็น "กลยุทธ์ที่โหดร้ายที่ใช้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมแห่งความกลัวและการข่มขู่"
          
แม้จะได้รับความเจ็บปวดจากอาการปวดหลังเรื้อรัง ตุน ลา ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ โดยซ่อนลูกๆ ของเขาไว้ที่บ้าน และร่วมกับเพื่อนบ้านในการรื้อกระสอบทรายและเสาไม้ไผ่ที่กองอยู่บนถนน

CR.ภาพโดยKnow Shan Stat