วันที่ 18 เมษายน 2565 น.ส.ลลิศา​ ​ไตรรัตนจรัสพร ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตหลักสี่ พรรคก้าวไกล กล่าวหลังจากการลงพื้นที่ภายในชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง ว่า คลองตาอูฐซึ่งอยู่ระหว่างชุมชนเคหะทุ่งสองห้องเขตหลักสี่และชุมชนโกสุมร่วมใจเขตดอนเมือง เป็นคลองสำคัญในการระบายน้ำจากพื้นที่ทั้ง 2 เขตลงสู่คลองเปรมประชากร ปัจจุบันอยู่ในสภาพตื้นเขิน มีเศษขยะอุดกั้นทางน้ำ และมีการปล่อยน้ำเสียจากครัวเรือนและที่พักอาศัยลงสู่คลองโดยตรง ซึ่งทำให้น้ำเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นส่งผลกระทบกับประชาชนที่มีที่พักอาศัยอยู่ริมคลอง แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีหน่วยงานราชการเข้ามาดำเนินการเก็บขยะและขุดลอกคลองเป็นระยะ แต่ก็เป็นเพียงการบรรเทาปัญหาเท่านั้นและไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ และกลายเป็นปัญหากวนใจของคนในพื้นที่มาจนถึงปัจจุบัน

น.ส.ลลิศา กล่าวต่อว่า การบูรณาการแก้ปัญหาด้วยการขุดลอกคูคลองทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ การบริหารจัดการขยะโดยการปรับเปลี่ยนจุดทิ้งขยะและการจัดการรวบรวมขยะของชุมชนในซอยลึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถเก็บขยะ รวมทั้งการแยกท่อน้ำฝนและท่อน้ำเสียของครัวเรือนเพื่อให้เกิดการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพก่อนปล่อยลงคลองสาธารณะ เป็นการบริหารจัดการและแก้ปัญหาไปที่ต้นตอของสาเหตุอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน 12 นโยบาย `กรุงเทพฯเมืองที่คนเท่ากัน’ ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ที่ประกาศไว้อีกด้วย

“เค้กได้มีโอกาสเดินทางไปในชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ โดยมีพื้นที่ทางทิศเหนือติดกับคลองตาอูฐ ซึ่งเป็นคลองสำคัญที่จะระบายน้ำทั้งจากพื้นที่เขตหลักสี่และเขตดอนเมืองลงสู่คลองเปรมประชากร ในช่วงปี 2554 พื้นที่นี้มีน้ำท่วมขังสูง 60 - 70 ซม. เพราะคลองตาอูฐที่ควรจะช่วยระบายน้ำออกสู่คลองเปรมประชากรและคลองประปา ถูกขยะและเศษวัชพืชอุดกั้นทางเดินน้ำ รวมทั้งคลองบางส่วนมีสภาพตื้นเขินจนไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเค้กสังเกตเห็นว่าสภาพปัจจุบันก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก และน้ำในคลองยังส่งกลิ่นเหม็น ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพการใช้ชีวิตที่ยากลำบากของคนในพื้นที่ ซึ่งพี่วิโรจน์ และทีม ส.ก.พรรคก้าวไกล พร้อมชนและจัดการปัญหาเหล่านี้ด้วยนโยบายที่พวกเราออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ของชาวชุมชน“ น.ส.ลลิศา กล่าว