เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565  ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และนายศิววงศ์ วงศ์พิชญา ผู้สมัคร ส.ก. เขตดอนเมือง หมายเลข 4 ทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันเดินหาเสียงที่ตลาดฝั่งโขง ถนนสรงประภา เพื่อย้ำเตือนให้พี่น้องประชาชนไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ในวันที่ 22 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งระหว่างเดินขอเสียงจากพ่อค้าแม่ค้า มีผู้สูงอายุเข้ามาบอกเล่าความทุกข์จากการที่ต้องเดินไปหาหมอที่คลีนิค แต่ถนนในซอยไม่ดี มีสิ่งกีดขวางเยอะแยะ และกลัวถูกรถชน ซึ่ง “เอ้ สุชัชวีร์” ได้รับฟังข้อร้องเรียนดังกล่าว พร้อมกับระบุว่า เรื่องนี้ตนเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี และเห็นว่าฟุตบาทต้องเรียบสนิท สามารถให้ผู้สูงอายุ และคนทุกวัยสามารถเดินได้อย่างสะดวกเท่าเทียม หากตนมีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ จะขอลงมาดูให้ 

ทั้งนี้ “เอ้ สุชัชวีร์” เคยลงพื้นที่ดอนเมืองมาแล้วและพบว่าสะพานลอยบริเวณสนามบินดอนเมืองมายังวัดดอนเมืองนั้น ขาดตอนไม่สามารถเชื่อมต่อถึงชุมชน วัด ตลาดได้ ทำให้พี่น้องประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะสนใจเที่ยวชมวิถีชีวิตต้องเดินลงถนนเพื่อข้ามทางม้าลายมายังวัดดอนเมือง เรื่องนี้หากเชื่อมต่ออีกนิดเดียว ชีวิตเปลี่ยน ผู้คนโดยไม่ทำให้พวกเขาต้องเสี่ยงอันตรายข้ามถนน และทำให้เขตดอนเมืองกลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจได้ทันที นอกจากนี้ยังเห็นว่าเขตดอนเมืองสามารถพลิกเปลี่ยนปัญหาให้เป็นการสร้างรายได้ด้วยการนโยบาย  12 เทศกาลใหญ่ 50 เทศกาลเขต ที่ "เอ้ สุชัชวีร์" ตั้งใจจะทำเพื่อชาวกรุงเทพฯ เพื่อให้ดอนเมือง ซึ่งเคยเป็นเขต 1 ใน 5 ที่ถูกร้องเรียนเรื่องจราจรมากที่สุด เพราะเทศกาลสงกรานต์ทำให้ถนนสรงประภามีรถติดยาวหลายชั่วโมง ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามเทศกาลเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นเดียวกับถนนข้าวสาร ด้วยการจัดการจราจรให้มีประสิทธิภาพเท่านั้น ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนไม่เดือดร้อน และยังมีความสุข ถือเป็นสิ่งที่น่าทำเพราะคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม หากชาวดอนเมืองให้โอกาส “เอ้ สุชัชวีร์” และ “นายศิววงศ์” ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 4 เบอร์เดียวกัน

“เราลงพื้นที่ เราเห็นด้วยสายตาตัวเองว่าการตอบรับเป็นอย่างไร ยิ่งเดินยิ่งมั่นใจ ขอพี่น้องประชาชนช่วยสนับสนุนเบอร์ 4 ด้วย ผมยิ่งเดินยิ่งสุขภาพดี ยิ่งเดินยิ่งหัวใจเข้มแข็ง และยิ่งเดินยิ่งคิดตลอดเวลาว่าเมื่อเป็นผู้ว่าฯ แล้ว เราจะช่วยพ่อแม่พี่น้องประชาชนตั้งแต่วันแรกเลย” 

ทั้งนี้ “เอ้ สุชัชวีร์” ระบุเพิ่มเติมว่าจะมีการปราศรัยใหญ่ครั้งที่ 2 ที่เขตสะพานสูง วันที่ 13 พ.ค. ปราศรัยครั้งที่ 3 วันที่ 18 พ.ค. ที่บางขุนเทียน และวันที่ 20 พ.ค. ปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่ขออุบสถานที่ไว้ก่อน ขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามเซอร์ไพร์สด้วย เพราะการปราศรัยจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ 

ส่วนการที่ผู้สมัครคนอื่นๆ ประกาศตัวเป็นผู้บริหารระดับสูงของ กทม. นั้น “เอ้ สุชัชวีร์” กล่าวว่า ตนขอเป็นเพียง “ช่างประจำบ้านและแม่บ้าน” เพราะนี่คือหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. ต้องเป็นช่างประจำบ้านที่ต้องทำทั้งซ่อมและปะผุ เวลาจะสร้างอะไรใหม่ก็ต้องสร้างให้ดีกว่าเก่า ส่วนการเป็นแม่บ้านก็คือทำหน้าที่ดูแลลูกหลานคน กทม. ให้ไปเรียนหนังสือแล้วต้องได้อะไรกลับมา ดูแลความสะอาดบ้าน ดูแลผู้สูงอายุในบ้านด้วย ซึ่งเรื่องนี้ #ทีมสุชัชวีร์” เปลี่ยนกรุงเทพ #เราทำได้

“ผมขอเป็นเพียงแค่ช่างประจำบ้าน และแม่บ้านในคนๆ เดียวกัน คน กทม. ต้องการเท่านี้”