วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 06:17 น.

การเมือง

"ดร.มหานิยม" ร้องสภาทนายความสอบทนายเกี่ยวข้อง "หมอปลา" ล่อซื้อ "หลวงปู่แสง"

วันอาทิตย์ ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 13.52 น.

"ดร.มหานิยม" ร้องสภาทนายความสอบทนายเกี่ยวข้อง "หมอปลา" ล่อซื้อ "หลวงปู่แสง"  ขณะที่สภาทนายความจ่อส่งเรื่องให้ กก.มรรยาทเชือด ทางด้านลูกศิษย์ "หลวงปู่แสง" น้อมรับเจตนารมณ์ไม่ฟ้องร้อง "ไพศาล​" ฟันธง "ขบวนการจับสึกพระ" ทำลายพุทธศาสนา 

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 จากกรณีที่หมอปลา หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว พร้อมภรรยาและทีมสื่อมวลชนบางสำนัก ได้เข้าตรวจสอบภายในที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร หลังมีคนร้องเรียน พร้อมนำคลิปวิดีโอที่อ้างว่า หลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 98 ปี ลวนลามและจับหน้าอกหญิงสาวนั้น  ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เจ้าของฉายา "มหานิยม" ส.ส.ที่ทำหน้าที่ดูแลตรวจสอบวงการพระพุทธศาสนาและวงการสงฆ์มายาวนาน กล่าวว่าได้มอบหมายให้ทนายความไปหาแนวทางดำเนินคดีกับหมอปลากับพวกว่าเป็นการทำลายสถาบันพระพุทธศาสนาหรือไม่ กรณีที่มีข่าวว่า มีทนายความเข้าไปเกี่ยวข้องกับก๊วนหมอปลา นอกจากนักข่าวและสื่อออนไลน์แล้ว ตนเห็นว่า มีทนายความเข้าไปเกี่ยวข้อง สภาทนายความต้องเข้าไปตรวจสอบว่า มีการทำเป็นกระบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ โดยทนายความคนดังกล่าวร่วมวางแผนหรือไม่

"ผมเรียกร้องให้สภาทนายความ ตรวจสอบจรรยาบรรณทนายความคนดังกล่าว ทนายความที่ไปกับหมอปลา หากพบว่า ได้ร่วมกันวางแผน หรือเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ขอให้พิจารณาความผิด ถอดใบอนุญาตหรือพักมีกำหนดระยะเวลา จะกี่เดือนก็ว่าตามโทษานุโทษของทนายความ จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะทนายในฐานะผู้อยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย ต้องรู้ว่า การดำเนินการดังกล่าว มันผิดกฎหมาย แต่ก็ยังกระทำลงไป และคงให้แกนนำชาวพุทธยื่นหนังสือต่อสภาทนายความให้ตรวจสอบพฤติกรรม และหมอปลา หมอผี ยังแสดงความอหังการ ประกาศจ่ายเงินเดือนผู้สื่อข่าวที่ถูกปลดแทนสำนักข่าวต้นสังกัดเดิมด้วย" ดร.นิยม กล่าว

สภาทนายความ จ่อส่งเรื่องให้ กก.มรรยาทเชือดทนายเอี่ยวล่อซื้อเคสหลวงปู่แสง
 
นายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการสภาทนายความ ในฐานะโฆษกสภาทนายความฯ ให้ความเห็นกรณีปรากฏเป็นข่าวหลวงปู่แสง ญาณวโร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ถูกหมอปลา นำสื่อสถานีโทรทัศน์พร้อมด้วยทนายความติดตามเข้าตรวจสอบ จนมีข่าวทำนองว่า เป็นพระที่อาบัติ อนาจารหญิงโดยทำเพื่อรักษามะเร็งนั้น โดยปรากฏความภายหลังว่ามีการวางแผนลักษณะล่อซื้อ ว่า เรื่องนี้ทางสภาทนายความได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วเเละก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทันทีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสภาทนายความก็ตรวจสอบข่าวเรื่องกรณีที่มีคนอาชีพทนายความถูกกล่าวหาว่าไปร่วมทำเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว โดยเตรียมจะส่งให้คณะกรรมการมรรยาททนายความพิจารณา เเละหากพบว่าการกระทำดังกล่าวมีการกระทำความผิดตามมรรยาททนายความจริง ทางกรรมการมรรยาทก็จะมีการลงโทษตามระเบียบข้อบังคับเเละกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งทางสภาทนายความเตรียมที่จะแถลงการณ์เรื่องนี้ต่อสาธารณชนต่อไป ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่

ลูกศิษย์ "หลวงปู่แสง" น้อมรับเจตนารมณ์ ไม่ฟ้องร้อง

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางเข้ากราบนมัสการหลวงปู่แสง รวมทั้งมีการพูดคุยกันกับญาติและลูกศิษย์ของหลวงปู่ ระบุว่า วันนี้ มากราบหลวงปู่แสง และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าการที่หมอปลากับพวกบุกเขาไปในวัดและกล่าวหาหลวงปู่นั้น ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แม้ตำรวจยังต้องขอหมายศาล สามารถฟ้องเอาผิดได้

ด้าน นายเฉลิมชัย จันทะโคตร โฆษกคณะกรรมการลูกศิษย์หลวงปู่แสง กล่าวว่า คณะกรรมการมีมติตามเจตนาของหลวงปู่แสงว่าไม่ให้ไปฟ้องร้องผู้ใด พร้อมขอบคุณทนายอนันต์ชัย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนประเด็นเงินวัดทางคณะกรรมการลูกศิษย์จะยังไม่ขอพิจารณาอะไรทั้งสิ้น ขอให้เป็นไปตามสภาพของหลวงปู่และญาติโยมของหลวงปู่ หลังจากนี้ทางคณะกรรมการฯ จะดูแลหลวงปู่แสงอย่างใกล้ชิด และคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามากราบไหว้ เพื่อให้หลวงปู่แสงมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น

"ไพศาล​" ฟันธง "ขบวนการจับสึกพระ" ทำลายพุทธศาสนา

ขณะที่ นายไพศาล​ พืชมงคล​ อดีตที่ปรึกษาพลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ โพสต์เฟซบุ๊ก​ โดยมีรายละเอียดดังนี้ขณะนี้กรณีหลวงปู่แสง ความจริงชัดขึ้น ส่อว่า เป็นเรื่อง ขบวนการสึกพระ ทำลายพุทธศาสนา!!!!  1 ผู้เกี่ยวข้องมีจำนวนมาก มีสื่อมวลชนจาก 4-5 สำนัก มีทนายความอย่างน้อย 2 คน มีทีมงานเข้าตีหรือจับสึกพระ อีก 6-7 คน เห็นได้ว่ามีค่าใช้จ่ายมาก ใครเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายให้กับขบวนการนี้  ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และคนพวกนี้มีแรงจูงใจอะไรในการทำเรื่องแบบนี้?  2 กรณีเป็นเรื่องนักข่าวปลอมตัวเป็นคนป่วย หลอกพระว่าเป็นมะเร็งที่เต้านมสองข้าง แล้วเอาตัวเข้าไปให้จับนม เพื่อถ่ายทำคลิปเป็นหลักฐาน สำหรับใช้อ้างในการสึกพระ โดยลูกศิษย์พระ อุ้มพระออกมาจากห้อง เพราะพระเดินไม่ได้ ออกมานั่งข้างนอก และสนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้น ลูกศิษย์พระคณะนี้ ได้สมรู้หรือเกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์หรืออยู่ในขบวนสึกพระด้วยหรือไม่?

3 มีการสร้างเรื่องเหมือนกับการเขียนบทในการไปทำคลิป เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสึกพระและเชื่อมโยงทำลาย ความน่าเชื่อถือของพระ เช่น อ้างเรื่องการดื่มปัสสาวะเรื่องพระธาตุ ซึ่งพระท่านไม่ได้พูด แต่ไปเอาคำพูดของคนอื่นมาอ้าง เป็นเรื่องเดียวกัน เพื่อโยงกระแสให้เกี่ยวกับกรณีพระบิดา  4 คณะบุคคลเหล่านี้ไม่มีความเคารพยำเกรงพระพุทธศาสนา ไม่เกรงใจผ้าเหลือง จาบจ้วง ดูหมิ่นเหยียดหยามกล่าวหาพระทั้งที่ตัวเองเป็นคนสร้างบท สร้างเรื่องเองทั้งสิ้น  ทำให้น่าคิดว่าหลายกรณีที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องการสมรู้ หรือเขียนบท แล้วสร้างหลักฐาน ในการทำลายพระสงฆ์หรือไม่?  ดังนั้นเรื่องนี้จึงอย่ามองข้ามเพราะถ้าเป็นหนึ่งในขบวนการทำลายพระพุทธศาสนาก็จะเป็นเรื่องใหญ่

เพราะสถานการณ์ขณะนี้เห็นชัดแล้วว่ามี  ~ขบวนการล้มเจ้า ~มีขบวนการล้มพระศาสนา ~มีขบวนการล้มชาติที่สร้างความแตกสามัคคีในชาติทุกเรื่องราว ~มีขบวนการแบ่งแยกดินแดน ~มีขบวนการชักศึกเข้าบ้าน

ตื่นเถิดพี่น้องไทย!!!! ต้องสืบสาวราวเรื่องกรณีนี้ให้ถึงที่สุด และตรวจสอบให้ได้ด้วยว่า นักข่าวคนหนึ่งนั้นเกี่ยวข้องกับสำนักใด? ที่แอบอ้างพุทธศาสนาอยู่เหมือนกัน! และสำนักนั้นมีสายลับของต่างประเทศไปแฝงตัวอยู่หรือไม่
 

หน้าแรก » การเมือง