วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 20:53 น.

การเมือง

"อุบลศักดิ์" เผยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี

วันจันทร์ ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 19.12 น.

เมื่อวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2565 เวลา 11.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม รองประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... คนที่หนึ่ง แถลงข่าวเกี่ยวกับการประชุมคณะ กมธ. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยคณะ กมธ. ได้พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการประชุมตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 65 ถึงวันที่ 11 ส.ค. 65 รวมการประชุม จำนวน 22 ครั้ง โดยคณะ กมธ. ได้ใช้ร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา มีจำนวนทั้งสิ้น 27 มาตรา ซึ่งคณะ กมธ. ได้แก้ไขจำนวน 10 มาตรา ตัดออก 1 มาตรา และเพิ่มมาตราขึ้นใหม่ 4 มาตรา โดยร่าง พ.ร.บ. มีสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์กับผู้กู้ยืม ดังนี้

1. ลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือไม่เกินอัตราร้อยละ 0.25 ต่อปี จากกฎหมายปัจจุบันที่กำหนดไว้ไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี และร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีได้กำหนดไว้ไม่เกินอัตราร้อยละ 2 ต่อปี

2. ยกเลิกเบี้ยปรับ เพื่อเป็นการลดภาระให้กับผู้กู้ยืม

3. ยกเลิกการค้ำประกันการกู้ยืมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับปริญญาตรี โดยหากเป็นการกู้ยืมในระดับสูงกว่าปริญญาตรีหรือการให้ทุนการศึกษาตามมาตรา 6/1 เมื่อมีเหตุจำเป็นและสมควร คณะกรรมการกองทุนจะกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันก็ได้

4. กำหนดให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) สามารถผ่อนผันให้ผู้กู้ยืมเงินหรือผู้ค้ำประกันชำระเงินคืนกองทุนแตกต่างไปจากจำนวน ระยะเวลา หรือวิธีการที่กำหนดได้ หรือสามารถลดหย่อนหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ แปลงหนี้ใหม่ หรือระงับการชำระเงินคืนกองทุนตามที่ผู้กู้ยืมเงินหรือผู้ค้ำประกันร้องขอเป็นรายบุคคลหรือเป็นการทั่วไปก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวให้กระทำได้แม้จะอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี หรือมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดแล้ว หรืออยู่ในระหว่างการบังคับคดี ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระของผู้กู้ยืมเงินหรือผู้ค้ำประกันให้สามารถชำระเงินคืนกองทุนได้

5. การขยายโอกาสการกู้ยืมให้กว้างขวางขึ้น เพื่อให้บุคคลประเภทต่าง ๆ สามารถเข้าถึงการกู้ยืม เงินจากกองทุนได้ ดังนี้

1) กำหนดให้ผู้ซึ่งจะเข้าศึกษาในหลักสูตรอาชีพหรือเพื่อยกระดับทักษะ สมรรถนะ หรือการเรียนรู้สามารถขอกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาได้

2) กำหนดให้ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นบุคคลที่รัฐมีนโยบายแก้ไขปัญหาสถานะซึ่งได้รับการจัดทำทะเบียนราษฎรแล้ว หรือเป็นผู้ที่เกิดในราชอาณาจักรไทยและไม่ได้สัญชาติไทยในขณะที่เกิด โดยมีหลักฐานการเกิดที่นายทะเบียนออกให้ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร สามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนได้ ทั้งนี้ คณะ กมธ. จะเสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในวาระ 2 และ 3 ต่อไป

หน้าแรก » การเมือง