วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 17:11 น.

การเมือง

“วราวุธ” เชื่อขึ้นเงินเดือน อบต.-กำนัน-ผู้ใหญ่ อาจทำให้บางพรรคได้เปรียบ

วันพุธ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2566, 14.26 น.

“วราวุธ” น้อมรับ หลัง ครม.ถูกมองเทกระจาด แต่ขอให้ทำทุกโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อ ขึ้นเงินเดือน อบต.-กำนัน ผู้ใหญ่ อาจทำให้บางพรรคได้เปรียบ แต่ ชทพ.ลุยเต็มที่ คาด ครม.ครั้งหน้าเป็นรักษาการแล้ว พร้อมลงพื้นบางขุนเทียน แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตัวแทนชาวบ้าน จี้เกาให้ถูกที่คัน อวยรัฐบาลหน้าให้กลับมาเป็น รมต.อีก “ชัชชาติ-ส.ส.ก้าวไกล-ผู้สมัคร ชทพ.” มาร่วมงานด้วย

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566  เวลา 12.50 น. ที่เขตบางขุนเทียน กทม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณกว่าแสนล้าน จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเทกระจาดก่อนยุบสภา ว่า มองได้หลายมุม บางคนมองว่าใกล้จะยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง จึงได้มีการอนุมัติงบประมาณไปในหลายๆ ส่วนพร้อมกัน บางคนมองว่าเป็นการทิ้งทวนก่อนการเลือกตั้ง แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเป็นการเร่งให้โครงการต่างๆ เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจากนี้ไปอีก 4 เดือนจะไม่สามารถทำการอะไรได้ กว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาอาจจะเกิดความขาดช่วง แต่อย่างไรก็ตาม การที่ ครม.อนุมัติโครงการต่างๆ ไปนั้น หรือแม้แต่การขึ้นเงินเดือนผู้บริหาร อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตนเชื่อว่าท้ายที่สุดจะสะท้อนกลับมาเป็นตัวเงินที่จะนำมาพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่แน่นอนว่าในสถานการณ์การเมืองที่ใกล้จะยุบสภา การดำเนินการหลายๆ อย่างของรัฐบาลอาจทำให้ถูกมองว่าเป็นการดำเนินการทางการเมือง ตนเข้าใจทั้งสองฝ่าย แต่คิดว่าต้องทำสิ่งที่ทำไปแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทุกโครงการที่ ครม.อนุมัติขอให้ทุกฝ่ายใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด ส่วนใครจะมองเป็นประเด็นการเมืองคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ ครม. เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ขึ้นเงินเดือน อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบของบางพรรคการเมืองหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ มองได้หลายมุม ถ้ามองในมุมหนึ่งการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานกันมานาน มีหลากหลายภารกิจ หลายฝ่ายอาจเห็นว่าสมควรขึ้นเงินเดือนให้ แต่การที่ดำเนินการกันในนาทีสุดท้ายเช่นนี้แน่นอนว่าจะต้องถูกมองเป็นเรื่องการเมือง แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ทำไปแล้วประชาชนได้ประโยชน์ก็ทำไป ส่วนการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองตนคิดว่าเมื่อลงสนามเลือกตั้งจะต้องลุยกันเต็มที่ไม่ว่าพรรคการเมืองไหน หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์เอง ซึ่งอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือแม้แต่ตนเองที่อยู่ใน ชทพ. พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ต่างต้องทำงานกันอย่างเต็มที่ หลายโครงการที่ ครม.อนุมัติไปเมื่อวันที่ 14 มี.ค. เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผลักดันการเปลี่ยนพื้นที่ชายเลนใน จ.ระนอง ยกให้เป็นที่ราชพัสดุ เพื่อให้ประชาชนเข้าไปใช้ได้นั้น ถือเป็นการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าหากใครจะนำไปเป็นผลงานก็มีสิทธิ์นำไปพูดกันทุกพรรคเช่นกัน 

 เมื่อถามว่า ในวันอังคารที่ 21 มี.ค. จะเป็นการประชุม ครม.ปกติ หรือ ครม.รักษาการ นายวราวุธ กล่าวว่า เมื่อดูจากปริมาณโครงการที่ ครม.อนุมัติไปเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว อาจทำให้คาดเดาว่า การประชุม ครม.ในวันที่ 21 มี.ค.อาจจะเป็น ครม.รักษาการแล้ว 

 เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยุบสภาในวันที่ 20 มี.ค. นายกฯได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า นายกฯไม่ได้แจ้งกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด และขอเรียนตรงๆ ว่าจะยุบสภาวันที่ 20 มี.ค. หรือยุบวันไหนก็แล้วแต่คงไม่แตกต่างกัน เพราะขณะนี้ทุกพรรคการเมือง ทุกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรคลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างเต็มที่ และเมื่อถึงวันนี้คือ วันที่ 15 มี.ค.ทำให้มีความมั่นใจว่า วันลงคะแนนเลือกตั้งไม่น่าจะเป็นวันที่ 7 พ.ค. แต่อาจจะเป็น 14 พ.ค. ที่จะเป็นวันลงคะแนนเสียง เชื่อว่าไม่เกินจากนี้ ในส่วนความพร้อมของ ชทพ. เราไม่เคยไม่พร้อม เราพร้อมทุกเมื่อ เพราะเราทำงานอยู่เสมอ และถึงแม้จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่เราก้าวเดินแต่ละย่างก้าวด้วยความมั่นใจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละเขต แม้แต่ใน กทม. แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่มีการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายคือการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ความพร้อมมีเสมอไม่แพ้พรรคการเมืองอื่น เช่นเดียวกับความตั้งใจของ ชทพ.ไม่แพ้พรรคไหนเช่นกัน
 
ลงพื้นบางขุนเทียน แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง 

เวลา 13.00 น. ที่โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนเทียน กทม. นายวราวุธ  พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง ทส. ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและติดตามปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณพื้นที่บางขุนเทียน กทม. โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชาชน อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) มาร่วมงาน ทั้งนี้ ยังพบว่า ภายในงานดังกล่าวมีนักการเมืองเดินทางมาด้วย คือ นาย นายณัฐชา บุญชัยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็น ส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงนายอัศวิน คูร์พิพัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางขุนเทียน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) อีกหลายคน

โดยเมื่อนายวราวุธเดินมาถึง ได้มีตัวแทนชาวบ้านเข้ามาพูดคุยถึงปัญหาเรื่องทะเลกัดเซาะในพื้นที่ชายฝั่ง กทม. ในเขตอ่าวไทยรูปตัว ก. ที่ได้รับอิทธิพลลมชายฝั่งโดยตรงทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะ โดยชาวบ้านรายได้เสนอกับนายวราวุธว่า อยากให้แก้ปัญหาในภาพรวม ไม่ใช่แก้ทีละจังหวัด ขอให้เกาให้ถูกที่คัน แล้วรัฐบาลหน้าให้กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีก แล้วมาแก้ปัญหาร่วมกันต่อ 
 
 จากนั้นนายวราวุธ กล่าวกับประชาชนว่า สาเหตุของการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยมี 2 ประเทศคือ การกัดเซาะชายฝั่งโดยธรรมชาติจากคลื่น กระแสน้ำ น้ำขึ้น น้ำลง มรสุม และการกัดเซาะชายฝั่งจากกิจกรรมมนุษย์ เช่น การก่อสร้างริมชายฝั่ง การสร้างรอดักทราย การสร้างเขื่อนกั้นทรายและกั้นคลื่นปากร่องน้ำ โดยการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบางขุนเทียนนี้ สาเหตุไม่ได้มาจากระดับน้ำทะเลสูง แต่สังเกตได้จากหลักเขตที่ 28 บริเวณบางขุนเทียนกับหลักเขตที่ 29 บริเวณ จ.สมุทรสาครที่ได้ประกาศไปตาม พ.ร.บ.กำหนดเขตจังหวัดในอ่าวไทยตอนใน เมื่อปี 2502 ซึ่งหลักเขตนี้ยังโผล่พ้นน้ำ หากเกิดระดับน้ำเพิ่มขึ้นจะเป็นนัยสำคัญของระดับน้ำทะเล ทั้งที่หลักเขตนี้ควรจมอยู่ใต้น้ำ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืนจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบ ให้สามารถลดผลกระทบต่อพื้นที่อื่นๆ โดยจะให้ภาคประชาชนและทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ตนได้มอบหมายปลัดกระทรวง ทส. เป็นผู้ติดตามและกำกับการดำเนินการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด 
 

หน้าแรก » การเมือง