การเมือง
"บิ๊กตู่" รักษาการนายกฯเปิดใจ รับนั่งแคนดิเดต "รทสช." แล้ว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลุงเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ออกประกาศพระราชกฤษฎีกา ยุบสภาฯ ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนระเบียบระบบกฎหมาย ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯลงพระปรมาภิไธยมาแล้ว
โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอขอบคุณทุกคน รวมถึงสภาฯ ด้วย ที่ได้ร่วมทำงานกันมา 4 ปี ก็มีทั้งสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ก็ขอขอบคุณ ที่ช่วยกันทำเพื่อประเทศชาติ และประชาชน ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับใครทั้งสิ้น
ส่วนหลังจากนี้ไปรูปแบบการลงพื้นที่การหาเสียงของนายกรัฐมนตรีจะเป็นเช่นไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางพรรคจะเป็นคนวางแผน ซึ่งก็ไม่ได้ไปทุกพื้นที่อยู่แล้ว เพราะมีทั้งหาเสียงใหญ่หาเสียงย่อยอะไรเยอะแยะไปหมด ผมก็เวียนหัวเหมือนกันนะ
ส่วนพอใจผลงาน 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ ได้ย้อนถามกลับสื่อมวลชนว่า พอใจหรือไม่ ถ้าถามตน ตอบไม่ได้ ต้องถามประชาชนว่าพอใจหรือเปล่า เขาได้รับอะไรไปมากน้อยเพียงใด เขาเห็นหรือเปล่า หากไม่สังเกตเห็น ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็ฝากไปดูด้วยแล้วกัน เราก็ทำอะไรเยอะแยะไปพอสมควร ในหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนที่ผ่านมามีอะไรที่ตั้งใจทำไว้แล้วยังไม่สำเร็จหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีหลายเรื่องแต่ขออย่าเพิ่งพูดตอนนี้เลย เพราะหลายเรื่องพยายามจะทำแต่ก็ติดขัดหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องข้อกฎหมายที่ยังคงมีปัญหาอยู่ ซึ่งก็ยังค้างๆคาๆอยู่หลายเรื่อง ซึ่งรัฐบาลหน้าก็คงจะทำให้เรียบร้อย
ส่วนสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ภูมิใจในการทำหน้าที่มากที่สุดระหว่างการดำรงตำแหน่ง 4 ปีที่ผ่านมานั้นคืออะไรพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ก็พอใจขอบคุณในความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล หลายอย่างที่ออกมาเป็นนโยบายของแต่ละพรรคก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำไปแบ้วทั้งหมดนั่นแหละ แต่ทีนี้ก็ไปแยกย่อยกันออกไป ซึ่งจริงๆเรื่องที่บอกว่าจะให้โน่นให้นี่ก็มีทั้งหมดแล้ว และก็เกิดในสมัยรัฐบาลเรานี่แหละ ที่ร่วมมือกันออกมาเป็นมติ ครม. ไม่เช่นนั้น ทำไม่ได้ ฉะนั้น วันหน้าจะทำอะไรก็ตาม
จะต้องเป็นอย่างนี้ นโยบายต่างๆก็เป็นการหารือ อีกครั้งหนึ่งว่าจะให้ใครเท่าไหร่ ซึ่งก็ต้องดูมาตรการทางการเงินการคลังด้วย ว่ามีเงินมากน้อยเพียงใด แล้วหาเงินได้พอหรือไม่ วันนี้ ที่ผ่านมาผมก็ดีใจว่า อย่างน้อยผมก็ได้สร้างสิ่งดีๆขึ้นมา สิ่งที่จะเป็นรายได้ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น EEC การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งก็มีการลงทุนจำนวนมาก แล้ววันนี้ก็มีการประชุม BOI มีความก้าวหน้าอีกหลายประการด้วยกัน ในการลงทุนอีกหลายบริษัท ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ๆหลายหมื่นล้านบาท พร้อมย้ำว่าตนต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนด้วยแล้วกัน เราไม่ใช่ศัตรูกันอยู่แล้วสิบางครั้งนายกรัฐมนตรีอาจหงุดหงิดไปบ้าง เพราะมันทำงานเยอะ ก็เครียดบ้างอะไรบ้าง แต่นายกไม่โกรธใครหรอก
ส่วนได้อะไรจากการเมืองในช่วงที่ผ่านมาบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ หยุดคิดชั่วครู่ก่อนระบุว่า มันก็คงต้องได้ละมั้ง เพราะนายกรัฐมนตรีก็ทำงานกับการเมืองแล้วนี่ อย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ก็เป็นนักการเมืองอยู่เหมือนกันแหละ ในการบริหาร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บริหาร สิ่งต่างๆที่ออกมาได้ก็เป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ว่าอะไรก็ตามเสนอมาได้ และให้นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ต้องตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง หรือสิ่งที่สมควร ซึ่งต้องนำเข้าครมและพิจารณาร่วมกัน และหากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่เห็นด้วยก็ผ่านไม่ได้ เพราะครม.ต้องเห็นชอบด้วยกัน แต่เรื่องที่ควรจะต้องเห็นชอบ ถ้าไม่เห็นชอบก็จะไม่นำเข้าสูตรที่ประชุมเพื่อพิจารณา
ทั้งนี้ ไม่ขอตอบว่าได้ตัดสินใจสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อแล้วหรือไม่ ส่วนอนาคตทางการเมืองเป็นชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก่อนก็แล้วกัน
ส่วนหลังจากนี้พรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ทำงานเหมือนเดิม มันยากตรงไหน ส่วนการเมืองมันไม่มีวันนี้เป็นเรื่องของรัฐบาล เรื่องการทำงาน มันเกี่ยวกับการเมืองที่ไหนล่ะ มันเป็นการทำงานในครม. ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง หากทำเพื่อการเมืองทำไม่ได้หรอก
เมื่อถามย้ำว่าต้องลงมาแข่งขันในสนามการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สนามการเลือกตั้งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องรู้จักแยกแยะสิ
ส่วนการเดินเข้าสู่การเมืองเต็มตัวครอบครัวได้สนับสนุนให้กำลังใจอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ให้ผมเป็นคนตัดสินใจ
"วิษณุ" กางกฎหมาย "บิ๊กตู่-รมต.-ขรก.การเมือง" ไม่ต้องเรียกรักษาการ
20 มีนาคม 2566 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภาษณ์ภายหลังมี พระราชกฤษฎีกายุบสภา ว่า ขณะนี้หากจะเรียกตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเรียกนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม จะไม่ใช้คำว่ารักษาการ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยให้เหตุผลว่าหากใช้คำว่ารักษาการจะเกิดความสับสนในภายหลัง รวมถึงตำแหน่งทางการเมืองอื่น ๆ ยังคงเรียกตามตำแหน่งเดิมอยู่ โดยรักษาการจะมีอย่างเดียวคือ คณะรัฐมนตรีรักษาการ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ระบุให้คณะรัฐมนตรีอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรี ที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
อีกทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยังเคยแจ้งมาว่า การจะยื่นทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีจริง ๆ ก่อน คือโดยให้ยื่นทรัพย์สินภายใน 60 วัน หลังคณะรัฐมนตรี ที่ตั้งขึ้นใหม่เข้ารับหน้าที่ เพื่อป้องกันความสับสนหากมีทรัพย์สินเพิ่มเติมในระหว่างนี้
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "โสภณ" ลุยนาโพธิ์บุรีรัมย์ สานต่อยุทธการฟ้าสาง รวมพลังรักศรัทธา ต้านยาเสพติดแบบบูรณาการ 8 พ.ค. 2568
- มติบอร์ดแพทย์สภา เชือดหมอรักษา "ทักษิณ" ชั้น 14 ลุ้นศาลให้ "แม้ว" ไปต่างประเทศ 8 พ.ค. 2568
- มหาดไทย เปิดปฏิบัติการ "ZERO GUN" สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจับกุมอาวุธปืนเถื่อน 8 พ.ค. 2568
- ศาลเยาวชนฯ ราชบุรี มอบเงินสมทบจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้ รพ.ราชบุรี 8 พ.ค. 2568
- "พรรคประชาชน" ร่อนแถลงขอโทษ ปม สท.โดนจับ "คดีค้ายาเสพติด" 8 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา "เทพกระษัตรีสัมพันธ์ ครั้งที่ 4" จังหวัดภูเก็ต 19:26 น.
- "ประเสริฐ" สั่งเดินหน้า "โคราชโมเดล" ขับเคลื่อน Learn to Earn ช่วย "เยาวชน" ทุกกลุ่มให้มีโอกาสศึกษา เสมอภาค 18:56 น.
- เสวนาเสรีภาพสื่อ "เสรีภาพสื่อ VS AI Surveillance : ผลกระทบ โอกาส และความท้าทาย" 18:46 น.
- "สมาคมนักข่าวฯ" จัดงานวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ชี้สื่อไทยเสรี-สังคมอ่วมข่าวลวง 18:33 น.
- กสม.ออกแถลงการณ์ประณามผู้ไม่หวังดีกราดยิงกลุ่มเปราะบางตากใบเสียชีวิตและบาดเจ็บ ชี้ขัดกับทุกหลักศาสนา 17:56 น.