“ประสิทธิ์ชัย” แฉ “กลุ่มทุน” ยังคุมกัญชาไม่ได้ จึงต้องทำให้มีปัญหา เพื่อให้นายทุนกินรวบ ส่วนยาบ้าจัดสรรเรียบร้อย จึงปล่อยผีให้ครอบครองได้ ท้าจับตา “เยอรมัน” หลังเปิดให้ประชาชนปลูกและใช้กัญชาได้ จะหายนะหรือไม่ 

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567  นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า เรายืนยันเสมอมาว่าตราบใดที่ไม่ใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบายทุกอย่างจะผิดเพี้ยนหมดรัฐบาลนี้มีปัญหากับกัญชาในขณะที่ปล่อยให้มีการใช้ยาบ้า 5 เม็ดและเปิดให้เสพแอลกอฮอล์กันมากขึ้น นี่คือตัวอย่างของการไม่ใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบาย เราเรียกร้องตลอดมาว่าให้จัดทำข้อเท็จจริงเปรียบเทียบระหว่าง กัญชา สุรา บุหรี่ ยาบ้า โดยเมื่อนำข้อมูลวิทยาศาสตร์มาเปรียบเทียบแล้วจะเห็นความร้ายแรงและคุณประโยชน์ต่อร่างกายของทั้ง 4 ชนิดและใช้ข้อเท็จจริงนี้กำหนดมาตรการควบคุม แต่รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้ตลอดมาว่า ในบรรดา สุรา บุหรี่ ยาบ้า กัญชา เราจะพบว่ามีแต่กัญชาที่เป็นพืชจากธรรมชาติ แต่รัฐบาลนี้กลับมีปัญหากับพืชสมุนไพรต้นหนึ่งแต่ปล่อยยาเสพติดสารเคมีแบบยาบ้าให้เสพกันได้ และถ้าสังคมยังด่ากัญชาโดยไม่สนใจข้อเท็จจริงสุดท้ายก็เข้าทางรัฐบาลที่เบื้องหลังต้องการคุมกัญชาให้อยู่ในหมู่พวกของตัวเอง

“ทำไมกัญชาเป็นปัญหาแต่ยาบ้าไม่เป็นปัญหา ก็เพราะว่ากลุ่มทุนยังคุมกัญชาไม่ได้จึงต้องทำให้มีปัญหาเพื่อควบคุมให้การผลิตอยู่ในมือของกลุ่มทุนเท่านั้น ส่วนยาบ้าที่ปล่อยออกมาเพราะในลำดับของผู้รับผลประโยชน์จำนวนหลายพันล้านถูกจัดเรียงเรียบร้อยว่าใครอยู่บนสุดและลำดับรองลงมา หากรัฐใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบาย รัฐจะพบว่าการใช้กัญชานั้นปลอดภัยที่สุดไม่ว่าจะเรียกมันว่าการแพทย์หรือสันทนาการเพราะมันคือพืชต้นหนึ่งที่ถูกปลูกด้วยการเอาใจใส่นำวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่นักปลูกพึงหาได้มาปรุงต้นกัญชา ในขณะที่ยาบ้า บุหรี่ สุรา ล้วนเจือปนด้วยกระบวนการทางเคมี” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว 

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวอีกว่า ที่ข่าวพยายามออกมาว่าสูบกัญชาแล้วคลั่ง ตนสูบกัญชามา 7 ปี ทำไมจึงไม่คลั่งสักที และยังมีสติปัญญา ความสามารถทางกาย ความนิ่งของจิต ไม่แพ้คนที่ไม่สูบกัญชา หากไม่เชื่อก็พร้อมพิสูจน์กับคนที่ไม่สูบกัญชาทุกคนทั้งสมรรถนะทางกาย จิต ปัญญา สังคมไทยส่วนหนึ่งก็เชียร์เศรษฐาให้เอากัญชากลับไปสู่ยาเสพติด จึงอยากเรียกร้องว่าพวกคุณช่วยเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบและต้องทำความรู้จักและเข้าใจกับกัญชาให้ดีจึงจะสรุปมัน มิใช้ว่าสื่อป้อนอะไรก็รับหมด เขาปั่นให้กัญชาดูร้ายเพื่อคุมกัญชาให้อยู่ในมือพวกเขาเท่านั้น ลองเอากรณีศึกษาที่สื่อลงว่าคลั่งกัญชาแล้วไปทำร้ายคนอื่นมาพิสูจน์กันรายกรณีแล้วจะประจักษ์แจ้งว่าข้อเท็จจริงคืออะไร สู้กันด้วยข้อเท็จจริง ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะคิดว่าตัวเองควบคุมอำนาจรัฐได้เพียงใดแต่ทั้งโลกนี้เปิดกว้างเรื่องกัญชาอย่างที่ไม่อาจปกปิดกันได้อีกเราจะรอดูหายนะของประเทศเยอรมันกันไหม เพราะเขาเพิ่งเปิดให้ประชาชนปลูกและใช้กัญชากันได้แล้ว ถ้ากัญชามันร้ายเหมือนที่หลายสำนักข่าวกำลังปั่นกันนั้น ประเทศเอยรมันคงปั่นป่วนภายในปีนี้ และแคนาดาที่เปิดให้ประชาชนใช้กัญชามาตั้งแต่ช่วงโควิดคงหายนะเช่นกัน

“พูดกับนายกรัฐมนตรีนั้นยากแต่ผมอยากพูดกับคนไทยว่าช่วยพิจารณาข้อเท็จจริงเถอะครับ อย่าปลิวว่อนไปตามกระแสสื่อที่บริษัทยาจ้างมาปั่นกัญชาให้เลวร้าย เพราะเมื่อประชาชนใช้กัญชาได้ ผลกระทบสูงสุดจะเกิดกับบริษัทยา แม้กระทั่งสันทนาการที่ท่านคิดว่าเลวร้ายนั้น โปรดใช้ข้อเท็จจริงและสติปัญญาในการพิจารณาเถอะครับ” เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าว