เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567   ดร.นิยม เวชกามา อดีต ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย   กล่าวถึงกรณีพระศรีสัจญาณมุนี  รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยพระภิกษุ และ สามเณร พร้อมฆราวาส ที่เข้าไปในเขตอุทยาน ฯ พร้อมถูกตั้งข้อกล่าวหาและมอบตัวสู้คดีว่าว่า ติดตามข่าวนี้ต่อเนื่อง เพราะเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของชาวพุทธ โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าพระศรีสัจญาณมุนี ท่านและคณะไปล่าสัตว์ตามที่สื่อลง เพราะเท่าที่รู้ท่านเป็นพระสายกรรมฐาน เป็นพระดี ชอบปลีกวิเวก เป็นถึงเปรียญธรรม 9 ประโยค เป็น ดร.เป็นถึงผอ.วิทยาลัยสงฆ์ คงไม่ทำแบบที่ว่ามา

“เรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องตั้งหลัก ตั้งสติ ให้ดี ๆ ฟังจากคำแถลงของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้ว ใช้ไม่ได้ ผอ.พุทธชัยภูมิ ทำอะไรอยู่ คุยกับเจ้าคณะปกครองอย่างเดียวไม่พอ ต้องคุยกับรองเจ้าคณะจังหวัด พระเณรที่ไป พร้อมทั้งชาวบ้านด้วย ซึ่งต้องถามให้ชัดว่าท่านเข้าไปทำอะไร โยมนิมนต์เข้าไปหรือไม่  หรือเข้าปลีกวิเวกเดินป่า เดินธุดงค์อย่างที่ท่านเคยทำหรือไม่  แล้วปืนเอาเข้าไปทำอะไร มันต้องถามให้ชัด  มิใช่แถลงข่าวเสมือนทำนองว่าว่าท่านรองเจ้าคณะจังหวัดร่วมขบวนล่าสัตว์ กลายเป็นว่าพระไปล่าสัตว์ แบบนี้คณะสงฆ์เสียหาย พระพุทธศาสนาเสียหาย เรื่องนี้อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนคดีเงินทอนวัด คนของสำนักงานพุทธมีหน้าที่ดูแลพระ มีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์ มิใช่ไปซ้ำเติมพระคุณเจ้า เดียวพรุ่งนี้จะลองถามเรื่องนี้จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พร้อมทั้งจะขอร้องให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ไปตรวจสอบอีกทางหนึ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่อุทยาน ก็ต้องไปตรวจสอบว่าให้ข่าวเกินจริงหรือไม่ มันต้องเป็นธรรม กับท่านเจ้าคุณ เพราะเรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์คณะสงฆ์อย่างมาก..”