เมื่อวันที่ 3 กรกฎคม 2567 ในช่วงการปรึกษาหารือตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ได้มี สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน โดยมี

นายพิทักษ์เดช เดชเดโช  สส. นครศรีธรรมราช  พรรคประชาธิปัตย์   ระบุว่าเนื่องจากราคาปาล์มลดลงจนไม่คุ้มทุนของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน  ราคาต้นทุนของการผลิตสูงกว่าราคาขาย ทำให้ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันได้รับความเดือดร้อนกระทบต่อการครองชีพของเกษตรกร อีกทั้งในช่วงนี้มีการปิดโรงงานที่รับซื้อปาล์มอยู่บ่อยครั้ง หวั่นว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่  

สำหรับว่าที่ร้อยโท ยุทธการ รัตนมาศ สส. จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรปลูกปาล์มในพื้นที่อำเภอชะอวด และพื้นที่ 5 อำเภอในเขตลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้รับซื้อปาล์ม (ลานเทปาล์ม) 2 แห่ง คือลานเทเพชรทองปาล์ม โดยคุณสัมฤทธิ์ เพชรทอง ตำบลบ้านตูล อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช และ ลานเททวนรุ่งเรือง คุณอรุณ และคุณเบ็ญจพร พรหมช่วย ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ ว่า 

ขณะนี้ลานเทหลายแห่งไม่สามารถรับซื้อปาล์มได้ เพราะโรงงานที่รับซื้อปาล์มในเขตลุ่มน้ำปากพนัง ได้ปิดการรับซื้อไปตั้งแต่วันที่ 6 - 7 ก.ค. 2567 ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างมาก เพราะไม่รู้จะไปขายให้ใครขายที่ไหน จึงขอฝากประธานสภาได้ส่งหนังสือไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งแก้ไขปัญหานี้โดยด่วนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เกษตรกรรวมตัวประท้วงให้รัฐบาลแก้ปัญหา

นอกจากนี้ ตนในฐานะที่เป็นผู้เสนอ พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมัน และได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบกับกฎหมายดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2567 ต่อมาในวันที่ 15 มี.ค. 2567 ตนได้รับแจ้งจาก นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาว่า นายกรัฐมนตรีได้ตอบกลับว่าได้รับคำร้องเรียบร้อยแล้วแต่ ไม่สามารถอนุมัติเห็นชอบตามข้อบังคับได้ 

ดังนั้นในฐานะของสมาชิกสภาผู้แทนของประชาธิปัตย์จะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีโรงงานปิดรับซื้อตามจากเกษตรกรต่อไป