การเมือง
“เศรษฐา” มุ่งยกระดับ “ทางรัฐ” สู่ Super App พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ E-Government
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

“เศรษฐา” มุ่งยกระดับ “ทางรัฐ” สู่ Super App พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ E-Government ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐอย่างทันสมัย สะดวก ครอบคลุม ปลอดภัย และตรวจสอบได้ “กระทรวงดีอี” เปิดจุด Walk-in ลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต” 5,199 แห่งทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและ E-Government วางนโยบายพัฒนาแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำหรับลงทะเบียนรับสิทธิในโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 10,000 บาท ของรัฐบาล ไปสู่การสร้าง “Super App” ยกระดับเป็นศูนย์กลางในการให้ประชาชนทุกช่วงวัยสามารถติดต่อขอรับบริการจากภาครัฐผ่านแอปพลิเคชันนี้ได้อย่างครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ได้ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งปัจจุบันมีบริการภาครัฐกว่า 152 บริการก้าวไปสู่การเป็น “Super App” ที่ครอบคลุมการติดต่อและรับบริการจากภาครัฐแบบครบวงจร และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนคนไทยทุกคน ตามแนวความคิด E-Government ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงภาครัฐผ่านช่องทางที่ง่าย จบ ครบทุกช่วงวัย โดยประชาชนสามารถขอรับบริการได้แบบออนไลน์ทั้งหมด ลดค่าใช้จ่าย การเตรียมเอกสาร และประหยัดเวลาในการติดต่อหน่วยงานราชการ
รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยการนำระบบ Blockchain มาใช้เพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรม ต้องมีการยืนยันตัวตนบนแอปพลิเคชันด้วยมาตรฐานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล รวมถึงมีการเชื่อมข้อมูลของแต่ละหน่วยงาน ทำให้สามารถตรวจจับผู้ที่ดำเนินธุรกรรมอย่างผิดกฎหมาย หรือใช้ไม่ตรงวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ยังถูกออกแบบมาให้มีการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าแบบพบหน้า และต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันกับชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้านหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขจะทำให้การใช้จ่ายนั้นไม่ผ่าน ทำให้ต้องมีการตรวจสอบ 3 ด้าน ได้แก่ 1) ที่อยู่ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการฯ 2) ที่อยู่ของประชาชนตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการฯ และ 3) พิกัดที่อยู่ของประชาชนในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์
อย่างไรก็ดี ผู้ที่ชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้านกับที่อยู่จริง ณ ปัจจุบัน ไม่ตรงกัน กระทรวงการคลังเปิดโอกาสให้สามารถย้ายที่อยู่ในทะเบียนบ้านได้ โดยให้ย้ายทะเบียนบ้าน ที่อำเภอ หรือสำนักงานเขต ให้เสร็จสิ้นก่อนทำการลงทะเบียนสมัคร Digital Wallet 1 วัน เช่น หากวางแผนจะลงทะเบียนสมัคร Digital Wallet ในวันที่ 1 กันยายน 2567 ให้ย้ายทะเบียนบ้านให้เสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567
“นายกรัฐมนตรีมุ่งหวังให้โครงการ Digital Wallet วางรากฐานระบบเศรษฐกิจดิจิทัล และ E-Government ให้ประเทศ ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพยกระดับต่อยอดพัฒนาให้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ไปสู่การเป็น “Super App” ซึ่งนอกจากจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลของประชาชนถึง 40-50 ล้านนคนแล้ว ยังวางเป้าหมายยกระดับการให้บริการ แก่ประชาชนคนไทยทุกคนและทุกช่วงวัย ให้สามารถรับบริการจากหน่วยงานรัฐได้อย่างสะดวก ครอบคลุม ปลอดภัย และตรวจสอบได้” นายชัย กล่าว
‘กระทรวงดีอี’ เปิดจุด Walk-in ลงทะเบียน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ 5,199 แห่งทั่วประเทศ
ทางด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงดีอี และกระทรวงการคลัง ได้เปิดช่องทางให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการ โดยกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปฯ “ทางรัฐ” ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการของสมาร์ตโฟน ดังนี้
1. แอปพลิเคชัน “App Store” สำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ดาวน์โหลดได้ที่ https://apps.apple.com/th/app/%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3-%E0%B8%90/id1514331336?l=th
2. แอปพลิเคชัน “Google Play” สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ดาวน์โหลดได้ที่
https://play.google.com/store/apps/details?id=th.or.dga.citizenportal
สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน หรือผู้ที่มีสมาร์ตโฟน แต่ต้องการความช่วยเหลือให้การลงทะเบียนฯ รัฐบาลได้กำหนดสถานที่จุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดังนี้
1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
2.ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
4.ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ประชาชน ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสอบถามข้อมูล และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่จุดบริการจำนวนรวม 5,199 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวง ดีอี กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้บริการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตามระยะเวลาทำการ
สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นข้อมูลโดยตรงจากรัฐบาล ที่เชื่อถือได้ ในเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 พร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
“รัฐบาล โดยกระทรวงดีอี กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความห่วงใยประชาชน ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ โดยได้จัดสถานที่ เป็นจุดให้บริการแบบ Walk-in เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการสอบถามข้อมูล และให้บริการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5,199 จุดทั่วประเทศ เพิ่มเติมจากการลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของประชาชน โดยคาดว่าจะมีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 45-50 ล้านคน” นายประเสริฐ กล่าวย้ำ
"ชนินทร์" มั่นใจงบฯเพิ่มเติมผ่านสภาฯแน่ ชี้แอปฯ "ทางรัฐ" ช่วยลดปัญหาทุจริต
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่จะกลับเข้ามาพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) โดยเชื่อมั่นว่า สภาจะมีมติเห็นชอบในวาระ 3 อย่างแน่นอน เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายเรือธงที่สำคัญของรัฐบาล ส.ส.ที่ได้ลงพื้นที่สัมผัสกับพี่น้องประชาชน รู้เห็นปัญหาของจริงย่อมเห็นถึงความจำเป็นของการเติมกำลังซื้อและกระจายเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ ควบคู่ไปกับการจูงใจประชาชนทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลของรัฐขนาดใหญ่ หรือ Government Big Data ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อเริ่มเปลี่ยนถ่ายการบริการของภาครัฐสู่ยุคดิจิทัล หรือ E-Government อย่างเป็นรูปธรรมในรัฐบาลนี้
นายชนินทร์ กล่าวว่า นอกจากเติมเงินเข้าสู่กระเป๋าเงินของประชาชน รัฐบาลเลือกใช้แอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งจะเป็นการสร้างระบบการจัดเก็บข้อมูลด้วยเทคโนโลยีบลอคเชนที่มีความปลอดภัยและสามารถสืบค้นข้อมูลได้ ซึ่งพบว่ามีประชาชนสนใจเข้ามาลงทะเบียนจำนวนมาก และยังเสริมประโยชน์แฝงอยู่อีกหลายประการ อาทิ
1. การกำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายในอำเภอและประเภทสินค้าที่ใช้ได้ เพื่อส่งเสริมการกระจายตัวของเม็ดเงินลงทุกพื้นที่ ไม่กระจุกในเมืองหลัก และให้เม็ดเงินได้ต่อยอดการผลิต การจ้างงาน ในประเทศให้มากที่สุด
2. การกำหนดเงื่อนไขการขึ้นเงินสด ภายหลังการใช้จ่ายในวงรอบที่ 2 แล้ว เพื่อส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบดิจิทัลที่มากขึ้น ก่อนจะมาหมุนต่อในสภาพเงินสดต่ออีก
3. การจัดเก็บข้อมูลในระบบใหม่นี้ จะป้องกันการทุจริตได้มากขึ้น เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลทุกธุรกรรม แบบกระจายการจัดเก็บอยู่หลายที่ ไม่สามารถไปแก้ไขข้อมูลได้ง่าย จึงสืบค้นได้แม่นยำขึ้น
4. ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ได้จากการเข้ามาร่วมโครงการ และการใช้งานแอปพลิเคชันนี้ จะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบในระบบคลาวด์ ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลกลาง ที่ช่วยให้การดำเนินนโยบายอื่นๆของรัฐ สามารถทำได้ตรงเป้ามากขึ้น
“นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตนี้ ไม่ใช่การแจกเงินเยียวยาเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือการหว่านเงินหวังสร้างประชานิยม แต่คือการขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ให้นำเงินดิจิทัลที่ได้จากรัฐ ไปช่วยกันใช้จ่ายในทุกพื้นที่ ให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการเป็นกลไกในการกระตุกเศรษฐกิจในระยะสั้น และสร้างความคุ้นเคยแก่คนทั้งประเทศ สู่การเดินหน้าสู่สังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะต่อไป” นายชนินทร์กล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- “ธีรรัตน์” เยือนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม รับฟังภารกิจดูแลคนไทยในอิตาลี 21 พ.ค. 2568
- ปกครอง มท. ทลายบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์มกระบี่ เงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน 21 พ.ค. 2568
- รัฐบาล "อุ๊งอิ๊ง" เปิดตัวโครงการ Thai Face Top Model ดัน Soft Power ไทยแท้สู่เวทีโลก 21 พ.ค. 2568
- นายกฯนำทีมไทยแลนด์เยือนยุโรป เยี่ยมชมค่ายมวยไทยชื่อดังในกรุงลอนดอน 21 พ.ค. 2568
- "วราวุธ" เผย ทีม พม.นนทบุรี ช่วยชายสูงวัยถูกทิ้ง ส่ง รพ. เจ้าตัวปฏิเสธกลับภูมิลำเนาน่าน ชี้เหตุถูกทิ้งมาตั้งแต่เกิด 21 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
‘ประเสริฐ’ ติดตามสถานการณ์น้ำเชิงรุก 4 จังหวัดอีสานกลาง ‘ขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด’ เร่งรับมือ ‘น้ำท่วม-น้ำแล้ง-ฝนทิ้งช่วง’ 18:49 น.
- TJA จัดพิธีมอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดาสมาชิก ประจำปี 2568 อบอุ่น ตอกย้ำความมุ่งมั่นส่งเสริมอนาคตเยาวชน 18:38 น.
- นายกฯลุยหน้างานดันผลไม้ไทยสู่เวทีโลก เยี่ยมชมกระบวนการจันทบุรีส่งออกทุเรียนและมังคุดไปจีน 16:45 น.
- "เผ่าภูมิ" แก้ที่ดินทำกิน "สวนผึ้ง" เอาที่รัฐ-ให้ราษฎร์ทำกิน กว่า 650 ไร่ เพียง 20 บาทต่อปี ลั่นคนไทยต้องท้องอิ่ม-นอนอุ่น 15:24 น.
- "ทวี" เล็งชง ครม. ออกซอฟท์โลน 1.5 หมื่นล้าน ช่วยจังหวัดชายแดนใต้ รับมอบดอกไม้ให้กำลังใจ 15:17 น.